นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ เกิดจากปัจจัยต่างประเทศเป็นสำคัญ เห็นได้จากข่าวในแง่ลบจากเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าประเทศในเอเชีย รวมถึงไทย ประกอบกับราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการขายทองคำออกมามาก
"เงินบาทไม่ได้แข็งค่าล้ำหน้าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เห็นได้จากดัชนีค่าเงินบาทแท้จริง(NEER) ยังอยู่ในระดับเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาคนี้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศเอง โดยเฉพาะเรื่องของการเมืองเป็นเรื่องรองลงมาที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญ " รองผู้ว่าการธปท.กล่าว
ต่อข้อซักถามที่ว่า ธปท.ห่วงหรือไม่หากสหรัฐและสหภาพยุโรปมีปัญหาเรื่องหนี้สาธารณะจากการผิดนัดชำระหนี้ของประเทศ และอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงมา นางอัจนา กล่าวว่า เท่าที่ประเมินในขณะนี้ปัญหาการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐน่าจะมีทางออกที่ดี ของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐฯ เพราะทุกคนรู้ดีว่า ไม่ควรก่อวิกฤตหนี้ขึ้นมา
เพราะจะมีผลเสียอาจจะมากกว่าผลดี ขณะที่ในยุโรปนั้น เชื่อว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมัน และฝรั่งเศสจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหภาพยุโรปเอาไว้ได้
" ธปท.ไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก เพราะเงินบาทแข็งค่ามาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงมองว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเตรียมมาตรการรองรับอะไรเพิ่มเติม เพื่อรับมือต่อความผันผวนของค่าเงิน เงินทุนเคลื่อนย้ายที่มาจากปัจจัยลบต่างๆ ในต่างประเทศทั้งความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ เป็นประเทศที่พิมพ์เงินได้โดยไม่จำกัดจำนวน
ขณะที่เรื่องการขยายเพดานหนี้สาธารณะก็น่าจะตกลงกันได้ และที่สำคัญเจ้าหนี้ทั่วโลกที่มีหนี้สินกันในสกุลดอลลาร์ก็คงไม่ต้องการให้เกิดวิกฤตเพิ่มมากขึ้นจากเรื่องนี้ "
"เงินบาทไม่ได้แข็งค่าล้ำหน้าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เห็นได้จากดัชนีค่าเงินบาทแท้จริง(NEER) ยังอยู่ในระดับเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาคนี้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศเอง โดยเฉพาะเรื่องของการเมืองเป็นเรื่องรองลงมาที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญ " รองผู้ว่าการธปท.กล่าว
ต่อข้อซักถามที่ว่า ธปท.ห่วงหรือไม่หากสหรัฐและสหภาพยุโรปมีปัญหาเรื่องหนี้สาธารณะจากการผิดนัดชำระหนี้ของประเทศ และอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงมา นางอัจนา กล่าวว่า เท่าที่ประเมินในขณะนี้ปัญหาการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐน่าจะมีทางออกที่ดี ของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐฯ เพราะทุกคนรู้ดีว่า ไม่ควรก่อวิกฤตหนี้ขึ้นมา
เพราะจะมีผลเสียอาจจะมากกว่าผลดี ขณะที่ในยุโรปนั้น เชื่อว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมัน และฝรั่งเศสจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหภาพยุโรปเอาไว้ได้
" ธปท.ไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก เพราะเงินบาทแข็งค่ามาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงมองว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเตรียมมาตรการรองรับอะไรเพิ่มเติม เพื่อรับมือต่อความผันผวนของค่าเงิน เงินทุนเคลื่อนย้ายที่มาจากปัจจัยลบต่างๆ ในต่างประเทศทั้งความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ เป็นประเทศที่พิมพ์เงินได้โดยไม่จำกัดจำนวน
ขณะที่เรื่องการขยายเพดานหนี้สาธารณะก็น่าจะตกลงกันได้ และที่สำคัญเจ้าหนี้ทั่วโลกที่มีหนี้สินกันในสกุลดอลลาร์ก็คงไม่ต้องการให้เกิดวิกฤตเพิ่มมากขึ้นจากเรื่องนี้ "
