ศูนย์ข่าวภูมิภาค - เกิดน้ำป่าไหลหลากซ้ำ ทะลักท่วม 4 ตำบลเขตอำเภอท่าวังผา แถมอ่างเก็บน้ำท้ายหมู่บ้านเสี่ยงแตก หลังน้ำล้นสันดิน จนต้องอพยพชาวบ้าน 69 หลังคาเรือนหนีแล้ว ปภ.เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ส่วนที่ระนองฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ดินภูเขาเลื่อนไหลลงมาทับถนนสายหาดส้มแป้นและต้นไม้ล้มทับ เสาไฟฟ้าแรงสูงทำให้ไฟฟ้าดับทั้งตำบล
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่า วานนี้ (14 ก.ค.) หลังจากที่มีฝนตกหนักลงมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำย่าง-น้ำยาว ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำน่าน มีระดับเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่อำเภอท่าวังผา 8 หมู่บ้านเขตตำบลตาลชุม ที่บ้านห้วยแขม, บ้านปง หมู่ 1, บ้านปง หมู่ 2 บ้านปงพัฒนา บ้านดอนแก่ง บ้านห้วยโป่ง หมู่ 8 และบ้านป่าเมี่ยง และที่ตำบลยม บ้านพร้าว, บ้านน้ำไคร้
โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วจนถึงระดับเอว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทันได้รับความเสียหาย 100 กว่าหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านห้วยโป่ง หมู่ 8 น้ำได้เข้าท่วมถนนและสะพานทางเข้าหมู่บ้านสูงระดับ 2 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ที่ตำบลจอมพระ และตำบลป่าคา น้ำป่ายังได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก
นางเยาว์ ยอดหล้า อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 บ้านตาลชุม ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา เล่าว่า เหตุการณ์น้ำป่าหลากครั้งนี้น่ากลัว เพราะน้ำมาเร็วและแรงมาก ไม่สามารถเก็บข้าวของในบ้านได้ทันทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้รับความเสียหาย
นายอเนก มังคละ นายก อบต.ตาลชุม พร้อมเจ้าหน้าที่ เตรียมเรือท้องแบนเพื่อเข้าตรวจสภาพอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กท้ายหมู่บ้านห้วยโป่ง ซึ่งรองรับปริมาณน้ำจนล้นสันฝาย เกรงว่าดินหน้าอ่าง จะทรุดตัว ได้สั่งการเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 69 หลังคาเรือน ในหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ ไปอยู่ที่วัดห้วยโป่ง และที่สูงเพื่อความปลอดภัยแล้ว พร้อมสั่งการนำรถไถ เข้าเปิดเส้นทางจราจรที่มีดินสไลด์ปิดขวางทางจราจรกว่า 4 แห่ง
นายมานัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา กล่าวว่า หลังจากที่ฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำยาว และลำน้ำย่าง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุก อบต.ที่ประสบภัย เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ก็เกรงว่า การสำรวจอาจไม่ทันวันที่ 15 สิงหาคม ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเร่งด่วน และอาจส่งผลให้เงินงบประมาณช่วยเหลือล่าช้าได้
อย่างไรก็ตาม นายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่านได้สั่งเฝ้าสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังคงมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอำเภอทุ่งช้าง, บ่อเกลือ, ปัว และท่าวังผา ที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมรวม 80 กว่ามิลลิเมตรแล้ว ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจเกิด น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ริมลำห้วย หมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินภูเขา ฝนตกหนักเกินกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มขึ้น ควรรีบขนย้ายข้าวของขึ้นไว้ที่สูงหรือที่ปลอดภัยทันที
**ระนองฝนตกหนักดินภูเขาถล่มทับถนน
ส่วนที่ จ.ระนองเมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (14)ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3+100 ถนนสายระนอง -บ้านหาดส้มแป้น ม.2 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง เกิดเหตุดินภูเขา ก้อนหินขนาดใหญ่และต้นไม้เลื่อนไหลลงมาทับเส้นทาง เป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้การจราจรติดขัด
นอกจากนี้ ได้มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ริมถนน ล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 33 kv ล้ม 2 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ตำบลหาดส้มแป้นดับทั้งตำบล เจ้าหน้าที่จาก 3 หน่วยงาน คือ ทางหลวงชนบทจังหวัดระนอง และองค์การบริหารส่วนตำบลหาดส้มแป้น ร่วมกันนำเครื่องจักรกลทั้งรถตัก รถบรรทุกและแรงงานเจ้าหน้าที่ช่วยกัน ตัดต้นไม้ที่เลื่อนไหลลงมาจากภูเขา พร้อมทั้งใช้รถตัก 2 คัน เร่งตักดินออกจากถนน
ส่วนการไฟฟ้าภูมิภาคระนอง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเร่งตัดต้นไม้ออกจากสายไฟและปักเสาไฟฟ้าใหม่เพื่อจ่ายไฟเข้าสู่ระบบโดยเร็ว โดยการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากฝนตกหนักตลอดเวลา
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เผยว่า ขณะนี้ จ.ระนองมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากร้อยละ 70-80% ของพื้นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดินภูเขาเลื่อนไหล และลมพัดแรงกระโชกบางช่วงเวลา จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลให้ติดตามสถานการณ์ข่าวพยากรณ์อากาศโดยใกล้ชิด หากมีประกาศเตือนให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที
ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มจังหวัดระนอง ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-7786-2093, 0-7786-2095 หรือที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
***พายุโค่นต้นไม้ขวางถนน โจ๋ขับชนดับคาที่
เมื่อเวลา 03.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.ปรีชา ช่างเหล็ก สารวัตรเวร สภ.โพธิ์ประชับช้าง จ.พิจิตร ได้รับแจ้งมีเหตุรถจักยานยนต์ชนต้นไม้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 1276 สายโพธิ์ประทับช้าง-พิจิตร หมู่ 1 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนน และนายณัฐพล จุ้นปาน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244/3 หมู่ 8 ต.ทุ่งใหญ่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนรถจักรยานยนต์ ไม่มีป้ายทะเบียนล้มอยู่ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในช่วงเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาเกิดพายุกระหน่ำอย่างแรง ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้บนถนนทางหลวงดังกล่าว เกิดหักโค่นลงมาขวางถนน ซึ่งนายณัฐพลได้ขับขี่จักยานยนต์ออกจากบ้านจาก ต.ทุ่งใหญ่ จะเข้าตัวเมืองพิจิตร เพื่อจะไปหาแฟนสาว ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ มองไม่เห็นว่าต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนนเนื่องจากช่วงนั้นมืด ไฟฟ้าข้างทางดับ ประกอบกับขับรถมาด้วยความเร็ว จึงได้พุ่งชนต้นไม้ที่หักโค่นขวางถนนถึงแก่ความตายดังกล่าว
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่า วานนี้ (14 ก.ค.) หลังจากที่มีฝนตกหนักลงมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำย่าง-น้ำยาว ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำน่าน มีระดับเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่อำเภอท่าวังผา 8 หมู่บ้านเขตตำบลตาลชุม ที่บ้านห้วยแขม, บ้านปง หมู่ 1, บ้านปง หมู่ 2 บ้านปงพัฒนา บ้านดอนแก่ง บ้านห้วยโป่ง หมู่ 8 และบ้านป่าเมี่ยง และที่ตำบลยม บ้านพร้าว, บ้านน้ำไคร้
โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วจนถึงระดับเอว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทันได้รับความเสียหาย 100 กว่าหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านห้วยโป่ง หมู่ 8 น้ำได้เข้าท่วมถนนและสะพานทางเข้าหมู่บ้านสูงระดับ 2 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ที่ตำบลจอมพระ และตำบลป่าคา น้ำป่ายังได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก
นางเยาว์ ยอดหล้า อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 บ้านตาลชุม ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา เล่าว่า เหตุการณ์น้ำป่าหลากครั้งนี้น่ากลัว เพราะน้ำมาเร็วและแรงมาก ไม่สามารถเก็บข้าวของในบ้านได้ทันทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้รับความเสียหาย
นายอเนก มังคละ นายก อบต.ตาลชุม พร้อมเจ้าหน้าที่ เตรียมเรือท้องแบนเพื่อเข้าตรวจสภาพอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กท้ายหมู่บ้านห้วยโป่ง ซึ่งรองรับปริมาณน้ำจนล้นสันฝาย เกรงว่าดินหน้าอ่าง จะทรุดตัว ได้สั่งการเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 69 หลังคาเรือน ในหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ ไปอยู่ที่วัดห้วยโป่ง และที่สูงเพื่อความปลอดภัยแล้ว พร้อมสั่งการนำรถไถ เข้าเปิดเส้นทางจราจรที่มีดินสไลด์ปิดขวางทางจราจรกว่า 4 แห่ง
นายมานัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา กล่าวว่า หลังจากที่ฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำยาว และลำน้ำย่าง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุก อบต.ที่ประสบภัย เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ก็เกรงว่า การสำรวจอาจไม่ทันวันที่ 15 สิงหาคม ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเร่งด่วน และอาจส่งผลให้เงินงบประมาณช่วยเหลือล่าช้าได้
อย่างไรก็ตาม นายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่านได้สั่งเฝ้าสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังคงมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอำเภอทุ่งช้าง, บ่อเกลือ, ปัว และท่าวังผา ที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมรวม 80 กว่ามิลลิเมตรแล้ว ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจเกิด น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ริมลำห้วย หมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินภูเขา ฝนตกหนักเกินกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มขึ้น ควรรีบขนย้ายข้าวของขึ้นไว้ที่สูงหรือที่ปลอดภัยทันที
**ระนองฝนตกหนักดินภูเขาถล่มทับถนน
ส่วนที่ จ.ระนองเมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (14)ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3+100 ถนนสายระนอง -บ้านหาดส้มแป้น ม.2 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง เกิดเหตุดินภูเขา ก้อนหินขนาดใหญ่และต้นไม้เลื่อนไหลลงมาทับเส้นทาง เป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้การจราจรติดขัด
นอกจากนี้ ได้มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ริมถนน ล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 33 kv ล้ม 2 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ตำบลหาดส้มแป้นดับทั้งตำบล เจ้าหน้าที่จาก 3 หน่วยงาน คือ ทางหลวงชนบทจังหวัดระนอง และองค์การบริหารส่วนตำบลหาดส้มแป้น ร่วมกันนำเครื่องจักรกลทั้งรถตัก รถบรรทุกและแรงงานเจ้าหน้าที่ช่วยกัน ตัดต้นไม้ที่เลื่อนไหลลงมาจากภูเขา พร้อมทั้งใช้รถตัก 2 คัน เร่งตักดินออกจากถนน
ส่วนการไฟฟ้าภูมิภาคระนอง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเร่งตัดต้นไม้ออกจากสายไฟและปักเสาไฟฟ้าใหม่เพื่อจ่ายไฟเข้าสู่ระบบโดยเร็ว โดยการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากฝนตกหนักตลอดเวลา
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เผยว่า ขณะนี้ จ.ระนองมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากร้อยละ 70-80% ของพื้นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดินภูเขาเลื่อนไหล และลมพัดแรงกระโชกบางช่วงเวลา จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลให้ติดตามสถานการณ์ข่าวพยากรณ์อากาศโดยใกล้ชิด หากมีประกาศเตือนให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที
ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มจังหวัดระนอง ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-7786-2093, 0-7786-2095 หรือที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
***พายุโค่นต้นไม้ขวางถนน โจ๋ขับชนดับคาที่
เมื่อเวลา 03.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.ปรีชา ช่างเหล็ก สารวัตรเวร สภ.โพธิ์ประชับช้าง จ.พิจิตร ได้รับแจ้งมีเหตุรถจักยานยนต์ชนต้นไม้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 1276 สายโพธิ์ประทับช้าง-พิจิตร หมู่ 1 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนน และนายณัฐพล จุ้นปาน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244/3 หมู่ 8 ต.ทุ่งใหญ่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนรถจักรยานยนต์ ไม่มีป้ายทะเบียนล้มอยู่ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในช่วงเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาเกิดพายุกระหน่ำอย่างแรง ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้บนถนนทางหลวงดังกล่าว เกิดหักโค่นลงมาขวางถนน ซึ่งนายณัฐพลได้ขับขี่จักยานยนต์ออกจากบ้านจาก ต.ทุ่งใหญ่ จะเข้าตัวเมืองพิจิตร เพื่อจะไปหาแฟนสาว ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ มองไม่เห็นว่าต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนนเนื่องจากช่วงนั้นมืด ไฟฟ้าข้างทางดับ ประกอบกับขับรถมาด้วยความเร็ว จึงได้พุ่งชนต้นไม้ที่หักโค่นขวางถนนถึงแก่ความตายดังกล่าว
