ASTVผู้จัดการรายวัน-กทม. “ยุคคุณชาย”ล้อมคอกคุมสุนัขจรจัด ทุ่มงบประมาณ 6.5 ล้านบาท สั่งเจ้าหน้าที่เขตจับทำหมัน-ฝังไมโครชิพ กว่ า20,000 ตัว กระตุ้นคนเลี้ยงรักเหมือนลูก
วานนี้ (21 ส.ค.) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงมาตรการดูแลสุนัขในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. มีนโยบายที่จะต้องทำหมันสุนัข และฝังไมโครชิพให้ได้ทั้งหมด 20,000 ตัว งบประมาณ 6.5 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ตามระเบียบราชการ และเตรียมจัดซื้อรถโมบายเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการทำหมันสุนัขและฉีดไมโครชิพนอกสถานที่ โดยจะไปตั้งตามแหล่งชุมชนใหญ่ๆ ทั้งนี้ กทม. มีศูนย์พักพิงสุนัข 2 แห่ง คือ 1.ศูนย์พักพิงสุนัขประเวศ ซึ่งล่าสุดมีจำนวนสุนัขจรจัดประมาณ 2,000 ตัว โดยกทม.พยายามดูแลสถานที่ให้ถูกสุขลักษณะ และ กทม. ก็มีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลสัตว์ ห้องสำนักงาน รวมถึงการจ้างบุคลากรมาดูแลสุนัขเหล่านั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และ 2.ศูนย์พักพิงสุนัขทัพทัน จ.อุทัยธานี มีจำนวนสุนัขจรจัดประมาณ 2,000 ตัว ซึ่งสามารถรองรับได้อีกมาก สำหรับงบประมาณในการดูแลสุนัขจรจัด โดยจำแนกเป็นค่าอาหารปีละ 8 ล้านบาท แต่ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท ค่าวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าปีละ 6 ล้านบาท ค่าทำหมันปีละ 6.5 ล้านบาท และค่าฉีดไมโครชิพปีละประมาณ 5 ล้านบาท แต่หากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบุคลากร ค่าดูแล เป็นต้น อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจจำนวนสุนัขในพื้นที่กรุงเทพฯ ของสำนักสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2553 พบว่า มีจำนวนสุนัขบ้านประมาณ 600,000 ตัว และสุนัขจรจัดประมาณ 100,000 ตัว ซึ่งการทำหมันมีส่วนทำให้สุนัขจรจัดเพิ่มขึ้นไม่มาก อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สัตวแพทย์นำสุนัขพันธุ์ต่างๆ มาวิเคราะห์วิจัยว่าการเลี้ยงดูสุนัขแต่ละพันธุ์ตลอดทั้งชีวิตของสุนัขตัวนั้นจะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ ตอนสุนัขโตขึ้นจะเป็นอย่างไร และมีโรคอะไรบ้างที่จะมาจากสุนัข เพื่อให้คนที่คิดจะเลี้ยงได้ตระหนักให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้จำนวนประชาชนที่เลี้ยงสุนัขเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะฉะนั้นาต้องมีการปลูกจิตสำนึกของคนเลี้ยงให้รักสุนัขเหมือนรักลูก ไม่ทอดทิ้ง.
วานนี้ (21 ส.ค.) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงมาตรการดูแลสุนัขในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. มีนโยบายที่จะต้องทำหมันสุนัข และฝังไมโครชิพให้ได้ทั้งหมด 20,000 ตัว งบประมาณ 6.5 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ตามระเบียบราชการ และเตรียมจัดซื้อรถโมบายเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการทำหมันสุนัขและฉีดไมโครชิพนอกสถานที่ โดยจะไปตั้งตามแหล่งชุมชนใหญ่ๆ ทั้งนี้ กทม. มีศูนย์พักพิงสุนัข 2 แห่ง คือ 1.ศูนย์พักพิงสุนัขประเวศ ซึ่งล่าสุดมีจำนวนสุนัขจรจัดประมาณ 2,000 ตัว โดยกทม.พยายามดูแลสถานที่ให้ถูกสุขลักษณะ และ กทม. ก็มีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลสัตว์ ห้องสำนักงาน รวมถึงการจ้างบุคลากรมาดูแลสุนัขเหล่านั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และ 2.ศูนย์พักพิงสุนัขทัพทัน จ.อุทัยธานี มีจำนวนสุนัขจรจัดประมาณ 2,000 ตัว ซึ่งสามารถรองรับได้อีกมาก สำหรับงบประมาณในการดูแลสุนัขจรจัด โดยจำแนกเป็นค่าอาหารปีละ 8 ล้านบาท แต่ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท ค่าวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าปีละ 6 ล้านบาท ค่าทำหมันปีละ 6.5 ล้านบาท และค่าฉีดไมโครชิพปีละประมาณ 5 ล้านบาท แต่หากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบุคลากร ค่าดูแล เป็นต้น อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจจำนวนสุนัขในพื้นที่กรุงเทพฯ ของสำนักสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2553 พบว่า มีจำนวนสุนัขบ้านประมาณ 600,000 ตัว และสุนัขจรจัดประมาณ 100,000 ตัว ซึ่งการทำหมันมีส่วนทำให้สุนัขจรจัดเพิ่มขึ้นไม่มาก อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สัตวแพทย์นำสุนัขพันธุ์ต่างๆ มาวิเคราะห์วิจัยว่าการเลี้ยงดูสุนัขแต่ละพันธุ์ตลอดทั้งชีวิตของสุนัขตัวนั้นจะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ ตอนสุนัขโตขึ้นจะเป็นอย่างไร และมีโรคอะไรบ้างที่จะมาจากสุนัข เพื่อให้คนที่คิดจะเลี้ยงได้ตระหนักให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้จำนวนประชาชนที่เลี้ยงสุนัขเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะฉะนั้นาต้องมีการปลูกจิตสำนึกของคนเลี้ยงให้รักสุนัขเหมือนรักลูก ไม่ทอดทิ้ง.
