เนเจอร์กิฟ ชี้ตลาดกาแฟดูแลรูปร่างแข่งเดือด สินค้าราคาถูกจากจีนตีตลาด รายได้ครึ่งปีโตไม่เข้าเป้า อัดงบ 350ล้านบาท ลุยบีโลว์เดอะไลน์ ระเบิดแคมเปญ “ภารกิจเป๊ะ โดยเนเจอร์กิฟ : รัดเข็มขัด ลดน้ำหนัก เพื่อชาติ” มั่นใจสิ้นปีรักษาการเติบโต 20% รั้งบัลลังก์ผู้นำตลาด
นายกฤษฎา จ่างใจมนต์ ประธานกรรมการบริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัดเนเจอร์กิฟ 711 เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกาแฟดูแลรูปร่างในช่วงที่ผ่านมา 1-2 ปี มีการแข่งขันที่รุนแรงทั้งสินค้าจากกลุ่มผู้ประกอบการกาแฟพร้อมดื่ม อาทิ เนสกาแฟ ม็อคโคน่า ที่แตกไลน์สินค้ากาแฟดูแลรูปร่าง รวมทั้งกาแฟนำเข้าจากจีนที่เข้ามาทำตลาด ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 3,000-4,000ล้านบาท
ดังนั้นเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด บริษัทได้ทุ่มงบ 350ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาใช้ 300ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุกโดยหันมาเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์หรือการจัดกิจกรรมสัดส่วน 30% เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง และอะโบฟเดอะไลน์ 70% พร้อมกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ เนเจอร์กิฟ คอฟฟี่ ทเวนตี้ วัน รวมทั้งสินค้ากลุ่มโกโก้และน้ำขิง
ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “ภารกิจเป๊ะ โดยเนเจอร์กิฟ : รัดเข็มขัด ลดน้ำหนัก เพื่อชาติ” โดยเลือกกลุ่มผู้ชายและหญิงจากทั่วประเทศจำนวน 500คน จากทั้งหมด 4 ภูมิภาค ต้องลดน้ำหนักให้ได้ 2554 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 60วัน ชิงรางวัลร่วมสนุกกับการท่องเที่ยวทั้งจากจังหวัดกระบี่ และที่ประเทศเกาหลี ทั้งนี้เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ จากที่ผ่านมาสินค้าดังกล่าวมีอุปสรรคด้านการสื่อสาร
ผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโต 10% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้าโต 15% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวในครึ่งปีแรก และกาแฟดูแลรูปร่างจากจีนรวมทั้งสินค้าจากผู้ประกอบการกาแฟเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ส่งผลให้การเติบโตชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามสิ้นปีนี้บริษัทมั่นใจรักษาการเติบโต 20% เท่ากับทุกปี โดยมีรายได้ 2,000 ล้านบาท จากการเป็นผู้นำตลาดกาแฟดูแลรูปร่างมูลค่า 4,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่ง 40-50% ส่วนเนสกาแฟ 30%
นายกฤษฎา จ่างใจมนต์ ประธานกรรมการบริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัดเนเจอร์กิฟ 711 เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกาแฟดูแลรูปร่างในช่วงที่ผ่านมา 1-2 ปี มีการแข่งขันที่รุนแรงทั้งสินค้าจากกลุ่มผู้ประกอบการกาแฟพร้อมดื่ม อาทิ เนสกาแฟ ม็อคโคน่า ที่แตกไลน์สินค้ากาแฟดูแลรูปร่าง รวมทั้งกาแฟนำเข้าจากจีนที่เข้ามาทำตลาด ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 3,000-4,000ล้านบาท
ดังนั้นเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด บริษัทได้ทุ่มงบ 350ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาใช้ 300ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุกโดยหันมาเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์หรือการจัดกิจกรรมสัดส่วน 30% เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง และอะโบฟเดอะไลน์ 70% พร้อมกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ เนเจอร์กิฟ คอฟฟี่ ทเวนตี้ วัน รวมทั้งสินค้ากลุ่มโกโก้และน้ำขิง
ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “ภารกิจเป๊ะ โดยเนเจอร์กิฟ : รัดเข็มขัด ลดน้ำหนัก เพื่อชาติ” โดยเลือกกลุ่มผู้ชายและหญิงจากทั่วประเทศจำนวน 500คน จากทั้งหมด 4 ภูมิภาค ต้องลดน้ำหนักให้ได้ 2554 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 60วัน ชิงรางวัลร่วมสนุกกับการท่องเที่ยวทั้งจากจังหวัดกระบี่ และที่ประเทศเกาหลี ทั้งนี้เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ จากที่ผ่านมาสินค้าดังกล่าวมีอุปสรรคด้านการสื่อสาร
ผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโต 10% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้าโต 15% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวในครึ่งปีแรก และกาแฟดูแลรูปร่างจากจีนรวมทั้งสินค้าจากผู้ประกอบการกาแฟเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ส่งผลให้การเติบโตชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามสิ้นปีนี้บริษัทมั่นใจรักษาการเติบโต 20% เท่ากับทุกปี โดยมีรายได้ 2,000 ล้านบาท จากการเป็นผู้นำตลาดกาแฟดูแลรูปร่างมูลค่า 4,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่ง 40-50% ส่วนเนสกาแฟ 30%
