นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศปรับปรุงการทำงานของพรรค หลังการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเฉพาะจะมีการตั้งทีวีดาวเทียมของพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาว่า เรื่องนี้ต้องถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า กรณีที่จะมีการเปิดทีวีของพรรคประชาธิปัตย์ หรือทำสื่อในนามพรรค สุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 ตามรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งระบุว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นเจ้าของกิจการ หรือถือหุ้นของกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรคมนาคมไม่ได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม ซึ่งนี่คือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องให้มีการยุบพรรคได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนมองว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการพูดถึงเสมอว่า การทำทีวีของคนเสื้อแดง การตั้งโรงเรียนนปช. ก็ดีขอให้ยกเลิก รวมถึงบอกว่า อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่วันนี้เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง และหนักถึงขั้นจะตั้งโรงเรียนประชาธิปไตยสีขาว คือ เรียกว่า ไปเลียนแบบ ซึ่งลักษณะอย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่า การที่เป็นความต้องการที่จะเอาจะชนะการเลือกตั้งให้ได้คะแนนเสียงมากๆ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่อาจผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงอยากเตือนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการทบทวน และพิจารณาเรื่องนี้ด้วย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนมองว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการพูดถึงเสมอว่า การทำทีวีของคนเสื้อแดง การตั้งโรงเรียนนปช. ก็ดีขอให้ยกเลิก รวมถึงบอกว่า อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่วันนี้เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง และหนักถึงขั้นจะตั้งโรงเรียนประชาธิปไตยสีขาว คือ เรียกว่า ไปเลียนแบบ ซึ่งลักษณะอย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่า การที่เป็นความต้องการที่จะเอาจะชนะการเลือกตั้งให้ได้คะแนนเสียงมากๆ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่อาจผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงอยากเตือนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการทบทวน และพิจารณาเรื่องนี้ด้วย
