โจรใต้เหี้ยมจ่อยิงครูปัตตานีดับนร.ซ้อนท้ายปลอดภัย-บึ้มรถทหารเละ

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายก่อเหตุโหดเหี้ยมประกบยิงครูโรงเรียนชุมชนตันหยงลูโละ ขณะขับขี่รถ จยย.เพื่อมาสอนหนังสือโดยมี นร.ซ้อนท้ายมาด้วย จนรถล้มก่อนลงไปจ่อยิง 4 นัดซ้อนดับคาถนน ขณะเดียวกันยังลอบวางระเบิด-จยย.บอมบ์รถทหารอีก 2 จุด แต่ไม่มีทหารได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (3 ส.ค.) พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งครูถูกยิงเสียชีวิต 1 รายที่บนถนนในหมู่บ้าน ม.1 ต.ตันหยงลูโละ อ.เมืองปัตตานี จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตชื่อ นายนภดล ศศิมณฑล อายุ 50 ปี ข้าราชการครูชำนาญการสอนชั้น ป.5 โรงเรียนชุมชนตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ครูนภดล กำลังขับขี่จักรยานยนต์ยามาฮ่าสีแดง ทะเบียน กลล 499 ปัตตานี ออกจากบ้านพักในตัวเมืองปัตตานี มุ่งหน้าไปทำงานโดยมีนักเรียนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย

ระหว่างทางก่อนจะถึงโรงเรียนประมาณ 500 เมตรได้มีคนร้าย 2 คนใช้จักรยานยนต์ตามประกบยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.3 นัดทำให้จักรยานยนต์ล้มลงกลางถนน หลังจากนั้นคนร้ายได้เข้ามาจ่อยิงซ้ำอีก 4 นัดจนเสียชีวิตคาที่

ในช่วงเวลาเดียวกัน พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่ริมถนนสายปัตตานี-ยะลา ม.5 ต.ปิตุมุดี อ.ยะรัง เมื่อสนธิกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า กระจายเกลื่อนจากแรงระเบิด และพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว สภาพด้านซ้ายถูกสะเก็ดระเบิดทั้งแถบ ยางหน้าหลังแตก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สอบสวนก่อนเกิดทราบว่า ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.8024 ฉก.ปัตตานี 21 จำนวน 6 นายใช้รถยนต์กระบะคันเกิดเหตุออกตรวจเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบเพื่อดูแลความปลอดภัย โดยมี จ.ส.อ.สมศักดิ์ ถนอมถิ่น เป็นพลขับ ระหว่างทางมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้กดระเบิดที่ซุกไว้ในรถจักรยานยนต์ที่จอดริมถนน จุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรลเสียงดังสนั่น ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย

อีกจุดเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.ไพสิฐ แก้วจรัส รอง ผกก.ป.สภ.ปานาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสายชนบท ม.2 ต.ท่าน้ำ จึงสนธิกำลังไปตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุอยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบเสาปูนคอนกรีตกว้าง 6 นิ้ว ยาว 50 ซ.ม.สภาพมีรอยแตกเมื่อทุบให้แตกพบว่าภายในบรรจุระเบิดแสวงหนัก 5 กิโลกรัมเครื่องจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารแต่โชคดีที่ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ จึงไม่มีใครได้รับอันตราย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 44 จำนวน 6 นายเดินลาดตระเวนเส้นทาง ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นทุกคนจึงวิ่งหลบเข้าที่กำบังพร้อมแจ้งขอกำลังเสริมมาตรวจสอบ พบว่าถูกคนร้ายพยายามลอบวางระเบิดแต่ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ของแนวร่วมโดยการหล่อปูนเพื่อทำเป็นเสาหลักกิโลแล้วมาวางไว้ริมถนน ก่อนจะซุ่มแล้วกดระเบิดเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง