ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (17 ส.ค) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ได้สักการะพระพรหมและศาลพระภูมิเจ้าที่
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการภายหลังจากที่ได้เข้ามานั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่
ผ่านมา ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิทเปิดเผยว่า ที่เพิ่งมาไหว้สักการะพระพรหมเพราะลืม ไม่ได้มีฤกษ์ยามอะไร วันแรกที่มาทำงานก็อุ้ม
พระมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่มาเตือนว่ายังไม่ได้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของทำเนียบ จึงถือโอกาสสักการะ ส่วนการที่เชิญนายถวิล
เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาหารือเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากตนเป็นรองนายกฯ จะต้อง
รับทราบและพูดคุยเกี่ยวกับงานทั่วๆ ไป ซึ่งตนเห็นใจการทำงานของ สมช.ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ร้อยกว่าคน แต่งานมีมากและไม่
สามารถเพิ่มคนได้
เมื่อถามว่า ได้ให้ความมั่นใจกับนายถวิลหรือไม่ว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนเลขาธิการ สมช. เพราะนายถวิลเคยดำรง
ตำแหน่งเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ในตอนนี้
การทำงานของรัฐบาลกับข้าราชการประจำนั้น หากถ้ายังทำงานร่วมกันได้ก็คงไม่จำเป็นต้องปรับอะไร
เมื่อถามว่า แต่บางคนในพรรคเพื่อไทยยังติดใจที่นายถวิลทำงานมีบทบาทสำคัญใน ศอฉ. รองนายกฯกล่าวเพียงสั้นๆ
ว่า เรื่องเก่า ลืมเสียบ้าง และว่า ต้องทำงานร่วมกันไปก่อน เราเป็นผู้ใหญ่อย่าไปรวบรัด ต้องดูการทำงาน ทั้งนี้ การทำงานของ
รัฐบาลยุคนี้ทำงานลำบาก เพราะประชาชนคาดหวังสูง ส่วนการแบ่งงานของรองนายกฯนั้น นายกฯได้พูดชัดเจนแล้วว่าจะมอบ
หมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดูแลงานปราบปรามยาเสพติด และกระบวนการยุติธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.โกวิท ได้เชิญนายถวิล เข้าพบที่
ห้องทำงาน บนตึกบัญชาการ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที โดยเลขาธิการสมช. แจงว่า พล.ต.อ.โกวิทไม่ได้เป็นห่วงเรื่องใด
เป็นพิเศษ ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิทได้รับมอบหมายอย่างไม่เป็นทางการ ให้มาดูงานด้านความมั่นคง ในส่วนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
และ สมช. รวมทั้งยังได้ขอข้อมูลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคง เช่น เรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน สถานการณ์
ตามแนวชายแดน เรื่องจังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งสถานการณ์เรื่องความมั่นคงทั่วๆไป เพื่อให้รัฐบาลจะต้องแถลงนโยบาย
**“ปู”สั่งเช็คบ้านพิษฯใช้ทำงานคู่ทำเนียบ
เวลา 15.30 น.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ตำรวจติดตามเข้าตรวจเช็คบ้านพิษณุโลก ซึ่งที่ผ่าน
มาทุกรัฐบาลได้ใช้เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกสำคัญของรัฐบาล และใช้เป็นสถานที่ในการประชุมแกนนำรัฐบาล หรือคณะ
กรรมการต่างๆ จัดตั้งขึ้น โดยไม่ได้มีการสั่งการแจ้งยังเจ้าหน้าที่ทำเนียบแต่อย่างใด ขณะที่ผู้สื่อข่าวเองก็ต่างไปดักรอที่บ้าน
พิษณุโลก ซึ่งปรากฏว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เองก็ไม่ได้เดินทางไปบ้านพิษณุโลกแต่อย่างใด ยังคงนั่งทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า จนกระทั้งเวลา
18.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้เดินทางกลับบ้านพัก
**คาด“เป็ดเหลิม”รองนายกฯคนที่ 2
อีกด้าน ความคืบหน้า การพิจารณามอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายก
รัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทน หลังจากมีกระแสว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะกำกับกระทรวงด้านความมั่นคงทาง
ยุทธศาสตร์ เช่น กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ มาขอกำกับเองนั้น
ล่าสุดในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ชัดเจนว่า รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 น่าจะเป็น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รอง
นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 นายธีระชัย
ภูวนาถนรานุบาล รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 6นายชุมพล ศิลปอาชา
ขณะที่การแบ่งงาน ร.ต.อ.เฉลิม จะได้กำกับ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกับและปราบปรามยา
เสพติด (ปปส.) และกรมประชาสัมพันธ์ ส่วนพล.ต.อ.โกวิท ยังมีชื่อได้กำกับ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่นายยงยุทธ มีชื่อกำกับ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้า
ราชการพลเรือน
นายชุมพล คาดว่าจะได้กำกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนรองนายกฯด้าน
เศรษฐกิจมหาภาพ นายธีระชัย จะได้กำกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยนายกิตติรัตน์ ยังมีชื่อจะได้กำกับด้านเศราฐกิจภาพรวม เช่นกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวง
พลังงาน กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ขณะที่ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะได้ดูแลสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะได้ดูแลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการภายหลังจากที่ได้เข้ามานั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่
ผ่านมา ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิทเปิดเผยว่า ที่เพิ่งมาไหว้สักการะพระพรหมเพราะลืม ไม่ได้มีฤกษ์ยามอะไร วันแรกที่มาทำงานก็อุ้ม
พระมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่มาเตือนว่ายังไม่ได้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของทำเนียบ จึงถือโอกาสสักการะ ส่วนการที่เชิญนายถวิล
เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาหารือเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากตนเป็นรองนายกฯ จะต้อง
รับทราบและพูดคุยเกี่ยวกับงานทั่วๆ ไป ซึ่งตนเห็นใจการทำงานของ สมช.ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ร้อยกว่าคน แต่งานมีมากและไม่
สามารถเพิ่มคนได้
เมื่อถามว่า ได้ให้ความมั่นใจกับนายถวิลหรือไม่ว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนเลขาธิการ สมช. เพราะนายถวิลเคยดำรง
ตำแหน่งเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ในตอนนี้
การทำงานของรัฐบาลกับข้าราชการประจำนั้น หากถ้ายังทำงานร่วมกันได้ก็คงไม่จำเป็นต้องปรับอะไร
เมื่อถามว่า แต่บางคนในพรรคเพื่อไทยยังติดใจที่นายถวิลทำงานมีบทบาทสำคัญใน ศอฉ. รองนายกฯกล่าวเพียงสั้นๆ
ว่า เรื่องเก่า ลืมเสียบ้าง และว่า ต้องทำงานร่วมกันไปก่อน เราเป็นผู้ใหญ่อย่าไปรวบรัด ต้องดูการทำงาน ทั้งนี้ การทำงานของ
รัฐบาลยุคนี้ทำงานลำบาก เพราะประชาชนคาดหวังสูง ส่วนการแบ่งงานของรองนายกฯนั้น นายกฯได้พูดชัดเจนแล้วว่าจะมอบ
หมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดูแลงานปราบปรามยาเสพติด และกระบวนการยุติธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.โกวิท ได้เชิญนายถวิล เข้าพบที่
ห้องทำงาน บนตึกบัญชาการ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที โดยเลขาธิการสมช. แจงว่า พล.ต.อ.โกวิทไม่ได้เป็นห่วงเรื่องใด
เป็นพิเศษ ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิทได้รับมอบหมายอย่างไม่เป็นทางการ ให้มาดูงานด้านความมั่นคง ในส่วนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
และ สมช. รวมทั้งยังได้ขอข้อมูลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคง เช่น เรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน สถานการณ์
ตามแนวชายแดน เรื่องจังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งสถานการณ์เรื่องความมั่นคงทั่วๆไป เพื่อให้รัฐบาลจะต้องแถลงนโยบาย
**“ปู”สั่งเช็คบ้านพิษฯใช้ทำงานคู่ทำเนียบ
เวลา 15.30 น.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ตำรวจติดตามเข้าตรวจเช็คบ้านพิษณุโลก ซึ่งที่ผ่าน
มาทุกรัฐบาลได้ใช้เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกสำคัญของรัฐบาล และใช้เป็นสถานที่ในการประชุมแกนนำรัฐบาล หรือคณะ
กรรมการต่างๆ จัดตั้งขึ้น โดยไม่ได้มีการสั่งการแจ้งยังเจ้าหน้าที่ทำเนียบแต่อย่างใด ขณะที่ผู้สื่อข่าวเองก็ต่างไปดักรอที่บ้าน
พิษณุโลก ซึ่งปรากฏว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เองก็ไม่ได้เดินทางไปบ้านพิษณุโลกแต่อย่างใด ยังคงนั่งทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า จนกระทั้งเวลา
18.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้เดินทางกลับบ้านพัก
**คาด“เป็ดเหลิม”รองนายกฯคนที่ 2
อีกด้าน ความคืบหน้า การพิจารณามอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายก
รัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทน หลังจากมีกระแสว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะกำกับกระทรวงด้านความมั่นคงทาง
ยุทธศาสตร์ เช่น กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ มาขอกำกับเองนั้น
ล่าสุดในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ชัดเจนว่า รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 น่าจะเป็น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รอง
นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 นายธีระชัย
ภูวนาถนรานุบาล รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 6นายชุมพล ศิลปอาชา
ขณะที่การแบ่งงาน ร.ต.อ.เฉลิม จะได้กำกับ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกับและปราบปรามยา
เสพติด (ปปส.) และกรมประชาสัมพันธ์ ส่วนพล.ต.อ.โกวิท ยังมีชื่อได้กำกับ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่นายยงยุทธ มีชื่อกำกับ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้า
ราชการพลเรือน
นายชุมพล คาดว่าจะได้กำกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนรองนายกฯด้าน
เศรษฐกิจมหาภาพ นายธีระชัย จะได้กำกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยนายกิตติรัตน์ ยังมีชื่อจะได้กำกับด้านเศราฐกิจภาพรวม เช่นกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวง
พลังงาน กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ขณะที่ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะได้ดูแลสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะได้ดูแลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)