เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้(29 มิ.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.)พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคการเมืองออกมาโจมตีกองทัพว่าจะใช้ช่องทางปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ล้มการเลือกตั้งว่า คงเป็นเรื่องที่มีคนพูดกันต่างแนวความคิด แต่ตนอยากให้ข้อคิดเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน การเลือกตั้งก็จะต้องดำเนินการต่อไป ทหารเองก็ต้องการให้เกิดการเลือกตั้ง
อีกทั้ง ผู้บัญชาการทหารบก ก็ย้ำตลอดถึงการวางตัวเป็นกลาง และประสงค์อยากจะให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดขึ้นอย่างที่ได้กำหนดไว้ ทหารเองยังยึดถือนโยบายเดิมโดยสนับสนุนให้มีการใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ และเชื่อว่าการออกมาใช้สิทธิ์ของทหารเต็มเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ขอให้มั่นใจในความเป็นกลางของกองทัพ และให้มีเสรีภาพของกำลังพลในการไปใช้สิทธิ์ รวมถึงจะต้องศึกษา คนใด พรรคใด ที่จะทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง และบริหารชาติบ้านเมืองได้ดีก็สามารถเลือกได้ตามความคิดเห็นของแต่ละคนได้เอง ทั้งนี้จะต้องดูถึงเรื่องนโยบายของพรรคจะเป็นประโยชน์หรือไม่อย่างไร หรือใครมากใครน้อยกว่ากัน ที่สำคัญพรรคใดที่จะสามารถดูแลปกป้องเทิดทูนสถาบันให้ยืนยาวตลอดไป
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองพยายามกล่าวหาว่ากองทัพล็อบบี้ให้เลือกพรรคคู่แข่ง พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า น่าจะเป็นเป้าหมายของคนที่ไม่เข้าใจ แต่เราก็คงไม่หวั่นไหวอะไร เรายึดถือตามหลักประชาธิปไตย ใครจะบอกว่าไปล็อบบี้อะไรต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถห้ามได้ เพียงแต่จะพยายามทำให้เข้าใจให้ได้มากที่สุด กองทัพไม่ได้โน้มเอียง กองทัพยืนยันชัดเจนว่า 1.จะไปเลือกตั้งให้มากที่สุด 2.เป็นกลาง และให้ทุกคนมีเสรีในการเลือกพรรคใดคนใดก็ได้ตามใจที่คิดว่าดี
เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่ว่า ผลคะแนนเลือกตั้งออกมาไม่ตรงใจกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองทหารจะถูกโยงเข้าว่าอาจจะใช้ขบวนการใต้ดิน พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า มีอยู่บ้าง แต่ก็จะต้องหนักแน่น และพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้กองทัพพร้อมสนับสนุนหากมีการร้องขอให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือ เพียงแต่จะต้องดูถึงความเหมาะสมเพื่อป้องกันเกิดข้อครหา แต่หน้าที่หลักเป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนทหารจะพยายามลดปัญหาความเคลือบแคลงสงสัย อะไรที่ทำให้เกิดผลกระทบ ที่จะทำให้เกิดมุมมองว่าทหารเข้าไปแล้วจะไม่เป็นกลางก็จะตัดออกไป
เมื่อถามว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของการปราศรัยหาเสียงมีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า น่าเป็นห่วงในเรื่องความรุนแรงของแต่ละส่วนที่มีการหาเสียงกันที่อาจจะเกิดได้ เพียงแต่เราได้ติดตามโดยใช้กลไกของ กอ.รมน.ภาคในการสอดส่องดูแล และมอบให้ตำรวจเป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเรื่องการยิงหัวคะแนน ก็อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้การทำงานของชุดปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส.315 ยังไม่พบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ ปส.315 ทำงาน อย่างเต็มที่ และจุดที่ล่อแหลมที่จะมองว่าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการให้คุณให้โทษทางด้านการเมืองไปแล้ว โดยการปฏิบัติงานจะทำงานร่วมกับตำรวจ และ ปปส. อยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่าไปคิดเช่นนั้น เราจะต้องช่วยกันเพื่อให้สังคมดีขึ้น ปัญหายาเพสติดมีมากจะให้ทำหน่วยใดหน่วยหนึ่งคงไม่ได้ โครงการดังกล่าวถือว่าดีมากจะต้องสนับสนุน
อีกทั้ง ผู้บัญชาการทหารบก ก็ย้ำตลอดถึงการวางตัวเป็นกลาง และประสงค์อยากจะให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดขึ้นอย่างที่ได้กำหนดไว้ ทหารเองยังยึดถือนโยบายเดิมโดยสนับสนุนให้มีการใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ และเชื่อว่าการออกมาใช้สิทธิ์ของทหารเต็มเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ขอให้มั่นใจในความเป็นกลางของกองทัพ และให้มีเสรีภาพของกำลังพลในการไปใช้สิทธิ์ รวมถึงจะต้องศึกษา คนใด พรรคใด ที่จะทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง และบริหารชาติบ้านเมืองได้ดีก็สามารถเลือกได้ตามความคิดเห็นของแต่ละคนได้เอง ทั้งนี้จะต้องดูถึงเรื่องนโยบายของพรรคจะเป็นประโยชน์หรือไม่อย่างไร หรือใครมากใครน้อยกว่ากัน ที่สำคัญพรรคใดที่จะสามารถดูแลปกป้องเทิดทูนสถาบันให้ยืนยาวตลอดไป
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองพยายามกล่าวหาว่ากองทัพล็อบบี้ให้เลือกพรรคคู่แข่ง พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า น่าจะเป็นเป้าหมายของคนที่ไม่เข้าใจ แต่เราก็คงไม่หวั่นไหวอะไร เรายึดถือตามหลักประชาธิปไตย ใครจะบอกว่าไปล็อบบี้อะไรต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถห้ามได้ เพียงแต่จะพยายามทำให้เข้าใจให้ได้มากที่สุด กองทัพไม่ได้โน้มเอียง กองทัพยืนยันชัดเจนว่า 1.จะไปเลือกตั้งให้มากที่สุด 2.เป็นกลาง และให้ทุกคนมีเสรีในการเลือกพรรคใดคนใดก็ได้ตามใจที่คิดว่าดี
เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่ว่า ผลคะแนนเลือกตั้งออกมาไม่ตรงใจกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองทหารจะถูกโยงเข้าว่าอาจจะใช้ขบวนการใต้ดิน พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า มีอยู่บ้าง แต่ก็จะต้องหนักแน่น และพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้กองทัพพร้อมสนับสนุนหากมีการร้องขอให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือ เพียงแต่จะต้องดูถึงความเหมาะสมเพื่อป้องกันเกิดข้อครหา แต่หน้าที่หลักเป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนทหารจะพยายามลดปัญหาความเคลือบแคลงสงสัย อะไรที่ทำให้เกิดผลกระทบ ที่จะทำให้เกิดมุมมองว่าทหารเข้าไปแล้วจะไม่เป็นกลางก็จะตัดออกไป
เมื่อถามว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของการปราศรัยหาเสียงมีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า น่าเป็นห่วงในเรื่องความรุนแรงของแต่ละส่วนที่มีการหาเสียงกันที่อาจจะเกิดได้ เพียงแต่เราได้ติดตามโดยใช้กลไกของ กอ.รมน.ภาคในการสอดส่องดูแล และมอบให้ตำรวจเป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเรื่องการยิงหัวคะแนน ก็อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้การทำงานของชุดปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส.315 ยังไม่พบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ ปส.315 ทำงาน อย่างเต็มที่ และจุดที่ล่อแหลมที่จะมองว่าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการให้คุณให้โทษทางด้านการเมืองไปแล้ว โดยการปฏิบัติงานจะทำงานร่วมกับตำรวจ และ ปปส. อยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่าไปคิดเช่นนั้น เราจะต้องช่วยกันเพื่อให้สังคมดีขึ้น ปัญหายาเพสติดมีมากจะให้ทำหน่วยใดหน่วยหนึ่งคงไม่ได้ โครงการดังกล่าวถือว่าดีมากจะต้องสนับสนุน
