ASTVผู้จัดการรายวัน - ค่ายเบียร์สิงห์ แตกธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ไม่หยุด ลุยธุรกิจไลฟ์สไตล์ ฝันปั้นเสื้อผ้า”สิงห์ ไลฟ์” สู่โกลบอลแบรนด์ เดินหน้าแตกไลน์สกินแคร์ –คอสเมติคผลิตจากเบียร์ สร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดธุรกิจเบียร์ เสริมทัพครบไลน์สินค้าแฟชั่น อัด 50 ล้านบาท ผุดช็อปในและต่างประเทศ คีออสสนามบินสุวรรณภูมิ รุกขายออนไลน์ ตั้งเป้าปีหน้ากำไรปีแรก กวาดยอดขาย 30 ล้านบาท หวัง 5 ปี รายได้นอนแอลกอฮอล์ขยับ 30%
นางสาวปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการแบรนด์เสื้อผ้าสิงห์ ไลฟ์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทสิงห์ฯ วางแผนแตกไลน์ธุรกิจไปสู่สินค้าที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจเบียร์ โดยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
ได้แตกธุรกิจไลฟ์สไตล์ไปสู่สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์”สิงห์ ไลฟ์” โดยมีรายได้เฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นจากนี้บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกในกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่น ด้วยการแตกไลน์สินค้าให้ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และวางเป้าหมายสู่โกลบอลแบรนด์ในอนาคตเช่นเดียวกับเบียร์สิงห์
ปีหน้านี้บริษัททุ่ม 50 ล้านบาท วางแผนขยายตลาดในประเทศและตลาดในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งมีพันธมิตรทางธุรกิจเบียร์สนใจ บริษัทสนใจเปิดสาขาในฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ และต้องการขยายตลาดอเมริกา ยุโรปในอนาคต ขณะเดียวกันเตรียมเปิดคีออส 2 แห่ง ที่สุวรรณภูมิ รองรับกับลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศสัดส่วน 30-40% และอีก 60-70% พบว่าเป็นคนไทย
บริษัทจะเปิดช็อปเพิ่ม 2 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จากปัจจุบันมี 2 แห่ง คือ สยามเซ็นเตอร์และเซ็นทรัล เวิลด์ เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-50 ปีขึ้นไป จากปัจจุบันมี 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เสื้อผ้าทำงาน เสื้อยืด และเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง และปลายปีนี้จะเปิดตัวเสื้อผ้าสไตล์สปอร์ต
ล่าสุดบริษัทแตกไลน์กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นจากเบียร์ โดยเป็นการต่อยอดทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเบียร์มากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่โดยสินค้าจะวางจำหน่ายในร้านสิงห์ไลฟ์ ก่อนหน้านี้ได้ทดลองวางจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าปลายปีนี้จะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ นำร่องด้วย แชมพูและสบู่
จากนั้นจะขยายไปสู่สินค้ากลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง และเป็นสินค้าอีกกลุ่มธุรกิจในนอนแอลกอฮอล์ ซึ่งมีนายสันต์ ภิรมย์ภักดี กรรมการและผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดนอล-แอลกอฮอล์ เป็นผู้บริหารกลุ่มสินค้าดังกล่าว
“เราวางแผนขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ ทั้งทางด้านแพกเกจจิ้งดีไซน์ โปรดักส์ดีไซน์ และกลุ่มสินค้าสกินแคร์-คอสเมติก ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อแบรนด์ได้ โดยกลุ่มดังกล่าวได้จ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิต อย่างไรก็ตามขณะนี้สินค้าสิงห์ไลฟ์ ตลาดเอเชียให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้แทนจำหน่ายสินค้าเบียร์ซึ่งบริษัทต้องพิจารณาถึงศักยภาพของกลุ่มผู้ประกอบการเป็นหลักด้วย”
นางสาวปรีดิ์รติ กล่าวว่า บริษัทวางแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ ด้วยการเปิดเว็บไซต์ www.singhalife.com ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากได้ทดลองระบบการจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังทำซีอาร์เอ็มหรือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ ล่าสุดเปิดตัวโครงการ”สิงห์ ไลฟ์ อวอร์ดส์ 2011”ปีที่ 2 ขึ้น
โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ประกวดออกแบบทั้งเครื่องแต่งกายและแอคเซสซอรี่ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 4 แสนบาท ส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม นี้
ผลประกอบการสิ้นปีนี้กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าโต 15% หรือมีรายได้ 25 ล้านบาท และปีหน้านี้ตั้งเป้ามีรายได้ 30 ล้านบาท หรือมีกำไรในปีแรก 5 ล้านบาท และจากนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ภายใต้บังเหียน“สันติ ภิรมย์ภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วางแผนขยายไลน์ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ในเชิงรุก
นอกเหนือจากกลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลอฮอล์และอาหาร เพื่อผลักดันการเติบโตของรายได้ 5 ปี สัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้านอนแอลกอฮอล์เพิ่มสัดส่วนจาก 10% เป็น 30% และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จาก 90% เป็น 70%
นางสาวปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการแบรนด์เสื้อผ้าสิงห์ ไลฟ์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทสิงห์ฯ วางแผนแตกไลน์ธุรกิจไปสู่สินค้าที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจเบียร์ โดยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
ได้แตกธุรกิจไลฟ์สไตล์ไปสู่สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์”สิงห์ ไลฟ์” โดยมีรายได้เฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นจากนี้บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกในกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่น ด้วยการแตกไลน์สินค้าให้ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และวางเป้าหมายสู่โกลบอลแบรนด์ในอนาคตเช่นเดียวกับเบียร์สิงห์
ปีหน้านี้บริษัททุ่ม 50 ล้านบาท วางแผนขยายตลาดในประเทศและตลาดในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งมีพันธมิตรทางธุรกิจเบียร์สนใจ บริษัทสนใจเปิดสาขาในฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ และต้องการขยายตลาดอเมริกา ยุโรปในอนาคต ขณะเดียวกันเตรียมเปิดคีออส 2 แห่ง ที่สุวรรณภูมิ รองรับกับลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศสัดส่วน 30-40% และอีก 60-70% พบว่าเป็นคนไทย
บริษัทจะเปิดช็อปเพิ่ม 2 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จากปัจจุบันมี 2 แห่ง คือ สยามเซ็นเตอร์และเซ็นทรัล เวิลด์ เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-50 ปีขึ้นไป จากปัจจุบันมี 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เสื้อผ้าทำงาน เสื้อยืด และเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง และปลายปีนี้จะเปิดตัวเสื้อผ้าสไตล์สปอร์ต
ล่าสุดบริษัทแตกไลน์กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นจากเบียร์ โดยเป็นการต่อยอดทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเบียร์มากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่โดยสินค้าจะวางจำหน่ายในร้านสิงห์ไลฟ์ ก่อนหน้านี้ได้ทดลองวางจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าปลายปีนี้จะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ นำร่องด้วย แชมพูและสบู่
จากนั้นจะขยายไปสู่สินค้ากลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง และเป็นสินค้าอีกกลุ่มธุรกิจในนอนแอลกอฮอล์ ซึ่งมีนายสันต์ ภิรมย์ภักดี กรรมการและผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดนอล-แอลกอฮอล์ เป็นผู้บริหารกลุ่มสินค้าดังกล่าว
“เราวางแผนขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ ทั้งทางด้านแพกเกจจิ้งดีไซน์ โปรดักส์ดีไซน์ และกลุ่มสินค้าสกินแคร์-คอสเมติก ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อแบรนด์ได้ โดยกลุ่มดังกล่าวได้จ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิต อย่างไรก็ตามขณะนี้สินค้าสิงห์ไลฟ์ ตลาดเอเชียให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้แทนจำหน่ายสินค้าเบียร์ซึ่งบริษัทต้องพิจารณาถึงศักยภาพของกลุ่มผู้ประกอบการเป็นหลักด้วย”
นางสาวปรีดิ์รติ กล่าวว่า บริษัทวางแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ ด้วยการเปิดเว็บไซต์ www.singhalife.com ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากได้ทดลองระบบการจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังทำซีอาร์เอ็มหรือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ ล่าสุดเปิดตัวโครงการ”สิงห์ ไลฟ์ อวอร์ดส์ 2011”ปีที่ 2 ขึ้น
โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ประกวดออกแบบทั้งเครื่องแต่งกายและแอคเซสซอรี่ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 4 แสนบาท ส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม นี้
ผลประกอบการสิ้นปีนี้กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าโต 15% หรือมีรายได้ 25 ล้านบาท และปีหน้านี้ตั้งเป้ามีรายได้ 30 ล้านบาท หรือมีกำไรในปีแรก 5 ล้านบาท และจากนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ภายใต้บังเหียน“สันติ ภิรมย์ภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วางแผนขยายไลน์ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ในเชิงรุก
นอกเหนือจากกลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลอฮอล์และอาหาร เพื่อผลักดันการเติบโตของรายได้ 5 ปี สัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้านอนแอลกอฮอล์เพิ่มสัดส่วนจาก 10% เป็น 30% และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จาก 90% เป็น 70%