ASTVผู้จัดการรายวัน - “เดลวี เพลส” เผยนโยบายลงทุนตลาดอสังหาฯระยะยาว เดินหน้าปั้นแบรนด์ “เฮ้าส์ คอนโด” รุกตลาดบน พร้อมทยอยเพิ่มพอร์ตลงทุนโครงการใหม่ 1,000 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จจาก 3 โครงการคอนโดฯโลว์ไรส์ย่านสุขุมวิทมาแล้ว เล็งขยายไลน์ธุรกิจอพาร์ตเมนต์-ที่พักอาศัย เน้นเทกโอเวอร์ต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ล่าสุดกระโดดมาทำโครงการย่านลาดพร้าว เปิดตัว โครงการเฮ้าส์ 23 วางเป้าทั้งปีต้องปิดยอดขายให้ได้กว่า 80% ด้าน "วิชัย พูลวรลักษณ์" เปิดโครงการคอนโดฯไฮเอน มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมวัยทำงานรุ่นใหม่
นายโนเอล โกห์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เดลวี เพลส จำกัด กล่าวว่า “เดลวี เพลส” เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มนักธุรกิจไทยกับบริษัท ฮีตัน จำกัด จากประเทศสิงคโปร์ ในลักษณะการร่วมทุนโครงการต่อโครงการ ซึ่งในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น มาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ DLV20 โครงการ Click Denim และ โครงการ Condo ทั้ง 3 แห่ง อยู่ในย่านสุขุมวิททั้งสิ้น
ล่าสุด บริษัทเดลวีฯ ได้ร่วมทุนกับกลุ่มนักธุรกิจเดิม ลงทุนพัฒนาโครงการ เฮ้าส์ 23 รัชดา-ลาดพร้าว เนื้อที่ 1.2 ไร่เศษ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าวซอย 23 สูง 27 ชั้น จำนวน 236 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.9-6.9 ล้านบาท มูลค่ารวม 900 ล้านบาท และนับเป็นโครงการแรกที่พัฒนาภายใต้แบรนด์ใหม่ เจาะตลาดคอนโดฯระดับบน ส่วนแบรนด์เดลวี เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง รูปแบบโครงการโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้น
“ โครงการเฮ้าส์23 เปิดพรีเซลช่วงเดือนมี.ค. มียอดจองแล้ว 33% และวันที่ 9-10 ก.ค.ศก.นี้ จะเปิดขายอย่างเป็นทางการ และทำการปรับราคาขายขึ้นประมาณ 3% คาดว่าภายในสิ้นปีจะมีตัวเลขปิดการขายได้ไม่ต่ำกว่า 80% ของห้องชุดทั้งหมด ”
ทั้งนี้ การเคลื่อนมาลงทุนคอนโดฯทำเลลาดพร้าวนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการลงทุนค่อนข้าสูง มีความต้องการซื้อ (ดีมานด์) ราคาต้นทุนที่ดิน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ ทำให้สามารถตั้งรายได้เหมาะสมกับกำลังซื้อและตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว
“ ยอมรับว่าย่านสาทร สีลม สุขุมวิท ต้นทุนที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้มีผลต่อการกำหนดราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ขณะที่ทำเลลาดพร้าว ราคาที่ดินยังไม่สูงมาก มีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัยจริงอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนลูกค้าในโครงการ เฮ้าส์ 23 แยกเป็น กลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย 65% ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า 30% และกลุ่มนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ ซื้อแล้วโอนเพื่อปล่อยเช่าระยะยาว และซื้อแล้วโอนแล้วปล่อยเช่า ก่อนขายห้องชุดพร้อมผู้เช่าเพื่อทำกำไร ที่เหลืออีก 5 % กลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อเก็งกำไรแล้วขายใบจอง ”
ทั้งนี้ ในประเภทกลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในโครงการเพื่อปล่อยเช่า จะมีโอกาสหาผลตอบแทน เพราะจากข้อมูลเกี่ยวกับตลาดเช่าอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่ดังกล่าว จะมีอัตราการเข้าพักสูงถึง 80-90% ส่วนระดับราคาปล่อยเช่าในพื้นที่แบบสตูดิโออยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ราคาเช่าที่ 18,000-19,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าหลังโครงการเฮ้าส์23 ก่อสร้างเสร็จจะมีการปรับขึ้นค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ของห้องสตูดิโออยู่ที่ 14,000-15,000บาทต่อเดือน และห้องพัก1 ห้องนอนระมีค่าเช่าอยู่ที่ 20,000 บาทต่อเดือนได้
สำหรับนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ จะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยมูลค่าการลงทุนต่อปีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะขยายประเภทธุรกิจ(แตกไลน์)ไปสู่ ธุรกิจอพาร์ตเมนต์และที่พักอาศัย อาทิเช่น กลุ่มโรงแรม และ บ้านพักตากอากาศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร โดยใช้กลยุทธ์ในการเข้าไปซื้อกิจการ(เทกโอเวอร์)จากผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อต่อยอดธุรกิจภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น
"ดับเบิลยู"ผุดคอนโดฯไฮเอนพันล้าน
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด แบรนด์ W-Property กล่าวว่า “วอร่า สุขุมวิท 49 เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ใหม่ที่เจาะตลาดไฮเอน มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ โดยชูคอนเซ็ปต์เวลล์บีอิ้ง มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมวัยทำงานรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
“ทางบริษัทฯยังคงเดินหน้ารุกตลาดคอนโดฯระดับไฮเอนและพัฒนาโครงการที่มีแนวคิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เนื่องจากตลาดลูกค้าระดับไฮเอนจะมองหาโครงการคุณภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะตอบโจทย์ในรูปแบบที่เหมาะต่อการอยู่อาศัยและคุ้มค่าต่อการลงทุน” นายวิชัย กล่าว
โดยโครงการวอร่า สุขุมวิท 49 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-ทองหล่อใจกลางย่านธุรกิจ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ครึ่ง มี 2 อาคาร รวม 135 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 38-126 ตารางเมตร พร้อมได้เสนอขายโครงการในแบบ Fully-Furnished เปิดตัวในราคายูนิตละ 3.9 - 17 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ เมษายน พ.ศ. 2556
นายโนเอล โกห์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เดลวี เพลส จำกัด กล่าวว่า “เดลวี เพลส” เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มนักธุรกิจไทยกับบริษัท ฮีตัน จำกัด จากประเทศสิงคโปร์ ในลักษณะการร่วมทุนโครงการต่อโครงการ ซึ่งในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น มาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ DLV20 โครงการ Click Denim และ โครงการ Condo ทั้ง 3 แห่ง อยู่ในย่านสุขุมวิททั้งสิ้น
ล่าสุด บริษัทเดลวีฯ ได้ร่วมทุนกับกลุ่มนักธุรกิจเดิม ลงทุนพัฒนาโครงการ เฮ้าส์ 23 รัชดา-ลาดพร้าว เนื้อที่ 1.2 ไร่เศษ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าวซอย 23 สูง 27 ชั้น จำนวน 236 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.9-6.9 ล้านบาท มูลค่ารวม 900 ล้านบาท และนับเป็นโครงการแรกที่พัฒนาภายใต้แบรนด์ใหม่ เจาะตลาดคอนโดฯระดับบน ส่วนแบรนด์เดลวี เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง รูปแบบโครงการโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้น
“ โครงการเฮ้าส์23 เปิดพรีเซลช่วงเดือนมี.ค. มียอดจองแล้ว 33% และวันที่ 9-10 ก.ค.ศก.นี้ จะเปิดขายอย่างเป็นทางการ และทำการปรับราคาขายขึ้นประมาณ 3% คาดว่าภายในสิ้นปีจะมีตัวเลขปิดการขายได้ไม่ต่ำกว่า 80% ของห้องชุดทั้งหมด ”
ทั้งนี้ การเคลื่อนมาลงทุนคอนโดฯทำเลลาดพร้าวนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการลงทุนค่อนข้าสูง มีความต้องการซื้อ (ดีมานด์) ราคาต้นทุนที่ดิน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ ทำให้สามารถตั้งรายได้เหมาะสมกับกำลังซื้อและตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว
“ ยอมรับว่าย่านสาทร สีลม สุขุมวิท ต้นทุนที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้มีผลต่อการกำหนดราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ขณะที่ทำเลลาดพร้าว ราคาที่ดินยังไม่สูงมาก มีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัยจริงอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนลูกค้าในโครงการ เฮ้าส์ 23 แยกเป็น กลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย 65% ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า 30% และกลุ่มนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ ซื้อแล้วโอนเพื่อปล่อยเช่าระยะยาว และซื้อแล้วโอนแล้วปล่อยเช่า ก่อนขายห้องชุดพร้อมผู้เช่าเพื่อทำกำไร ที่เหลืออีก 5 % กลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อเก็งกำไรแล้วขายใบจอง ”
ทั้งนี้ ในประเภทกลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในโครงการเพื่อปล่อยเช่า จะมีโอกาสหาผลตอบแทน เพราะจากข้อมูลเกี่ยวกับตลาดเช่าอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่ดังกล่าว จะมีอัตราการเข้าพักสูงถึง 80-90% ส่วนระดับราคาปล่อยเช่าในพื้นที่แบบสตูดิโออยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ราคาเช่าที่ 18,000-19,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าหลังโครงการเฮ้าส์23 ก่อสร้างเสร็จจะมีการปรับขึ้นค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ของห้องสตูดิโออยู่ที่ 14,000-15,000บาทต่อเดือน และห้องพัก1 ห้องนอนระมีค่าเช่าอยู่ที่ 20,000 บาทต่อเดือนได้
สำหรับนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ จะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยมูลค่าการลงทุนต่อปีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะขยายประเภทธุรกิจ(แตกไลน์)ไปสู่ ธุรกิจอพาร์ตเมนต์และที่พักอาศัย อาทิเช่น กลุ่มโรงแรม และ บ้านพักตากอากาศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร โดยใช้กลยุทธ์ในการเข้าไปซื้อกิจการ(เทกโอเวอร์)จากผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อต่อยอดธุรกิจภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น
"ดับเบิลยู"ผุดคอนโดฯไฮเอนพันล้าน
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด แบรนด์ W-Property กล่าวว่า “วอร่า สุขุมวิท 49 เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ใหม่ที่เจาะตลาดไฮเอน มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ โดยชูคอนเซ็ปต์เวลล์บีอิ้ง มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมวัยทำงานรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
“ทางบริษัทฯยังคงเดินหน้ารุกตลาดคอนโดฯระดับไฮเอนและพัฒนาโครงการที่มีแนวคิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เนื่องจากตลาดลูกค้าระดับไฮเอนจะมองหาโครงการคุณภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะตอบโจทย์ในรูปแบบที่เหมาะต่อการอยู่อาศัยและคุ้มค่าต่อการลงทุน” นายวิชัย กล่าว
โดยโครงการวอร่า สุขุมวิท 49 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-ทองหล่อใจกลางย่านธุรกิจ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ครึ่ง มี 2 อาคาร รวม 135 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 38-126 ตารางเมตร พร้อมได้เสนอขายโครงการในแบบ Fully-Furnished เปิดตัวในราคายูนิตละ 3.9 - 17 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ เมษายน พ.ศ. 2556