xs
xsm
sm
md
lg

เลิกขาย “เพนน์ซอยส์” ดัน“เพาวซ่าร์”ลุยตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-มีอันต้องโบกมือลาเมืองไทย หลังทำตลาดมานานเกือบ 60 ปี สำหรับแบรนด์น้ำมันเครื่องสัญชาติอเมริกัน “เพนน์ซอยส์” ด้วยนโยบายจากบริษัทแม่ยกเลิกการขายนอกทวีปอเมริกา เป็นเหตุให้ตัวแทนผู้ผลิตและจำหน่าย ลุยปั้นแบรนด์ใหม่ “เพาวซ่าร์” หวังสร้างชื่อแทนด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน ตั้งเป้าปีแรกกวาดยอดขาย1,000ล้านบาท มุ่ง 3 ปี ดันเป็นสินค้าเอเชียระดับสากล

นายสมภพ ติงธนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันปิโตรเลียมไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท PennZoil Quaker State มีนโยบายมุ่งการทำตลาดเฉพาะทวีปอเมริกาเหนือเพียงแห่งเดียว จึงยกเลิกสิทธิ์การค้าในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย เป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องยุติการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเครื่อง“เพนน์ซอยส์” และคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ “เพาวซ่าร์” ขึ้นมาทดแทน โดยเปิดตัวทั้งหมด 14 รุ่น ครอบคลุมความต้องการผู้ใช้รถยนต์ทุกกลุ่ม พร้อมชูจุดเด่นด้านการคัดเลือกวัตถุดิบและคุณภาพที่มาจากเทคโนโลยีการผลิตแหล่งเดียวกัน

“เราได้รับแจ้งเมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว เกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาการผลิตและจัดจำหน่ายเพนน์ซอยส์ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฏาคมนี้เป็นต้นไป จึงลงทุนเพิ่มประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อเตรียมการติดต่อผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาที่มีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมหล่อลื่นมากว่า 30 ปี มาช่วยพัฒนาสูตร MRT (Modified Release Technology) ในผลิตภัณฑ์เพาวซ่าร์ เพื่อใช้เป็นจุดขายสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยทำการผลิตในโรงงานที่อำเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ”

นายสมภพ กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดจะวางตำแหน่งสินค้าตั้งแต่ระดับกลางถึงพรีเมียม และหลังเปิดตัวภายใน 3 ปี ได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 300 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง พร้อมออกอากาศทางฟรีทีวีตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้

“น้ำมันเครื่องเพาวซ่าร์ มีให้เลือกใช้กับรถยนต์สมรรถนะสูง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถปิคอัพ รถบรรทุกงานหนัก รถโดยสาร รวมถึงเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมทั่วไป ด้านราคาเฉลี่ยลิตรละ 70 บาท สำหรับเกรดธรรมดา และแบบสังเคราะห์ 100% เฉลี่ยลิตรละ 500 บาท ส่วนเป้าหมายยอดขายในปีแรก ตั้งไว้ที่1,000 ล้านบาท ผ่านช่องทางตัวแทนร้านค้าที่เคยขายเพนน์ซอยส์กว่า 1,300 รายทั่วประเทศ หลังจากนั้น 3 ปี หากทำตลาดในประเทศไทยได้จนแข็งแกร่งดีแล้ว จะขยายออกไปสู่ตลาดอาเซียน”
กำลังโหลดความคิดเห็น