วานนี้ (18 ก.ค.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาการคัดเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ ที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ที่เสนอคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อในสัดส่วนของ กทม.ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค ว่าอาจกระทบต่อฐานเสียงของพรรคในภาคใต้เนื่องจากหัวหน้าและเลขาธิการพรรคเป็นคนภาคเดียวกันว่า ไม่มีข้อบังคับพรรคข้อไหนระบุว่าจะใช้ระบบโควตาภาคเลือกเลขาธิการพรรค โดยข้อบังคับพรรคกำหนดเพียงให้หัวหน้าพรรคเสนอชื่อที่เหมาะสมเป็นเลขาธิการพรรคมา 3 ชื่อ และให้ที่ประชุมใหญ่เลือกเหลือ 1 ชื่อ จึงคิดว่าไม่น่าจะทำให้พรรคมีปัญหา ถ้าพรรคตัดสินใจเลือกใครเป็นเลขาธิการพรรคทุกคนก็ยอมรับได้
ด้าน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เชื่อว่าปัญหาการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคเพราะคนในพรรคประชาธิปัตย์มีจิตสำนึกของการทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ต้องการสนองความต้องการของตัวบุคคล แต่ในสภาวะเช่นนี้คนที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่จะต้องเหนื่อย เนื่องจากอยู่ในช่วงที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน หากต้องการจะชนะการเลือกตั้งจะต้องปรับปรุงพื้นที่ในภาคอีสาน และภาคกลาง และเหนือบางส่วน จึงต้องทำความเข้าใจสร้างพลังในพรรค สร้างมวลชนข้างนอกทุกหย่อมหญ้าเพื่อต่อสู้กับพรรคเพื่อไทย การที่เราคิดว่าพรรคมีแต่คนดีแต่ไม่สร้างมวลชนคงไม่ได้ ที่สำคัญงานต่อไปในฐานะของฝ่ายค้านจะต้องตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของราชการซึ่งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยจะทำได้อย่างเดียวคือการทุจริต ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่โกงก็ไม่สามารถเอาเขาลงได้
**ถวิลมั่นใจปชป.99% หนุนมาร์ครีเทิร์น
นายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า ส.ส.ในพรรคร้อยละ 99 เห็นด้วยที่จะสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เพราะนายอภิสิทธิ์ มีความเหมาะสมมากที่สุดในภาวการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานพรรคมาตลอด ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคคนใหม่ ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะกลับมารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีกครั้งหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าความตั้งใจของนายสุเทพ คือจะไม่กลับมาเป็นเลขาธิการพรรค ตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ออกมาสนับสนุนคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น เชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันภายในพรรค โดยมองว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสมาชิกพรรค โดยวันพรุ่งนี้ รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะประชุมเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เป็นไปตามกรอบระยะเวลา 90 วัน เชื่อว่าสุดท้ายแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะได้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายในเดือนสิงหาคม
**วิฑูรย์เมินเก้าอี้เลขาฯย้ำปชป.ไม่แตก
นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำภาคอีสาน เปิดเผยถึงกระแสข่าวลือความแตกแยกของสมาชิกพรรค จากข่าวที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มี “แก๊งออฟโฟร์” มาบล็อกคนดีมีความสามารถของพรรค ไม่ให้ออกมาแสดงความสามารถ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาภายในพรรคไม่ได้แตกแยก หรือมีกลุ่มก๊วนมากมายแต่อย่างใด
นายวิฑูรย์ ยืนยันด้วยว่า ในตำแหน่งของเลขาธิการพรรค ซึ่งบรรดา ส.ส.ของพรรคหลายคน ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงเสนอชื่อคนโน้นคนนี้ว่าเหมาะสม เป็นวัฒนธรรมของพรรคอยู่แล้ว ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนในพรรคได้แสดงความคิดเห็น และไม่ถือเป็นความแตกแยก แต่ที่มีความชัดเจนตามกฎข้อบังคับพรรค ระบุว่า ในตำแหน่งดังกล่าวนั้น หัวหน้าพรรคจะเป็นคนเลือก และเสนอชื่อมากกว่า 1 รายชื่อ ให้สมาชิกพรรคโหวตเลือกอีกครั้ง ส่วนในข้อกล่าวหาว่าล็อบบี้ให้มีการถอนตัว ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการถอนตัวในแต่ละครั้ง มาจากการรู้ตัวเองว่าไม่เหมาะสม จึงได้ถอนตัวเอง
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า กรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ระบุว่า ตนเองเหมาะสมนั้น ก็รู้ตัวดีว่าไม่เหมาะ และหากมีการเสนอชื่อขึ้นมาก็จะขอถอนตัวอย่างแน่นอน
ด้าน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เชื่อว่าปัญหาการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคเพราะคนในพรรคประชาธิปัตย์มีจิตสำนึกของการทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ต้องการสนองความต้องการของตัวบุคคล แต่ในสภาวะเช่นนี้คนที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่จะต้องเหนื่อย เนื่องจากอยู่ในช่วงที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน หากต้องการจะชนะการเลือกตั้งจะต้องปรับปรุงพื้นที่ในภาคอีสาน และภาคกลาง และเหนือบางส่วน จึงต้องทำความเข้าใจสร้างพลังในพรรค สร้างมวลชนข้างนอกทุกหย่อมหญ้าเพื่อต่อสู้กับพรรคเพื่อไทย การที่เราคิดว่าพรรคมีแต่คนดีแต่ไม่สร้างมวลชนคงไม่ได้ ที่สำคัญงานต่อไปในฐานะของฝ่ายค้านจะต้องตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของราชการซึ่งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยจะทำได้อย่างเดียวคือการทุจริต ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่โกงก็ไม่สามารถเอาเขาลงได้
**ถวิลมั่นใจปชป.99% หนุนมาร์ครีเทิร์น
นายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า ส.ส.ในพรรคร้อยละ 99 เห็นด้วยที่จะสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เพราะนายอภิสิทธิ์ มีความเหมาะสมมากที่สุดในภาวการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานพรรคมาตลอด ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคคนใหม่ ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะกลับมารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีกครั้งหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าความตั้งใจของนายสุเทพ คือจะไม่กลับมาเป็นเลขาธิการพรรค ตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ออกมาสนับสนุนคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น เชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันภายในพรรค โดยมองว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสมาชิกพรรค โดยวันพรุ่งนี้ รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะประชุมเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เป็นไปตามกรอบระยะเวลา 90 วัน เชื่อว่าสุดท้ายแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะได้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายในเดือนสิงหาคม
**วิฑูรย์เมินเก้าอี้เลขาฯย้ำปชป.ไม่แตก
นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำภาคอีสาน เปิดเผยถึงกระแสข่าวลือความแตกแยกของสมาชิกพรรค จากข่าวที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มี “แก๊งออฟโฟร์” มาบล็อกคนดีมีความสามารถของพรรค ไม่ให้ออกมาแสดงความสามารถ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาภายในพรรคไม่ได้แตกแยก หรือมีกลุ่มก๊วนมากมายแต่อย่างใด
นายวิฑูรย์ ยืนยันด้วยว่า ในตำแหน่งของเลขาธิการพรรค ซึ่งบรรดา ส.ส.ของพรรคหลายคน ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงเสนอชื่อคนโน้นคนนี้ว่าเหมาะสม เป็นวัฒนธรรมของพรรคอยู่แล้ว ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนในพรรคได้แสดงความคิดเห็น และไม่ถือเป็นความแตกแยก แต่ที่มีความชัดเจนตามกฎข้อบังคับพรรค ระบุว่า ในตำแหน่งดังกล่าวนั้น หัวหน้าพรรคจะเป็นคนเลือก และเสนอชื่อมากกว่า 1 รายชื่อ ให้สมาชิกพรรคโหวตเลือกอีกครั้ง ส่วนในข้อกล่าวหาว่าล็อบบี้ให้มีการถอนตัว ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการถอนตัวในแต่ละครั้ง มาจากการรู้ตัวเองว่าไม่เหมาะสม จึงได้ถอนตัวเอง
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า กรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ระบุว่า ตนเองเหมาะสมนั้น ก็รู้ตัวดีว่าไม่เหมาะ และหากมีการเสนอชื่อขึ้นมาก็จะขอถอนตัวอย่างแน่นอน