“ชิลด์ท้อกซ์” เดินเกมหนัก ไล่
จี้ติด ไบก้อน อัดงบ 50 ล้านบาท ส่ง “แนทเชอร์การ์ด
ออโตเมติกสเปรย์” เข้าตลาด หวังเพิ่มแชร์กลุ่มสเปรย์
เป็น 30%
นางแองเจล่า เรเยส ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่ม
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัท ริกคิทท์ เบนคี
เซอร์ เฮลธ์แคร์ ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงภายใต้แบรนด์ ชิลด์ท้อกซ์ กล่าวว่า
ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงมีมูลค่าตลาดรวม
ประมาณ 3,534ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มสเปรย์
60% หรือประมาณ 2,136 ล้านบาท ซึ่งมากที่สุดจาก
ตลาดรวม
โดยมีแบรนด์ไบก้อนเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง
ประมาณ 42% ตามด้วยชิลด์ท้อกซ์ 28% เป็นอันดับที่
สอง แต่คาดว่าหลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่
เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่องคาดว่าในอีก 5 ปีจากนี้
ชิลด์ท้อกซ์ จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 35% โดย
ในส่วนของผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมี
อัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% ปรับตัวดีขึ้นจากต้นปี
เนื่องจากคู่แข่งในตลาดออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามา
ทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในช่วงหน้าฝนปีนี้ ยอดขายของผลิตภัณฑ์
ชิลด์ท้อกซ์ รูปแบบสเปรย์มีเติบโต 20% จากช่วงปกติ
เพราะเป็นฤดูกาลขายของผลิตภัณฑ์กำจัดยุง และแมลง
ขณะที่ยอดขายรวมช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทเติบโต
ประมาณ16% ถือว่าสูงกว่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์กำจัด
แมลงที่เติบโตเพียง 0.6% เท่านั้น
ล่าสุดบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิลด์ท้อกซ์นวัตกรรมใหม่
“แนทเชอร์การ์ด ออโตเมติกสเปรย์” มีสารสกัดจาก
ธรรมชาติเข้าทำตลาด ใช้งบ 50 ล้านบาทในการทำ
ตลาดช่วงแรก คาดว่าสินค้าใหม่นี้จะทำให้สิ้นปีนี้บริษัท
จะมีส่วนแบ่งตลาดในรูปแบบสเปรย์เพิ่มเป็น 30% จาก
ปัจจุบันอยู่ที่ 28% จากมูลค่าตลาด 2,136 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์
ชิลด์ท้อกซ์ปัจจุบันมีประมาณ 17.5% จะเพิ่มเป็น 18%
ในสิ้นปีนี้ และเป็นอันดับ 2 ในตลาดรองจากไบก้อน
“ตอนนี้เราต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าในกลุ่ม
สเปรย์ก่อน และเมื่อแข็งแกร่งดีแล้ว เราจึงจะค่อยเปิด
ตลาดผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงในรูปแบบขดเข้าทำตลาด
ตามมา” นางแองเจล่ากล่าว
จี้ติด ไบก้อน อัดงบ 50 ล้านบาท ส่ง “แนทเชอร์การ์ด
ออโตเมติกสเปรย์” เข้าตลาด หวังเพิ่มแชร์กลุ่มสเปรย์
เป็น 30%
นางแองเจล่า เรเยส ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่ม
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัท ริกคิทท์ เบนคี
เซอร์ เฮลธ์แคร์ ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงภายใต้แบรนด์ ชิลด์ท้อกซ์ กล่าวว่า
ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงมีมูลค่าตลาดรวม
ประมาณ 3,534ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มสเปรย์
60% หรือประมาณ 2,136 ล้านบาท ซึ่งมากที่สุดจาก
ตลาดรวม
โดยมีแบรนด์ไบก้อนเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง
ประมาณ 42% ตามด้วยชิลด์ท้อกซ์ 28% เป็นอันดับที่
สอง แต่คาดว่าหลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่
เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่องคาดว่าในอีก 5 ปีจากนี้
ชิลด์ท้อกซ์ จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 35% โดย
ในส่วนของผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมี
อัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% ปรับตัวดีขึ้นจากต้นปี
เนื่องจากคู่แข่งในตลาดออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามา
ทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในช่วงหน้าฝนปีนี้ ยอดขายของผลิตภัณฑ์
ชิลด์ท้อกซ์ รูปแบบสเปรย์มีเติบโต 20% จากช่วงปกติ
เพราะเป็นฤดูกาลขายของผลิตภัณฑ์กำจัดยุง และแมลง
ขณะที่ยอดขายรวมช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทเติบโต
ประมาณ16% ถือว่าสูงกว่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์กำจัด
แมลงที่เติบโตเพียง 0.6% เท่านั้น
ล่าสุดบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิลด์ท้อกซ์นวัตกรรมใหม่
“แนทเชอร์การ์ด ออโตเมติกสเปรย์” มีสารสกัดจาก
ธรรมชาติเข้าทำตลาด ใช้งบ 50 ล้านบาทในการทำ
ตลาดช่วงแรก คาดว่าสินค้าใหม่นี้จะทำให้สิ้นปีนี้บริษัท
จะมีส่วนแบ่งตลาดในรูปแบบสเปรย์เพิ่มเป็น 30% จาก
ปัจจุบันอยู่ที่ 28% จากมูลค่าตลาด 2,136 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์
ชิลด์ท้อกซ์ปัจจุบันมีประมาณ 17.5% จะเพิ่มเป็น 18%
ในสิ้นปีนี้ และเป็นอันดับ 2 ในตลาดรองจากไบก้อน
“ตอนนี้เราต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าในกลุ่ม
สเปรย์ก่อน และเมื่อแข็งแกร่งดีแล้ว เราจึงจะค่อยเปิด
ตลาดผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงในรูปแบบขดเข้าทำตลาด
ตามมา” นางแองเจล่ากล่าว