วานนี้ (2 ส.ค) สำนักข่าวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เปิดเผยข้อมูล เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วางแผนเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 22-28 สิงหาคมนี้ ตามคำเชิญของคณะกรรมการการศึกษาเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำการบรรยายเชิงวิชาการ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่ ญี่ปุ่น จีน และ ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้กับนักวิชาการ นักธุรกิจ และนักเศรษฐศาสตร์ ที่จะมีขึ้น ที่กรุงโตเกียว
นอกจากนี้ ยังมีกำหนดการเยือนพื้นที่ประสบเหตุ และได้รับผลกระทบ จากเหตุแผ่นดินไหว ในเขตตะวันออกของญี่ปุ่น ในระหว่าง 25-26 สิงหาคม นี้ เพื่อแสดงความพร้อมในความร่วมมือฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นรัฐบาลเยอรมนี ได้ประกาศให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศได้โดยให้เหตุผลว่าเหตุการณ์ทางการเมืองดีขึ้น
ก่อนหน้านั้นนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อ้างว่า เท่าทราบมารัฐบาลเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลินได้รับการบีบบังคับจากพรรคร่วมพรรคการเมืองกับรัฐบาลพรรคหนึ่งทางตอนใต้ นอกจากนั้นยังจี้ให้รัฐบาลเยอรมนีตอบคำถามต่อประชาคมโลกในเรื่องนี้ด้วย
รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้านั้นมีแค่กระแสข่าวที่นายเทพไท เสนพงศ์ ที่ยังมีโฆษกประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ออกมาให้ข่าวสื่อมวลชนว่า ประเทศมหาอำนาจ เช่น อังกฤษ สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น มีการขึ้นแบล็กลิสต์พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงขั้นอ้างว่า ประเทศญี่ปุ่น ระบุให้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ คือ ห้ามเข้าประเทศ ขณะที่ช่วงนั้นนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานกรณีญี่ปุ่นไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ แต่ไม่ได้สอบถามรายละเอียด
รายงานยืนยันว่า นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอนนั้นระบุว่า ตามหลักการสากลการที่จะอนุญาตให้หรือไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าเมือง เป็นสิทธิและเป็นอำนาจของแต่ละประเทศนั้นๆ จะพิจารณา และจะบอกหรือไม่บอกเหตุผลต่อบุคคลนั้นหรือสาธารณะก็ได้ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศไม่ได้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ในเรื่องดังกล่าวผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีกำหนดการเยือนพื้นที่ประสบเหตุ และได้รับผลกระทบ จากเหตุแผ่นดินไหว ในเขตตะวันออกของญี่ปุ่น ในระหว่าง 25-26 สิงหาคม นี้ เพื่อแสดงความพร้อมในความร่วมมือฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นรัฐบาลเยอรมนี ได้ประกาศให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศได้โดยให้เหตุผลว่าเหตุการณ์ทางการเมืองดีขึ้น
ก่อนหน้านั้นนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อ้างว่า เท่าทราบมารัฐบาลเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลินได้รับการบีบบังคับจากพรรคร่วมพรรคการเมืองกับรัฐบาลพรรคหนึ่งทางตอนใต้ นอกจากนั้นยังจี้ให้รัฐบาลเยอรมนีตอบคำถามต่อประชาคมโลกในเรื่องนี้ด้วย
รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้านั้นมีแค่กระแสข่าวที่นายเทพไท เสนพงศ์ ที่ยังมีโฆษกประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ออกมาให้ข่าวสื่อมวลชนว่า ประเทศมหาอำนาจ เช่น อังกฤษ สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น มีการขึ้นแบล็กลิสต์พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงขั้นอ้างว่า ประเทศญี่ปุ่น ระบุให้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ คือ ห้ามเข้าประเทศ ขณะที่ช่วงนั้นนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานกรณีญี่ปุ่นไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ แต่ไม่ได้สอบถามรายละเอียด
รายงานยืนยันว่า นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอนนั้นระบุว่า ตามหลักการสากลการที่จะอนุญาตให้หรือไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าเมือง เป็นสิทธิและเป็นอำนาจของแต่ละประเทศนั้นๆ จะพิจารณา และจะบอกหรือไม่บอกเหตุผลต่อบุคคลนั้นหรือสาธารณะก็ได้ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศไม่ได้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ในเรื่องดังกล่าวผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ