นายสิทธิพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ราบลุ่ม น้ำจะท่วมเป็นประจำทุกปี และทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้น โดยมีนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ ได้ประชุมเตรียมรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ 16 อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอที่น้ำจะท่วมหนัก เช่น อ.บางบาล ท่าเรือ นครหลวง และบางปะหัน ให้ร่วมกับท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชน ซักซ้อมทำความเข้าใจหากเกิดภัยขึ้น ด้วยการแจ้งเตือนภัยทางหอกระจายข่าว เสียงตามสาย พร้อมสำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำทุกชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที
ล่าสุด กรมชลประทานแจ้งว่า ปีนี้ปริมาณฝนมาเร็วกว่าปกติ ซึ่งเดิมฝนจะตกหนักในช่วงเดือนกันยายน ปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,800 มิลลิเมตร แต่ปรากฏว่าปีนี้ฝนเริ่มตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 700-800 มิลลิเมตร
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ 16 อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอที่น้ำจะท่วมหนัก เช่น อ.บางบาล ท่าเรือ นครหลวง และบางปะหัน ให้ร่วมกับท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชน ซักซ้อมทำความเข้าใจหากเกิดภัยขึ้น ด้วยการแจ้งเตือนภัยทางหอกระจายข่าว เสียงตามสาย พร้อมสำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำทุกชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที
ล่าสุด กรมชลประทานแจ้งว่า ปีนี้ปริมาณฝนมาเร็วกว่าปกติ ซึ่งเดิมฝนจะตกหนักในช่วงเดือนกันยายน ปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,800 มิลลิเมตร แต่ปรากฏว่าปีนี้ฝนเริ่มตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 700-800 มิลลิเมตร