วานนี้ (26 ส.ค)เว็ปไซต์ฟิฟทีนมูฟ รายงานว่า ในช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 26 ส.ค.ได้เกิดเสียงระเบิดสนั่นในพื้นที่ จ.พระวิหาร จนคนในเขตฝั่งไทยได้ยิน ซึ่งสื่อกัมพูชา-รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เกิดเสียงระเบิดเหนือน่านฟ้า จ.พระวิหาร และมีเศษชิ้นส่วนโลหะ ตกลงใน 4 พื้นที่ ของ อ.กูเลน โดยเจ้าหน้ากัมพูชาได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เป็นเครื่องบินสอดแนมชนิดไม่มีคนขับ พร้อมกับเปิดเผยว่า ได้เก็บวัตถุหลักฐานดังกล่าว ส่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ต่อไป เพื่อจะเตรียมส่งเป็นหลักฐานไปศาลโลก
แหล่งข่าวในพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหารของเว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.10 น. ได้เกิดเสียงคล้ายเสียงระเบิดดังสนั่นถึง 3 ครั้งติดกัน และมีคลื่นเสียงกระแทกตามมารับฟังได้ที่บึงมะลู ห่างจากพระวิหารทางตรงประมาณ 15- 20 ก.ม. เมื่อสอบถามข้อมูลไปยังผามออีแดงและภูมะเขือ ได้รับแจ้งว่าได้ยินเสียงดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่มีเหตุการณ์ยิงหรือปะทะแต่อย่างใด คาดการณ์ว่าเป็นเสียงที่มาจากฝั่งกัมพูชา แต่ไม่สามารถตรวจสอบ หรือสังเกตการณ์เนื่องจากหมอกลงจัดทำให้วิสัยทัศน์แย่มาก แหล่งข่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่น่าจะใช่การทำลายระเบิดขององค์การซีมัค (CMAC) ของกัมพูชา ซึ่งมีสถานที่ทำลายระเบิดอยู่ไม่ห่างพื้นที่ของหมู่บ้านสมเด็จเดโชฯ อ.จวมกสาน มากนัก เนื่องจากทุกครั้งที่จะมีการทำลายระเบิดจะแจ้งให้ฝ่ายไทยรับทราบล่วงหน้าทุกครั้ง และครั้งนี้เป็นการระเบิดในช่วงเช้าตรู่ซึ่งไม่ใช่เวลาทำการ
ด้านเว็บไซต์สำนักข่าวซีอีเอ็น รายงานว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ เวลาประมาณ 06.00 น. มีเสียงระเบิดเหนืออากาศดังติดต่อกันเป็นเวลา 10 นาที เสียงดังสนั่นหวั่นไหวในท้องฟ้าเหนือที่ชุมชนใน อ.กูเลน จ.พระวิหาร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ที่อยู่อาศัยใน จ.เสียมราฐ มีความตื่นตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
**บิ๊กอ๊อดได้รับจดหมาย“เตีย บัน”ขอคุย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาคไทย-กัมพูชา ( อาร์บีซี ) ว่า ตนได้รับจดหมายเชิญจาก พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา ขอให้ไปประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ( จีบีซี ) ครั้งที่ 8 ที่กรุงพนมเปญ โดยด่วน และขอให้ตนส่งเลขาฯ ไปประสานงานก่อนเพื่อเตรียมการประชุม ซึ่งอาจจะเป็นต้นเดือนหน้า แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดวันเวลาที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 ส.ค. เวลา 09.00 น. จะเชิญเจ้ากรมกิจการชายแดนมาพบ เพื่อเตรียมงาน และจะเชิญกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียด ที่กระทรวงกลาโหม หลังจากนั้นในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค. จะเดินทางไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อตรวจเยี่ยมทหารที่ชายแดนด้านประเทศกัมพูชา และรับฟังแม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงสถานการณ์เป็นครั้งสุดท้าย รวมถึงการดูภูมิประเทศด้วย
**อ้างเขมรเห็นด้วยอินโดฯอย่าจุ้น
ทั้งนี้ ถ้าประเทศไทยและกัมพูชา สามารถตกลงกันได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร และสองประเทศมีความปรองดองกันอยู่แล้ว เราก็จะต้องทำเรื่องกลับไปศาลโลก เพื่อชี้แจงว่าไม่จำเป็นจะต้องมีประเทศที่สามเข้ามาดูแล โดยจะเป็นข้อตกลงหลังจากมีการประชุม จีบีซี ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องมีประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้ เป็นข้อคิดเห็นของ พล.อ.เตีย บัน เอง ที่คิดว่าดีกว่าที่จะมีประเทศที่สามเข้ามาเป็นภาระของเรา อย่างไรก็ตาม เราได้ชี้แจงให้ทางศาลโลกเข้าใจในความเห็นที่ตรงกันของเราสองประเทศ
เมื่อถามว่า หากประชุมจีบีซีแล้ว จำเป็นต้องมีการประชุม อาร์บีซี หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการประชุม จีบีซี จะมีการประชุม อาร์บีซี ที่ จ.นครราชสีมาก่อน เพื่อตีกรอบการประชุมของจีบีซี ต่อไป
ส่วนการเปิดผลประโยชน์ในเรื่องการค้าชายแดน สามารถทำได้เลยหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในระหว่างการประชุมจีบีซีนั้น หากมีข้อตกลงระหว่างประเทศ จะต้องขออนุญาตจากสภาผู้แทนราษฎรก่อน ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะนัดประชุมครั้งแรก ซึ่งเป็นการประชุมวิสามัญ ที่ยังไม่ต้องกำหนดรายละเอียดที่แน่นอน แต่อะไรที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ เราเริ่มทำได้ และเราจะขออนุญาตต่อไปในการประชุมจีบีซี ในระบบสามัญต่อไป โดยมีตนเป็นหัวหน้าทีมของ จีบีซี
**มอบ“ดร.ปึ้ง”ศึกษาถอนตัวมรดกโลก
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม. ได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ศึกษาและทบทวนกรณี การถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก และความคืบหน้ากรณีกัมพูชาในศาลโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้มีมติ ครม. แต่ให้มีมติให้รัฐบาลชุดปัจจุบันพิจารณา โดยให้ไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีและเสนอต่อที่ประชุมครม.ต่อไป
แหล่งข่าวในพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหารของเว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.10 น. ได้เกิดเสียงคล้ายเสียงระเบิดดังสนั่นถึง 3 ครั้งติดกัน และมีคลื่นเสียงกระแทกตามมารับฟังได้ที่บึงมะลู ห่างจากพระวิหารทางตรงประมาณ 15- 20 ก.ม. เมื่อสอบถามข้อมูลไปยังผามออีแดงและภูมะเขือ ได้รับแจ้งว่าได้ยินเสียงดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่มีเหตุการณ์ยิงหรือปะทะแต่อย่างใด คาดการณ์ว่าเป็นเสียงที่มาจากฝั่งกัมพูชา แต่ไม่สามารถตรวจสอบ หรือสังเกตการณ์เนื่องจากหมอกลงจัดทำให้วิสัยทัศน์แย่มาก แหล่งข่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่น่าจะใช่การทำลายระเบิดขององค์การซีมัค (CMAC) ของกัมพูชา ซึ่งมีสถานที่ทำลายระเบิดอยู่ไม่ห่างพื้นที่ของหมู่บ้านสมเด็จเดโชฯ อ.จวมกสาน มากนัก เนื่องจากทุกครั้งที่จะมีการทำลายระเบิดจะแจ้งให้ฝ่ายไทยรับทราบล่วงหน้าทุกครั้ง และครั้งนี้เป็นการระเบิดในช่วงเช้าตรู่ซึ่งไม่ใช่เวลาทำการ
ด้านเว็บไซต์สำนักข่าวซีอีเอ็น รายงานว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ เวลาประมาณ 06.00 น. มีเสียงระเบิดเหนืออากาศดังติดต่อกันเป็นเวลา 10 นาที เสียงดังสนั่นหวั่นไหวในท้องฟ้าเหนือที่ชุมชนใน อ.กูเลน จ.พระวิหาร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ที่อยู่อาศัยใน จ.เสียมราฐ มีความตื่นตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
**บิ๊กอ๊อดได้รับจดหมาย“เตีย บัน”ขอคุย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาคไทย-กัมพูชา ( อาร์บีซี ) ว่า ตนได้รับจดหมายเชิญจาก พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา ขอให้ไปประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ( จีบีซี ) ครั้งที่ 8 ที่กรุงพนมเปญ โดยด่วน และขอให้ตนส่งเลขาฯ ไปประสานงานก่อนเพื่อเตรียมการประชุม ซึ่งอาจจะเป็นต้นเดือนหน้า แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดวันเวลาที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 ส.ค. เวลา 09.00 น. จะเชิญเจ้ากรมกิจการชายแดนมาพบ เพื่อเตรียมงาน และจะเชิญกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียด ที่กระทรวงกลาโหม หลังจากนั้นในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค. จะเดินทางไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อตรวจเยี่ยมทหารที่ชายแดนด้านประเทศกัมพูชา และรับฟังแม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงสถานการณ์เป็นครั้งสุดท้าย รวมถึงการดูภูมิประเทศด้วย
**อ้างเขมรเห็นด้วยอินโดฯอย่าจุ้น
ทั้งนี้ ถ้าประเทศไทยและกัมพูชา สามารถตกลงกันได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร และสองประเทศมีความปรองดองกันอยู่แล้ว เราก็จะต้องทำเรื่องกลับไปศาลโลก เพื่อชี้แจงว่าไม่จำเป็นจะต้องมีประเทศที่สามเข้ามาดูแล โดยจะเป็นข้อตกลงหลังจากมีการประชุม จีบีซี ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องมีประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้ เป็นข้อคิดเห็นของ พล.อ.เตีย บัน เอง ที่คิดว่าดีกว่าที่จะมีประเทศที่สามเข้ามาเป็นภาระของเรา อย่างไรก็ตาม เราได้ชี้แจงให้ทางศาลโลกเข้าใจในความเห็นที่ตรงกันของเราสองประเทศ
เมื่อถามว่า หากประชุมจีบีซีแล้ว จำเป็นต้องมีการประชุม อาร์บีซี หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการประชุม จีบีซี จะมีการประชุม อาร์บีซี ที่ จ.นครราชสีมาก่อน เพื่อตีกรอบการประชุมของจีบีซี ต่อไป
ส่วนการเปิดผลประโยชน์ในเรื่องการค้าชายแดน สามารถทำได้เลยหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในระหว่างการประชุมจีบีซีนั้น หากมีข้อตกลงระหว่างประเทศ จะต้องขออนุญาตจากสภาผู้แทนราษฎรก่อน ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะนัดประชุมครั้งแรก ซึ่งเป็นการประชุมวิสามัญ ที่ยังไม่ต้องกำหนดรายละเอียดที่แน่นอน แต่อะไรที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ เราเริ่มทำได้ และเราจะขออนุญาตต่อไปในการประชุมจีบีซี ในระบบสามัญต่อไป โดยมีตนเป็นหัวหน้าทีมของ จีบีซี
**มอบ“ดร.ปึ้ง”ศึกษาถอนตัวมรดกโลก
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม. ได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ศึกษาและทบทวนกรณี การถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก และความคืบหน้ากรณีกัมพูชาในศาลโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้มีมติ ครม. แต่ให้มีมติให้รัฐบาลชุดปัจจุบันพิจารณา โดยให้ไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีและเสนอต่อที่ประชุมครม.ต่อไป