00 ในที่สุดมันก็ต้องชัดเจนแบบนี้อยู่แล้ววันยังค่ำว่า รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าจะมีการปรับ ครม.กันกี่ครั้ง ตั้งรมต.กันกี่หนมันก็ย่อมหนีความจริงไม่พ้นว่า ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็น “พี่ชาย” เป็น “เจ้าของ” และเป็น “นายกฯเงา” คอยสั่งการให้ขับเคลื่อนทุกอย่าง ส่วน รมต.ในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และการเคลื่อนไหวในต่างประเทศก็ต้องเป็น “คนพิเศษ” คัดมาเฉพาะคนที่ไว้ใจได้จริงๆเท่านั้น ซึ่งนาทีนี้ไม่ต้องมีอธิบายอะไรกันมากทุกฝ่ายเข้าใจกันดี
00 เพียงแต่ที่น่าแปลกใจก็คือทำไมถึงได้ “เคลื่อนไหวเร็ว” แบบนี้ ทั้งที่ว่าไปแล้วรัฐบาล “น้องปู” ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อสภาด้วยซ้ำไป อาจเป็นเพราะ “สันดานเดิม” กำเริบ เก็บไม่อยู่ก็เป็นได้ อย่างเรื่องที่สั่งการให้ “ปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ในฐานะที่เป็น รมว.ต่างประเทศ “เคลียร์” เส้นทางในต่างประเทศให้สะดวก สำหรับการปฏิบัติภารกิจทั้งปิดลับและเปิดเผย ซึ่งงานแรกที่กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ทั้งที่ยังไม่ได้เข้ากระทรวงก็คือ การเจรจาให้ “นาย” เข้าญี่ปุ่นได้สำเร็จ
00 แม้ว่าภาพที่พยายามสื่อออกมาในแบบไปบรรยายทางวิชาการ แต่เชื่อเถอะว่าคนประเภทนี้คงไม่มีภารกิจเพียงแค่นี้หรอก อย่างน้อยต้องมีเรื่องอื่นแอบแฝง เพียงแต่ว่ายังไม่มีการเปิดออกมาเท่านั้นเอง เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เดินเข้าประเทศเยอรมันมาแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาบทบาทการทำหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศของ สุรพงษ์ มันก็เหมือนกับว่าเป็นการแต่งตั้งเข้ามาเพื่อทำหน้า “ส่วนตัว” เท่านั้น และอีกไม่นานก็จะเริ่มเดินหน้าสานต่อ “ธุรกิจพลังงาน” ในอ่าวไทยกับกัมพูชา เชื่อว่าเราคงจะได้เห็น “ธาตุแท้” ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
00 การออกมาเคลื่อนไหวให้มีการประกันตัว-เยียวยาคนเสื้อแดงที่กำลังถูกคุมขังและเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ จลาจล-เผาเมือง โดยเฉพาะการผลักดันจากบรรดา “หัวโจกเสื้อแดง” เช่น ขวัญชัย ไพรพนา ทั่น ส.ส.อุดรฯที่ยื่นขอประกันตัวนำร่องในพื้นที่ตัวเองก่อน จากนั้นก็จะเคลื่อนไหวขอประกันทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนนี้มีเสียงยืนยันมาจาก จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เวลานี้ออกจากคุกมาเป็น ส.ส.เต็มตัวแล้ว
00 แต่ที่น่าจับตาไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ ความพยายามในการเสนอให้มีการจ่ายเงินเยียวยากับครอบครัวคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตรายละถึง 10 ล้านบาท และบาดเจ็บจากเหตุการณ์เผาเมืองนี่สิ ดูแล้วน่าสนุกแน่ แม้ว่าในการผลักดันจะพ่วงเอาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต ในคราวเดียวกันด้วย คำถามก็คือ คนพวกนี้เป็นวีรบุรุษจากเหตุการณ์ก่อการร้ายหรือ และที่สาเหตุที่คนพวกนี้ออกมาร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั่นเป็นการต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย หรือต่อสู้เพื่อแม้ว หรือ “สู้เพื่อหัวโจก” กันแน่ เมื่อเป็นแบบนี้แล้วจะให้นำเงินของคนทั้งประเทศมาจ่ายมันไม่ “เกินไปหน่อย” หรือ
00 ประเด็นเรื่องนี้แหละระวังจะจุดชนวนความไม่พอใจของชาวบ้านขึ้นมาอีก กลายเป็นว่าสิ่งที่คนเขากำลังรออยู่ ทั้งในเรื่องแก้ปัญหาข้าวของแพง เพิ่มค่าแรง เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทที่กำลังตั้งตารอ ทำให้สำเร็จเสียก่อน แต่นี่กลับคิดแต่เรื่องพวกพ้อง สร้างเครดิตส่วนตัวมาก่อน แต่มองอีกมุมหนึ่งหากมั่นใจเต็มร้อยก็เต็มที่ไม่ต้องยั้ง !!
00 อย่างไรก็ดีถ้ามองอย่างรู้ทันก็ต้องขอบอกว่างานนี้เป็นการ “ช่วงชิงบทบาท” กันเองในหมู่ หัวโจกเสื้อแดงนั่นแหละ เพราะในที่สุดแล้วไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ได้หรือไม่ได้ ไม่เกี่ยวกัน แต่อย่างน้อยคนอย่าง จตุพร กับ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ หรือแม้แต่ ขวัญชัย ก็ “ได้ไปเต็มๆ” เพราะภาพที่เห็นคือ “ดันเต็มที่แล้ว” ทั้งที่จะว่าไปแล้ว หากจะมีการประกันตัวที่ผ่านมาพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งพรรคในสภาชุดก่อน รวมถึง จตุพร เองก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ทำไมถึงได้นิ่งเฉย ต้องรอมาจนถึงวันนี้ !!
00 เพียงแต่ที่น่าแปลกใจก็คือทำไมถึงได้ “เคลื่อนไหวเร็ว” แบบนี้ ทั้งที่ว่าไปแล้วรัฐบาล “น้องปู” ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อสภาด้วยซ้ำไป อาจเป็นเพราะ “สันดานเดิม” กำเริบ เก็บไม่อยู่ก็เป็นได้ อย่างเรื่องที่สั่งการให้ “ปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ในฐานะที่เป็น รมว.ต่างประเทศ “เคลียร์” เส้นทางในต่างประเทศให้สะดวก สำหรับการปฏิบัติภารกิจทั้งปิดลับและเปิดเผย ซึ่งงานแรกที่กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ทั้งที่ยังไม่ได้เข้ากระทรวงก็คือ การเจรจาให้ “นาย” เข้าญี่ปุ่นได้สำเร็จ
00 แม้ว่าภาพที่พยายามสื่อออกมาในแบบไปบรรยายทางวิชาการ แต่เชื่อเถอะว่าคนประเภทนี้คงไม่มีภารกิจเพียงแค่นี้หรอก อย่างน้อยต้องมีเรื่องอื่นแอบแฝง เพียงแต่ว่ายังไม่มีการเปิดออกมาเท่านั้นเอง เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เดินเข้าประเทศเยอรมันมาแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาบทบาทการทำหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศของ สุรพงษ์ มันก็เหมือนกับว่าเป็นการแต่งตั้งเข้ามาเพื่อทำหน้า “ส่วนตัว” เท่านั้น และอีกไม่นานก็จะเริ่มเดินหน้าสานต่อ “ธุรกิจพลังงาน” ในอ่าวไทยกับกัมพูชา เชื่อว่าเราคงจะได้เห็น “ธาตุแท้” ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
00 การออกมาเคลื่อนไหวให้มีการประกันตัว-เยียวยาคนเสื้อแดงที่กำลังถูกคุมขังและเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ จลาจล-เผาเมือง โดยเฉพาะการผลักดันจากบรรดา “หัวโจกเสื้อแดง” เช่น ขวัญชัย ไพรพนา ทั่น ส.ส.อุดรฯที่ยื่นขอประกันตัวนำร่องในพื้นที่ตัวเองก่อน จากนั้นก็จะเคลื่อนไหวขอประกันทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนนี้มีเสียงยืนยันมาจาก จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เวลานี้ออกจากคุกมาเป็น ส.ส.เต็มตัวแล้ว
00 แต่ที่น่าจับตาไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ ความพยายามในการเสนอให้มีการจ่ายเงินเยียวยากับครอบครัวคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตรายละถึง 10 ล้านบาท และบาดเจ็บจากเหตุการณ์เผาเมืองนี่สิ ดูแล้วน่าสนุกแน่ แม้ว่าในการผลักดันจะพ่วงเอาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต ในคราวเดียวกันด้วย คำถามก็คือ คนพวกนี้เป็นวีรบุรุษจากเหตุการณ์ก่อการร้ายหรือ และที่สาเหตุที่คนพวกนี้ออกมาร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั่นเป็นการต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย หรือต่อสู้เพื่อแม้ว หรือ “สู้เพื่อหัวโจก” กันแน่ เมื่อเป็นแบบนี้แล้วจะให้นำเงินของคนทั้งประเทศมาจ่ายมันไม่ “เกินไปหน่อย” หรือ
00 ประเด็นเรื่องนี้แหละระวังจะจุดชนวนความไม่พอใจของชาวบ้านขึ้นมาอีก กลายเป็นว่าสิ่งที่คนเขากำลังรออยู่ ทั้งในเรื่องแก้ปัญหาข้าวของแพง เพิ่มค่าแรง เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทที่กำลังตั้งตารอ ทำให้สำเร็จเสียก่อน แต่นี่กลับคิดแต่เรื่องพวกพ้อง สร้างเครดิตส่วนตัวมาก่อน แต่มองอีกมุมหนึ่งหากมั่นใจเต็มร้อยก็เต็มที่ไม่ต้องยั้ง !!
00 อย่างไรก็ดีถ้ามองอย่างรู้ทันก็ต้องขอบอกว่างานนี้เป็นการ “ช่วงชิงบทบาท” กันเองในหมู่ หัวโจกเสื้อแดงนั่นแหละ เพราะในที่สุดแล้วไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ได้หรือไม่ได้ ไม่เกี่ยวกัน แต่อย่างน้อยคนอย่าง จตุพร กับ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ หรือแม้แต่ ขวัญชัย ก็ “ได้ไปเต็มๆ” เพราะภาพที่เห็นคือ “ดันเต็มที่แล้ว” ทั้งที่จะว่าไปแล้ว หากจะมีการประกันตัวที่ผ่านมาพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งพรรคในสภาชุดก่อน รวมถึง จตุพร เองก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ทำไมถึงได้นิ่งเฉย ต้องรอมาจนถึงวันนี้ !!