ASTVผู้จัดการรายวัน- "บรรหาร" มองคนไทยกินแกลบ ถ่อไปพบ"แม้ว" ถึงบรูไน แต่บอกว่าแค่ไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ไม่มีการเจรจาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี สุดท้ายหลุดปากบอกได้มา 3 เก้าอี้ก็บุญแล้ว แก๊งแดงยังรอ"พ่อแม้ว"จัดให้ ส่วนการจัดโผ ครม.ยังวุ่นไม่เลิก "เทือก" เผยไต๋ พร้อมกินข้าวกับ "แม้ว" ถ้าจะช่วยให้เกิดความปรองดองได้
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวยอมรับว่า ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศบรูไน จริง แต่ไม่ได้ไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเพียงการเยี่ยมเยียนว่าอยู่สุขสบายดีหรือไม่ เพราะตอนที่อยู่ดูไบ มันไกลเกินไปนั่งเครื่องบินตั้ง 7 ชั่วโมง แต่ที่บรูไนนั่งเครื่องบินแค่ 2 ชั่วโมง และที่ไปบรูไน ก็เพื่อไปดูเรื่องเสือขาวด้วย ก็ได้พูดคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง เรื่องตำแหน่งไม่ได้ถาม ไม่กล้าถาม ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้ ความจริงพรรคเพื่อไทยน่าจะได้ 320 เสียง ตนก็ตกใจ เพราะถ้าได้320 เสียงจริง แล้วพวกตนจะเหลืออะไร เป็นการพูดคุยกันสนุกๆ มีเลี้ยงข้าวต้มกันนิดหนึ่ง แล้วก็กลับ เพราะมีคนไปพบหลายคน
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากให้ดูแลน้องสาวหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่าไม่ได้ฝาก เพราะคงมีคนดูแลเยอะแล้ว
"ขอยืนยันว่าผมไม่เคยไปต่อรองตำแหน่งตามที่เป็นข่าว เอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา ทุกรัฐบาลผมก็ไม่เคยต่อรองใคร และผมก็ไม่มีสิทธิที่จะไปต่อรอง เป็นเรื่องของพรรค และหัวหน้าพรรคเขาเจรจากัน ผมไม่รับรู้ด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่นิ่ง พรรคเพื่อไทยจะต้องจัดให้ลงตัวก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที" นายบรรหาร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวพรรคชาติไทยพัฒนา ขอรัฐมนตรี 5 ที่นั่ง นายบรรหาร ย้อนถามว่า คุณคิดว่าเป็นได้ไหม แค่ 19 เสียง จะขอ 5 เก้าอี้ แล้วคนอื่นจะได้อะไร เขียนข่าวกันคนละเรื่องเลย ได้แค่ 3 ที่นั่งก็บุญแล้ว อ้าวพูดไปแล้ว ไม่ต่อรอง 5-6 เก้าอี้ ไม่มีหรอก เมื่อถามย้ำว่า 3 เก้าอี้รัฐมนตรี ไม่รวมตำแหน่งรองนายกฯ ด้วย ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามหัวหน้าพรรค ตนไม่เกี่ยว
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายจับตามองการทำงานของ กกต. นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อบ้านเมืองมาจุดนี้แล้ว และที่ยุบสภา ก็เพราะต้องการให้ประชาชนตัดสิน ก็ต้องฟังเสียงประชาชน หากพรรคไหนได้อันดับหนึ่ง ก็ต้องเป็นรัฐบาล และให้ไปตลอดรอดฝั่ง เมื่อเขาได้คะแนนมาเกือบ 300 เสียง ไม่น่าจะมีปัญหา กกต.อาจจะประกาศรับรอง ส.ส.ส่วนหนึ่ง เพื่อให้เปิดสภาได้ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะว่างเว้นไป จะไม่ดี ส่วนที่มีการร้องเรียนอาจ รอสอบสวนก่อน
"ความจริงน่าจะรับรองไปก่อน แล้วค่อยตัดสิทธิ์ทีหลัง เพื่อให้สภาเปิดได้ ถ้าตรวจสอบเสร็จแล้ว ตรงไหนไม่ถูกต้อง สามารถว่ากันทีหลัง ทุกครั้งที่ทำกันมาก็แบบนี้"
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นยุบพรรคเพื่อไทยอีก นายบรรหาร กล่าวว่า ขอบนบานศาลกล่าว อย่ามีเลย พรรคการเมืองกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ กว่าจะพัฒนาให้เข้มแข็งได้ เลือดตาแทบกระเด็น อย่าเลย ขอร้องเถอะ ยุบคนดีกว่า พรรคอยู่ คนยังสร้างได้
**"แก๊งแดง"รอ"พ่อแม้ว"จัดให้
นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งของแกนนำ นปช. ว่าเป็นแค่เรื่องปลีกย่อย ไม่ใช่เรื่องของอุดมการณ์ คาดว่าเรื่องนี้น่าจะสามารถพูดคุยกันในแบบพี่น้องได้ ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. ถึงความเป็นมาของเรื่องดังกล่าวแล้ว
สำหรับเรื่องสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีที่จะเป็นโควต้าของแกนนำ นปช.นั้น ถือเป็นดุลยพินิจของพรรค เพราะอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงคือ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่สู้เพื่อเก้าอี้รัฐมนตรี
ด้านนางธิดา กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งของแกนนำคนเสื้อแดง เริ่มขึ้นภายหลังจากพรรคไทยชนะการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะทำให้คนเสื้อแดงเข้มแข็งขึ้น และหากยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน ทุกอย่างก็จะสามารถแก้ไขได้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับการทาบทามจากพรรคให้เป็นรัฐมนตรี เพราะขณะนี้ทางพรรคอยู่ระหว่างการทำเรื่องนโยบาย ที่ได้ให้ไว้กับประชาชนในช่วงหาเสียง เพื่อให้เป็นรูปธรรม ขอยืนยันว่า แกนนำ นปช.ไม่มีการแทรกแซงเรื่องการจัดตั้งครม. ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้เห็นชอบ
นพ.เหวง โตจิราการ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ตนก็ยังไม่ได้รับการติดต่อให้เป็นรัฐมนตรี แต่ตนก็พร้อมจะทำงานตามที่ทางพรรคได้มอบหมาย
** พท.กินรวบปธ.-รองปธ.สภาดีแล้ว
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนจากพรรคเพื่อไทยทั้งหมดว่า ประชาชนได้ให้ฉันทามติพรรคเพื่อไทย เข้ามาบริหารประเทศแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า หากประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นฝ่ายเดียวกับฝ่ายบริหาร จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน เพราะเมื่อบุคคลที่ได้รับเลือกเข้ามา และนั่งอยู่บนบังลังก์ ก็ต้องยึดตามระเบียบข้อบังคับการประชุมสภา รวมถึงข้อบัญญัติ ที่เกี่ยวข้องในรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ขอฝากการทำหน้าที่ของประธานสภา ว่าต้องเป็นกลาง เพื่อให้งานของฝ่ายนิติบัญญัติ เดินหน้าไปได้ และต้องระวังไม่ให้เกิดภาพของการโต้แย้งจนเป็นเหตุให้การประชุมสภาฯล่ม
**จัดตั้งรัฐบาลยังวุ่นไม่เลิก
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า ความคืบหน้าการจัดทำโผครม. “ปูแดง 1” ยังคงมีการต่อรองจากทั้งกลุ่มนอกพรรคและในพรรคตลอดเวลา
ทั้งนี้ มีการคาดหมายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด เพื่อกำหนดเเนวทาง หวังสร้างภาพลักษณ์ของครม.ใหม่ให้ดูดี โดยเฉพาะตัวบุคคลที่มีความรู้ในหน้าที่การงานของกระทรวงที่แท้จริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อมั่นเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เเละ ครม.ทักษิณ 1 เมื่อปี 2544 ก่อนที่จะมาปรับครม.กันใหม่ต้นปี 2555
รายงานระบุว่า มีการยืนยันแล้วว่า พรรคเพื่อไทย จะดูเเลกระทรวงหลักโดยจะยึดตำหน่งรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง รองนายกฯเศรษฐกิจ รมว.มหาดไทย รมว.คลัง รมว.พาณิชย์ รมว.ศึกษาธิการ รมว.เเรงงาน รมว.ไอซีที รมว.พลังงาน รมว.สาธารณสุข และรมว.พัฒนาสังคมฯ เป็นอย่างน้อย เพื่อสานต่อนโยบายพรรคตามที่ได้หาเสียงไว้
ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ค่อนข้างจะชัดเจนแล้ว เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล จะนั่ง รมว.ศึกษาธิการ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จะนั่งรมช.ศึกษาธิการ และคนนอก คือนายภาวิช ทองโรจน์ จะนั่งรมช.ศึกษาธิการ
ส่วนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค เเละอดีตปลัดกระทรวงเเรงงาน เป็นแคนดิเดต รมว.เเรงงาน , นายคณวัฒน์ วศินสังวร มีชื่อเป็นแคนดิเดต รมต.ประจำสำนักนายกฯ หรือ รมว.ไอซีที
สำหรับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ คาดว่าจะได้รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงเล็ก โดยมีกลุ่มส.ส.อีสานพัฒนา สนับสนุน
ส่วนภาค กทม.ในกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คาดวาจะได้รมว.สาธารณสุข เเละ รมว.พัฒนาสังคมฯ มี นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร เป็นรัฐมนตรี
ขณะที่ฝั่งนิติบัญญัติ ในตำแหน่งประธานรัฐสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร อีก 2 ที่ คาดว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ทั้งหมด เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนาปฏิเสธ จะเอาเพียงรัฐมนตรี 3 ที่นั่งเท่านั้น ดังนั้นจึงคาดว่าชื่อจะอยู่ที่ 3 แคนดิเดต คือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นายวิทยา บูรณศิริ
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา มีกระแสข่าว ว่านายบรรหาร เดินทางไปต่อรองขอตำแหน่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงบรูไน โดยขอ 5 ตำแหน่ง คือ โควตา 1 รองนายกฯ 1 รมว. และ 3 รมช. แต่ได้รับการปฏิเสธโดยจะให้เพียง 3 ตำแหน่ง คือ 1 รองนายกฯ 1 รมว. และ 1 รมช.
**"เทือก"พร้อมกินข้าวปรองดอง"แม้ว"
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ว่า พร้อมที่จะเชิญนายสุเทพ และนายเนวิน ชิดชอบ มารับประทานอาหารด้วยกัน เพื่อเริ่มต้นการแก้ปัญหาความปรองดองว่า ตน ยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนโอกาสความเป็นไปได้จะเกิดขึ้น หรือไม่ ยังไม่ทราบ คงต้องรอดูว่าพ.ต.ท.ทักษิณ คิดอะไรแน่
ผู้สื่อขาวถามว่า ต้องรอให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายต่อสายมา ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนต้องค่อยๆ พิจารณา ไม่ใช่เคาะ ก๊งๆๆๆ ตนวิ่งไป เดี๋ยวก็เสร็จ กลายเป็นหน้าแตก หน้าแตกไม่พอ พลอยทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปอีก ตนเคยมีประสบการณ์ มีอยู่ครั้งหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่งจะยุบสภา ตนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการยุบสภา ก็ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เสร็จแล้ว คุยกันสองคนเท่านั้นที่บ้านพิษณุโลก ตนได้อธิบายให้ พ.ต.ท.ทักษิณฟังทุกเรื่อง แล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกกับตนว่า จะแก้ไข เรื่องยุบสภาแต่อยู่มาไม่เท่าไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ตกลงตามที่พูด แถมยังไปปล่อยข่าวว่าตนไปพบเพื่อรับเงินพันสองพันล้านบาท ถ้าสื่อยังจำได้ แต่ตนก็ยังจนเหมือนเดิม ไม่ได้มีเงินพันสองพันล้าน เสียชื่อเสียง เสียภาพพจน์ไปเยอะ เพราะฉะนั้นคบค้าอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องระมัดระวัง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าโอกาสที่จะคุยกันเพื่อประเทศชาติจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อะไรที่เป็นเรื่องเพื่อประเทศชาติ ตนยินดีทั้งนั้น แต่ต้องดูความจริงใจของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณก่อน เมื่อถามว่าถ้าได้คุยกันจริงๆ จะคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องบ้านเมืองหรือเรื่องอะไร นายสุเทพ กล่าวย้อนถามว่า แล้วจะคุยเรื่องอะไร เขาก็มาชวนคุยเรื่องปรองดองไม่ใช่หรือ เรื่องบ้านเมืองไม่ใช่หรือ ก็ต้องเรื่องเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรบางอย่างหรือไม่ เช่น เรียกร้องให้กลับมารับโทษ นายสุเทพ กล่าวว่า คงต้องฟังเขาดูก่อน จะไปว่าอะไร ถ้าจะต้องคุยกัน แต่ไม่รู้เลยว่า 1. พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะคุยด้วยจริงๆหรือไม่ 2. คุยแล้วเขาตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ตนก็ต้องค่อยๆ ครุ่นคิด
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศบรูไน เพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่นายบรรหาร ถูกตัดสิทธิ ห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าคุณบรรหารผิด คุณทักษิณ ก็ผิดมาก่อน และผิดมานานแล้วด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งถูกเว้นวรรคทางการเมือง ถูกคดีอาญา ถ้าคุณบรรหารผิด พรรคเพื่อไทย ก็จะถูกยุบไปยี่สิบหนแล้ว และการที่ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะมา ก็เป็นฝีมือของคนที่ต้องห้ามทางการเมือง อย่างพ.ต.ท.ทักษิณ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ก็หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาร้องเรียน กกต. นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เป็นความคิดของแต่ละคนเท่านั้น ส่วนตนแล้วไม่คิดจะไปร้องเรียนใคร เพราะเราแพ้แล้ว เมื่อแพ้ก็ต้องว่าไปตามแพ้ เราเป็นผู้แพ้ที่ดี.
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวยอมรับว่า ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศบรูไน จริง แต่ไม่ได้ไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเพียงการเยี่ยมเยียนว่าอยู่สุขสบายดีหรือไม่ เพราะตอนที่อยู่ดูไบ มันไกลเกินไปนั่งเครื่องบินตั้ง 7 ชั่วโมง แต่ที่บรูไนนั่งเครื่องบินแค่ 2 ชั่วโมง และที่ไปบรูไน ก็เพื่อไปดูเรื่องเสือขาวด้วย ก็ได้พูดคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง เรื่องตำแหน่งไม่ได้ถาม ไม่กล้าถาม ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้ ความจริงพรรคเพื่อไทยน่าจะได้ 320 เสียง ตนก็ตกใจ เพราะถ้าได้320 เสียงจริง แล้วพวกตนจะเหลืออะไร เป็นการพูดคุยกันสนุกๆ มีเลี้ยงข้าวต้มกันนิดหนึ่ง แล้วก็กลับ เพราะมีคนไปพบหลายคน
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากให้ดูแลน้องสาวหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่าไม่ได้ฝาก เพราะคงมีคนดูแลเยอะแล้ว
"ขอยืนยันว่าผมไม่เคยไปต่อรองตำแหน่งตามที่เป็นข่าว เอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา ทุกรัฐบาลผมก็ไม่เคยต่อรองใคร และผมก็ไม่มีสิทธิที่จะไปต่อรอง เป็นเรื่องของพรรค และหัวหน้าพรรคเขาเจรจากัน ผมไม่รับรู้ด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่นิ่ง พรรคเพื่อไทยจะต้องจัดให้ลงตัวก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที" นายบรรหาร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวพรรคชาติไทยพัฒนา ขอรัฐมนตรี 5 ที่นั่ง นายบรรหาร ย้อนถามว่า คุณคิดว่าเป็นได้ไหม แค่ 19 เสียง จะขอ 5 เก้าอี้ แล้วคนอื่นจะได้อะไร เขียนข่าวกันคนละเรื่องเลย ได้แค่ 3 ที่นั่งก็บุญแล้ว อ้าวพูดไปแล้ว ไม่ต่อรอง 5-6 เก้าอี้ ไม่มีหรอก เมื่อถามย้ำว่า 3 เก้าอี้รัฐมนตรี ไม่รวมตำแหน่งรองนายกฯ ด้วย ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามหัวหน้าพรรค ตนไม่เกี่ยว
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายจับตามองการทำงานของ กกต. นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อบ้านเมืองมาจุดนี้แล้ว และที่ยุบสภา ก็เพราะต้องการให้ประชาชนตัดสิน ก็ต้องฟังเสียงประชาชน หากพรรคไหนได้อันดับหนึ่ง ก็ต้องเป็นรัฐบาล และให้ไปตลอดรอดฝั่ง เมื่อเขาได้คะแนนมาเกือบ 300 เสียง ไม่น่าจะมีปัญหา กกต.อาจจะประกาศรับรอง ส.ส.ส่วนหนึ่ง เพื่อให้เปิดสภาได้ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะว่างเว้นไป จะไม่ดี ส่วนที่มีการร้องเรียนอาจ รอสอบสวนก่อน
"ความจริงน่าจะรับรองไปก่อน แล้วค่อยตัดสิทธิ์ทีหลัง เพื่อให้สภาเปิดได้ ถ้าตรวจสอบเสร็จแล้ว ตรงไหนไม่ถูกต้อง สามารถว่ากันทีหลัง ทุกครั้งที่ทำกันมาก็แบบนี้"
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นยุบพรรคเพื่อไทยอีก นายบรรหาร กล่าวว่า ขอบนบานศาลกล่าว อย่ามีเลย พรรคการเมืองกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ กว่าจะพัฒนาให้เข้มแข็งได้ เลือดตาแทบกระเด็น อย่าเลย ขอร้องเถอะ ยุบคนดีกว่า พรรคอยู่ คนยังสร้างได้
**"แก๊งแดง"รอ"พ่อแม้ว"จัดให้
นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งของแกนนำ นปช. ว่าเป็นแค่เรื่องปลีกย่อย ไม่ใช่เรื่องของอุดมการณ์ คาดว่าเรื่องนี้น่าจะสามารถพูดคุยกันในแบบพี่น้องได้ ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. ถึงความเป็นมาของเรื่องดังกล่าวแล้ว
สำหรับเรื่องสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีที่จะเป็นโควต้าของแกนนำ นปช.นั้น ถือเป็นดุลยพินิจของพรรค เพราะอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงคือ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่สู้เพื่อเก้าอี้รัฐมนตรี
ด้านนางธิดา กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งของแกนนำคนเสื้อแดง เริ่มขึ้นภายหลังจากพรรคไทยชนะการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะทำให้คนเสื้อแดงเข้มแข็งขึ้น และหากยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน ทุกอย่างก็จะสามารถแก้ไขได้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับการทาบทามจากพรรคให้เป็นรัฐมนตรี เพราะขณะนี้ทางพรรคอยู่ระหว่างการทำเรื่องนโยบาย ที่ได้ให้ไว้กับประชาชนในช่วงหาเสียง เพื่อให้เป็นรูปธรรม ขอยืนยันว่า แกนนำ นปช.ไม่มีการแทรกแซงเรื่องการจัดตั้งครม. ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้เห็นชอบ
นพ.เหวง โตจิราการ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ตนก็ยังไม่ได้รับการติดต่อให้เป็นรัฐมนตรี แต่ตนก็พร้อมจะทำงานตามที่ทางพรรคได้มอบหมาย
** พท.กินรวบปธ.-รองปธ.สภาดีแล้ว
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนจากพรรคเพื่อไทยทั้งหมดว่า ประชาชนได้ให้ฉันทามติพรรคเพื่อไทย เข้ามาบริหารประเทศแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า หากประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นฝ่ายเดียวกับฝ่ายบริหาร จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน เพราะเมื่อบุคคลที่ได้รับเลือกเข้ามา และนั่งอยู่บนบังลังก์ ก็ต้องยึดตามระเบียบข้อบังคับการประชุมสภา รวมถึงข้อบัญญัติ ที่เกี่ยวข้องในรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ขอฝากการทำหน้าที่ของประธานสภา ว่าต้องเป็นกลาง เพื่อให้งานของฝ่ายนิติบัญญัติ เดินหน้าไปได้ และต้องระวังไม่ให้เกิดภาพของการโต้แย้งจนเป็นเหตุให้การประชุมสภาฯล่ม
**จัดตั้งรัฐบาลยังวุ่นไม่เลิก
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า ความคืบหน้าการจัดทำโผครม. “ปูแดง 1” ยังคงมีการต่อรองจากทั้งกลุ่มนอกพรรคและในพรรคตลอดเวลา
ทั้งนี้ มีการคาดหมายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด เพื่อกำหนดเเนวทาง หวังสร้างภาพลักษณ์ของครม.ใหม่ให้ดูดี โดยเฉพาะตัวบุคคลที่มีความรู้ในหน้าที่การงานของกระทรวงที่แท้จริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อมั่นเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เเละ ครม.ทักษิณ 1 เมื่อปี 2544 ก่อนที่จะมาปรับครม.กันใหม่ต้นปี 2555
รายงานระบุว่า มีการยืนยันแล้วว่า พรรคเพื่อไทย จะดูเเลกระทรวงหลักโดยจะยึดตำหน่งรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง รองนายกฯเศรษฐกิจ รมว.มหาดไทย รมว.คลัง รมว.พาณิชย์ รมว.ศึกษาธิการ รมว.เเรงงาน รมว.ไอซีที รมว.พลังงาน รมว.สาธารณสุข และรมว.พัฒนาสังคมฯ เป็นอย่างน้อย เพื่อสานต่อนโยบายพรรคตามที่ได้หาเสียงไว้
ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ค่อนข้างจะชัดเจนแล้ว เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล จะนั่ง รมว.ศึกษาธิการ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จะนั่งรมช.ศึกษาธิการ และคนนอก คือนายภาวิช ทองโรจน์ จะนั่งรมช.ศึกษาธิการ
ส่วนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค เเละอดีตปลัดกระทรวงเเรงงาน เป็นแคนดิเดต รมว.เเรงงาน , นายคณวัฒน์ วศินสังวร มีชื่อเป็นแคนดิเดต รมต.ประจำสำนักนายกฯ หรือ รมว.ไอซีที
สำหรับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ คาดว่าจะได้รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงเล็ก โดยมีกลุ่มส.ส.อีสานพัฒนา สนับสนุน
ส่วนภาค กทม.ในกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คาดวาจะได้รมว.สาธารณสุข เเละ รมว.พัฒนาสังคมฯ มี นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร เป็นรัฐมนตรี
ขณะที่ฝั่งนิติบัญญัติ ในตำแหน่งประธานรัฐสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร อีก 2 ที่ คาดว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ทั้งหมด เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนาปฏิเสธ จะเอาเพียงรัฐมนตรี 3 ที่นั่งเท่านั้น ดังนั้นจึงคาดว่าชื่อจะอยู่ที่ 3 แคนดิเดต คือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นายวิทยา บูรณศิริ
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา มีกระแสข่าว ว่านายบรรหาร เดินทางไปต่อรองขอตำแหน่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงบรูไน โดยขอ 5 ตำแหน่ง คือ โควตา 1 รองนายกฯ 1 รมว. และ 3 รมช. แต่ได้รับการปฏิเสธโดยจะให้เพียง 3 ตำแหน่ง คือ 1 รองนายกฯ 1 รมว. และ 1 รมช.
**"เทือก"พร้อมกินข้าวปรองดอง"แม้ว"
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ว่า พร้อมที่จะเชิญนายสุเทพ และนายเนวิน ชิดชอบ มารับประทานอาหารด้วยกัน เพื่อเริ่มต้นการแก้ปัญหาความปรองดองว่า ตน ยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนโอกาสความเป็นไปได้จะเกิดขึ้น หรือไม่ ยังไม่ทราบ คงต้องรอดูว่าพ.ต.ท.ทักษิณ คิดอะไรแน่
ผู้สื่อขาวถามว่า ต้องรอให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายต่อสายมา ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนต้องค่อยๆ พิจารณา ไม่ใช่เคาะ ก๊งๆๆๆ ตนวิ่งไป เดี๋ยวก็เสร็จ กลายเป็นหน้าแตก หน้าแตกไม่พอ พลอยทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปอีก ตนเคยมีประสบการณ์ มีอยู่ครั้งหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่งจะยุบสภา ตนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการยุบสภา ก็ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เสร็จแล้ว คุยกันสองคนเท่านั้นที่บ้านพิษณุโลก ตนได้อธิบายให้ พ.ต.ท.ทักษิณฟังทุกเรื่อง แล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกกับตนว่า จะแก้ไข เรื่องยุบสภาแต่อยู่มาไม่เท่าไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ตกลงตามที่พูด แถมยังไปปล่อยข่าวว่าตนไปพบเพื่อรับเงินพันสองพันล้านบาท ถ้าสื่อยังจำได้ แต่ตนก็ยังจนเหมือนเดิม ไม่ได้มีเงินพันสองพันล้าน เสียชื่อเสียง เสียภาพพจน์ไปเยอะ เพราะฉะนั้นคบค้าอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องระมัดระวัง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าโอกาสที่จะคุยกันเพื่อประเทศชาติจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อะไรที่เป็นเรื่องเพื่อประเทศชาติ ตนยินดีทั้งนั้น แต่ต้องดูความจริงใจของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณก่อน เมื่อถามว่าถ้าได้คุยกันจริงๆ จะคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องบ้านเมืองหรือเรื่องอะไร นายสุเทพ กล่าวย้อนถามว่า แล้วจะคุยเรื่องอะไร เขาก็มาชวนคุยเรื่องปรองดองไม่ใช่หรือ เรื่องบ้านเมืองไม่ใช่หรือ ก็ต้องเรื่องเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรบางอย่างหรือไม่ เช่น เรียกร้องให้กลับมารับโทษ นายสุเทพ กล่าวว่า คงต้องฟังเขาดูก่อน จะไปว่าอะไร ถ้าจะต้องคุยกัน แต่ไม่รู้เลยว่า 1. พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะคุยด้วยจริงๆหรือไม่ 2. คุยแล้วเขาตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ตนก็ต้องค่อยๆ ครุ่นคิด
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศบรูไน เพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่นายบรรหาร ถูกตัดสิทธิ ห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าคุณบรรหารผิด คุณทักษิณ ก็ผิดมาก่อน และผิดมานานแล้วด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งถูกเว้นวรรคทางการเมือง ถูกคดีอาญา ถ้าคุณบรรหารผิด พรรคเพื่อไทย ก็จะถูกยุบไปยี่สิบหนแล้ว และการที่ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะมา ก็เป็นฝีมือของคนที่ต้องห้ามทางการเมือง อย่างพ.ต.ท.ทักษิณ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ก็หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาร้องเรียน กกต. นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เป็นความคิดของแต่ละคนเท่านั้น ส่วนตนแล้วไม่คิดจะไปร้องเรียนใคร เพราะเราแพ้แล้ว เมื่อแพ้ก็ต้องว่าไปตามแพ้ เราเป็นผู้แพ้ที่ดี.