ASTVผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค"เดินสายปลุกคนอีสาน อย่าเลือกพวกเผาศาลากลาง เจอ"แม่เสื้อแดง 91 ศพ" ร้องหาความยุติธรรมที่ลูกชายถูกฆ่า ก่อนปิดท้ายปราศรัยใหญ่ที่อุบลฯ ลั่นถอนพิษแม้ว ด้วยวัคซีนมาร์ค เบอร์ 10 ด้าน"ยิ่งลักษณ์" พบแฟนคลับ"เฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์" แก้เครียด หลังเจอปชป.ถล่มหนักเรื่อง ถูกใช้ให้เข้ามาหาทางนิรโทษ และคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน ให้พี่ชาย
เมื่อเวลา 7.00 น. วานนี้ (27 มิ.ย.) ที่วัดศรีธาตุ อ.เมือง จ.ยโสธร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเดินสายหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสานว่า ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนจะได้ส.ส.ถึง 10 คน ตามที่นายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานตั้งเป้าไว้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน แต่ก็จะพยายามให้ได้มากที่สุด
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้เน้นไปที่การนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ตอนหลังเริ่มจะกลับไปกลับมา เพราะประชาชนไม่ตอบรับ
" กรณีของพรรคเพื่อไทย ที่มาแถลงเรื่องของนิรโทษกรรม มันคงเป็นความพยายามที่จะหนีจากความจริงมากกว่า เพราะล่าสุดคุณทักษิณ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์อีก พาดพิงไปถึงศาลยุติธรรม และขณะนี้วิธีการก็เพียงยืนยันว่า เรื่องการนิรโทษกรรมนั้นไม่ใช่เป็นการนิรโทษให้ตนเองเพียงคนเดียว แต่จะนิรโทษให้ทุกฝ่าย แต่ความจริงสุดท้ายบั้นปลายเป้าหมายก็คืออยู่ที่ตัวเอง ส่วนจะหนีความจริงพ้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะต้องมองให้ทะลุว่า สิ่งที่พูดจากันในขณะนี้ มีความพยายามซ่อนความจริงกันอย่างไร แต่พื้นฐานความจริงคือ คุณทักษิณ คิดชัดเจนในการที่จะได้รับการนิรโทษกรรม เป็นลักษณะที่คุณทักษิณคิดแล้วพรรคเพื่อไทยทำ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำนั้น จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และจะเป็นการทำลายระบบกฎหมาย ระบบของบ้านเมืองในอนาคต
เมื่อถามว่าสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันว่าจะไม่มีเรื่องการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และจะไม่มีการนิรโทษกรรมนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินชัดเช่นนั้น ได้ยินแต่พยายามบอกว่าไม่ได้เป็นนโยบาย ทั้งๆ ที่เคยพูดมาแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศย้ำว่า ตัวเองจะได้ประโยชน์ จากการนิรโทษกรรม
อย่างไรก็ตาม คิดว่าประชาชนดูออก และการที่ปชป.พยายามลำดับเหตุการณ์ต่างๆให้เห็นว่า ความสูญเสียความวุ่นวายที่ผ่านมานั้นไม่สามารถที่จะจบลงได้ และการที่ไม่ยอมรับการประนีประนอมในทุกครั้งนั้น ก็เพราะเราไม่ยอมคืนเงิน หรือนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
" ผมเดินทางไปทั่วประเทศ ทราบดีว่าประชาชนจำนวนมากคาดหวังในการที่จะมีรัฐบาลที่ดีมาแก้ไขปัญหา ถ้าประชาชนจำนวนมากออกมาเลือกคนดี ก็จะเป็นความหวังของประเทศชาติ และวันนี้ทางเลือกชัด พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาของประชาชน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยังผูกพันอยู่แต่ปัญหาของคนเพียงคนเดียว หรือครอบครัวเดียว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า วันนี้ ปชป.ได้ชี้ให้ประชาชนเห็นชัดเจนแล้ว วันที่ 3 ก.ค.นี้ ถือเป็นวันตัดสินใจที่สำคัญว่า จะก้าวพ้นปัญหาเดิมๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่ ถ้าเลือก ปชป.เข้าไป เราก็จะไปเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชน และตนมั่นใจว่าวันนี้พี่น้องประชาชน ตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้นตามลำดับ
** อย่าเลือกพวกเผาศาลากลาง
ต่อมาเวลา 08.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางออกจากจ.ยโสธร ไปปราศัยที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองฯ จ.อำนาจเจิรญ โดยมีประชาชนมาฟังการปราศัยคึกคัก โดยนายอภิสิทธิ์ เริ่มต้นกล่าวทักทายประชาชนเป็นภาษาอีสานว่า "ซำบายดีบ่ อยู่ดีมีแฮงดีบ่" ก็ได้รับเสียงกรี๊ด ดังลั่น พร้อมตะโกนเบอร์ 10
ในการปราศรัย นายอภิสิทธิ์ ยังคงกล่าวย้ำถึงนโยบาย เรียนฟรี เบี้ยผู้สูงอายุ ค่าตอบแทน อสม. และโครงการประกันรายได้เกษตรกร ว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจะสานต่อโครงการเหล่านี้ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เชื่อว่าโครงการเหล่านี้จะถูกยกเลิก
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวเปรียบเทียบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย ว่า นโยบายการศึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มีโครงการเรียนฟรี และจะเพิ่มเงินในกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอีก 2.5 แสนทุน เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนจนจบปริญญาตรี แต่พรรคเพื่อไทยไม่รู้จะนำเงินที่ไหนมาซื้อคอมพิวเตอร์แจกนักเรียน ซึ่งจะต้องเลิกโครงการเรียนฟรี ของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน และนอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีเรื่องของค่าไฟฟรี ไม่เหมือนรัฐบาลอื่นที่ต้องลุ้นว่าใครจะต่ออายุไฟฟรีอีกกี่เดือน แต่เราหากใช้ไม่ถึง 90 หน่วย ได้ใช้ไฟฟรีถาวร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงตัวบุคคลที่เป็นผู้สมัครของพรรคว่า เป็นคนที่มีคุณภาพ ขณะที่พรรคเพื่อไทย กลับเอาพวกที่นิยมความรุนแรงมาเป็นผู้สมัคร
"พรรคเพื่อไทยนั้น พี่น้องต้องไปอ่านบัญชีรายชื่อ มีหลายคนที่พี่น้องรู้จักดีจากข่าว อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ชอบหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำเสื้อแดง 20 กว่าคน อยู่ในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำที่ปลุกระดมประชาชน แล้วเกิดเหตุวุ่นวายตลอด และภาคอีสานหลายจังหวัด ศาลากลางถูกเผา ดังนั้นเราไม่ต้องการความรุนแรง และไม่ต้องการคนที่หัวรุนแรง ดังนั้นถ้าปฏิเสธความรุนแรง ต้องเลือกเบอร์10 " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** แม่"เสื้อแดง91ศพ" ร้องถามใครฆ่าลูก
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปปราศรัยที่วัดศรีชมภู่ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ช่วงก่อนขึ้นเวที ปรากฏว่าได้มี นางคำจันทร์ แสงคำ อายุ 48 ปี เป็นชาวปทุมราชวงศา สวมเสื้อยืดสีดำ ร้องไห้โฮ และวิ่งเข้ามาหานายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางความตกใจของรปภ. ที่กันไม่ทัน เพราะนางคำจันทร์ ไม่ได้สวมเสื้อแดง หรือมีสัญลักษณ์อะไรที่บ่งบอกว่า เป็นคนเสื้อแดง
ทั้งนี้ นางคำจันทร์ ได้สอบถามนายอภิสิทธิ์ ทั้งน้ำตาว่า บุตรชายของตนเสียชีวิตมานานแล้ว มีรายชื่ออยู่ในผู้เสียชีวิต 91 ศพ แต่ทำไมท่านนายกฯ ไม่ดูแล "ลูกฉันตายมาเป็นปีแล้ว ทำไมไม่มีใครออกมารับผิดชอบ หรือพูดความจริง"
นางคำจันทร์ ชี้แจงว่า ตนเป็นมารดาของนายวุฒิชัย วราห์คำ อายุ 22 ปี เสียชีวิตจากการกระชับพื้นที่ ที่สี่แยกบ่อนไก่ เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่ผ่านมา จนป่านนี้ยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้สูญเสียสามารถมาต่อว่าตนได้ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือวางเฉย ดำเนินการเป็นกรณีๆไป รัฐบาลพยายามเยียวยาอย่างเต็มที่ สำหรับข้อเท็จจริงก็พยายามสอบกันอยู่ ตอนนี้มีการแยกคดีออกมาว่าใครเกิดเหตุที่ไหน อย่างไร ซึ่งทุกกรณีก็สั่งการให้ติดตามอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่ามันไม่ง่าย เนื่องจากเหตุการณ์ชุลมุนมาก อีกทั้งเมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องมาชั่งน้ำหนักทั้งข้อมูล และพยานหลักฐาน
** ลั่นถอนพิษแม้วด้วยวัคซีนมาร์ค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์ เดินสายปราศรัยในพื้นที่ จ.ยโสธร และอำนาจเจริญแล้ว ก็ได้วกกลับมาปราศรัยที่เวทีใหญ่ อ.เมืองฯจ.อุบลราชธานี ในช่วงเย็น เป็นการส่งท้าย โดยนายอภิสิทธิ์ ประกาศถอนพิษทักษิณ ด้วยวัคซีมาร์ค เบอร์ 10 พร้อมกับบอกว่า หมดเวล่าแบ่งสี แบ่งกลุ่มของคนที่รังแกคนอื่น และรังแกประทศไทยแล้ว ถ้าอยากได้นโยบายดีๆ ก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นรัฐบาล
** "เทือก"ย้ำไม่นิรโทษ ไม่คืนเงินแม้ว
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคะแนนนิยมของพรรคในช่วงนี้ว่า ยังดีอยู่ ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ และอาจจะสูงกว่าเป้าเล็กน้อย เพราะเท่าที่นายอภสิทธิ์ และตนตระเวนไปหาเสียงทั่วทุกภาค ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ทั้งจากภาคกลาง เหนือ และอีสาน เพราะเขาได้รับผลประโยชน์ชัดเจน ตรงไป ตรงมา
ส่วนในช่วงโค้งสุดท้าย จะมีกลยุทธ์หรือทีเด็ดอะไรมาเรียกคะแนนนั้น ขอให้รอฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
เมื่อถามว่ามั่นใจว่าการชูนโยบาย และเปลี่ยนป้ายหาเสียง ไม่ล้างผิดให้คนๆ เดียวจะดึงคะแนนเสียงประชาชนกลับมาได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จะดึงคะแนนได้หรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน แต่เราต้องการแสดงจุดยืนชัดเจนว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎหมายไม่ใช่คน 65 ล้านคน ต้องเคารพกฎหมาย แต่มีพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียวที่ได้รับสิทธิพิเศษอยู่เหนือกฎหมาย อย่างนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอา และไม่มีการล้างผิดให้อย่างแน่นอน
"ถ้าจะต้องล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เราไม่ทำ หรือถ้าจะให้คืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ศาลพิพากษายึดทรัพย์ เพราะได้กระทำการโดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่เป็นเหตุให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน เงินจำนวนนี้ เราไม่คืนให้แน่นอน ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาพูดชัดเจนว่า เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทนั้น รัฐบาลไทย คนไทย และประเทศไทย ปล้นเขาไป จะต้องเอาคืนให้ได้ พอเราบอกว่า ไม่คืนแน่นอน ประชาชนก็ตอบรับไม่ให้คืนเช่นเดียวกัน ทางพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องเปลี่ยนท่าทีเหมือนกัน" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถึง กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เตรียมแสดงวิสัยทัศน์ นำประเทศสู่ปี 2021 ในโค้งสุดท้าย คิกว่าจะเรียกคะแนนได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเขาจะทำอย่างไร "เขาเตรียมบทเสร็จแล้วหรือ"
** 1 ก.ค.ปราศรัยใหญ่ทิ้งทวน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.ศูนย์เลือกตั้งกรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโปรแกรมการหไาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จะจัดเวทีปราศรัย ที่ลานคนเมืองในวันที่ 28 มิ.ย. โดยจะเริ่มในเวลา 17.00 น. นอกจากนี้ จะจัดทีมเคลื่อนที่ ทีม Mobileunit รณรงค์หาเสียงตามสี่แยกสำคัญ 10 จุดทั่วกทม. เช่น แยกอโศก แยกสีลม-พระราม 4 สี่แยกราชประสงค์ สี่แยกปทุมวัน แยกสามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สี่แยกบางนา สี่แยกพระรามเก้า และเริ่มรณรงค์ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. ถึงวันที่ 1 ก.ค.
สำหรับการปราศรัยใหญ่ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันศุกร์ที่ 1 ก.ค.54 โดยพรรคจัดมีการจัดปราศรัยใหญ่พร้อมทั้ง 10 เวที ทั่วประเทศ โดย ภาคเหนือจัดที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.สุโขทัย ภาคอีสาน จ.อุดรธานี และ จ.อุบลฯ ภาคกลาง จ.เพชรบุรี และจ.ระยอง ภาคใต้ จ.สุราษฏร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.นราธิวาส โดยในการปราศรัยครั้งสุดท้าย นายอภิสิทธิ์ จะใช้ชื่อว่า " อนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน" ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์จะปราศรัยเปิดใจพูดกับประชาชนทั่วประเทศ
**"ปู"พบแฟนคลับเฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์แก้เครียด
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคในช่วงเช้า เพื่อเปิดห้องนิทรรศการของพรรค ให้บรรดาแฟนคลับ และประชาชนที่ชื่นชอบที่เข้ามาสนทนาผ่านทางเว็บไซต์เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ ได้มาพบปะ และพูดคุยอย่างใกล้ชิด
โดยบรรดาแฟนคลับ ต่างนำอุปกรณ์สื่อสาร อาทิ โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน แบล็คเบอร์รี่ และไอแพด แชร์ข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ไปอย่างกลุ่มที่ไม่ได้มาร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในเฟซบุ๊คของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โพสข้อความว่า ตนมุ่งหวังให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งนับตั้งแต่เปิดเฟซบุ๊คมีสมาชิก 157,489 คน มีการโพสข้อความเข้ามากว่า 24 ล้านครั้ง ซึ่งทำให้ตนประทับใจ และมีกำลังใจมาก เมื่อมีสมาชิกได้ถามว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะสามารถเข้าหาได้ง่ายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เรายังเป็นเพื่อนกันเสมอ
หลังพบปะบรรดาแฟนคลับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึง การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จะเน้นย้ำให้ประชาชนในแต่ละจังหวัด เข้าใจ โดยเฉพาะพูดถึงประเด็นว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร และสร้างความสุขให้ประชาชนได้อย่างไร
เมื่อถามว่า จะแก้เกมที่พรรคประชาธิปัตย์ ปลุกกระแสล้างผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และไม่คืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วว่า ไม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนเรื่องการนิรโทษกรรม หรือแก้ไขเรื่องปัญหาทรัพย์สินให้กับคนๆ เดียว
วันนี้พรรคเพื่อไทย ตั้งมั่นในหลักการที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมถึงการให้ความเสมอภาค และ ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายในสังคม
"ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเปิดไม้ตายออกมาในวันที่ 1 ก.ค.นั้น ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง พรรคเพื่อไทย ก็ทำหน้าที่ชี้แจงนโยบาย เชื่อว่าวันนี้ประชาชนคงอยากเห็นอนาคตของประเทศไทย ว่าจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร ซึ่งตอบโจทย์มากกว่า
ทั้งนี้อยากให้ติดตามการปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 1 ก.ค. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จะมีการพูดถึงภาพรวมของพรรคว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะทำอย่างไร โดยเน้นเรื่องนโยบาย
และการทำให้ประชาชนมีความสุขเป็นหลัก" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
** พักนิรโทษหันชูปรองดอง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เน้นโจมตีพรรคเพื่อไทย ในประเด็นนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และประเด็นคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่เคยนำประเด็นเหล่านี้มาประกาศเป็นนโยบาย แต่เราเน้นหาเสียงด้วยนโยบายที่เป็นโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม และประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และจะเดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง นำไปสู่ความปรองดอง โดยจากนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ขอพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรม และประเด็นคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณอีก
เมื่อเวลา 7.00 น. วานนี้ (27 มิ.ย.) ที่วัดศรีธาตุ อ.เมือง จ.ยโสธร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเดินสายหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสานว่า ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนจะได้ส.ส.ถึง 10 คน ตามที่นายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานตั้งเป้าไว้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน แต่ก็จะพยายามให้ได้มากที่สุด
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้เน้นไปที่การนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ตอนหลังเริ่มจะกลับไปกลับมา เพราะประชาชนไม่ตอบรับ
" กรณีของพรรคเพื่อไทย ที่มาแถลงเรื่องของนิรโทษกรรม มันคงเป็นความพยายามที่จะหนีจากความจริงมากกว่า เพราะล่าสุดคุณทักษิณ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์อีก พาดพิงไปถึงศาลยุติธรรม และขณะนี้วิธีการก็เพียงยืนยันว่า เรื่องการนิรโทษกรรมนั้นไม่ใช่เป็นการนิรโทษให้ตนเองเพียงคนเดียว แต่จะนิรโทษให้ทุกฝ่าย แต่ความจริงสุดท้ายบั้นปลายเป้าหมายก็คืออยู่ที่ตัวเอง ส่วนจะหนีความจริงพ้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะต้องมองให้ทะลุว่า สิ่งที่พูดจากันในขณะนี้ มีความพยายามซ่อนความจริงกันอย่างไร แต่พื้นฐานความจริงคือ คุณทักษิณ คิดชัดเจนในการที่จะได้รับการนิรโทษกรรม เป็นลักษณะที่คุณทักษิณคิดแล้วพรรคเพื่อไทยทำ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำนั้น จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และจะเป็นการทำลายระบบกฎหมาย ระบบของบ้านเมืองในอนาคต
เมื่อถามว่าสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันว่าจะไม่มีเรื่องการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และจะไม่มีการนิรโทษกรรมนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินชัดเช่นนั้น ได้ยินแต่พยายามบอกว่าไม่ได้เป็นนโยบาย ทั้งๆ ที่เคยพูดมาแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศย้ำว่า ตัวเองจะได้ประโยชน์ จากการนิรโทษกรรม
อย่างไรก็ตาม คิดว่าประชาชนดูออก และการที่ปชป.พยายามลำดับเหตุการณ์ต่างๆให้เห็นว่า ความสูญเสียความวุ่นวายที่ผ่านมานั้นไม่สามารถที่จะจบลงได้ และการที่ไม่ยอมรับการประนีประนอมในทุกครั้งนั้น ก็เพราะเราไม่ยอมคืนเงิน หรือนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
" ผมเดินทางไปทั่วประเทศ ทราบดีว่าประชาชนจำนวนมากคาดหวังในการที่จะมีรัฐบาลที่ดีมาแก้ไขปัญหา ถ้าประชาชนจำนวนมากออกมาเลือกคนดี ก็จะเป็นความหวังของประเทศชาติ และวันนี้ทางเลือกชัด พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาของประชาชน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยังผูกพันอยู่แต่ปัญหาของคนเพียงคนเดียว หรือครอบครัวเดียว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า วันนี้ ปชป.ได้ชี้ให้ประชาชนเห็นชัดเจนแล้ว วันที่ 3 ก.ค.นี้ ถือเป็นวันตัดสินใจที่สำคัญว่า จะก้าวพ้นปัญหาเดิมๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่ ถ้าเลือก ปชป.เข้าไป เราก็จะไปเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชน และตนมั่นใจว่าวันนี้พี่น้องประชาชน ตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้นตามลำดับ
** อย่าเลือกพวกเผาศาลากลาง
ต่อมาเวลา 08.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางออกจากจ.ยโสธร ไปปราศัยที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองฯ จ.อำนาจเจิรญ โดยมีประชาชนมาฟังการปราศัยคึกคัก โดยนายอภิสิทธิ์ เริ่มต้นกล่าวทักทายประชาชนเป็นภาษาอีสานว่า "ซำบายดีบ่ อยู่ดีมีแฮงดีบ่" ก็ได้รับเสียงกรี๊ด ดังลั่น พร้อมตะโกนเบอร์ 10
ในการปราศรัย นายอภิสิทธิ์ ยังคงกล่าวย้ำถึงนโยบาย เรียนฟรี เบี้ยผู้สูงอายุ ค่าตอบแทน อสม. และโครงการประกันรายได้เกษตรกร ว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจะสานต่อโครงการเหล่านี้ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เชื่อว่าโครงการเหล่านี้จะถูกยกเลิก
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวเปรียบเทียบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย ว่า นโยบายการศึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มีโครงการเรียนฟรี และจะเพิ่มเงินในกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอีก 2.5 แสนทุน เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนจนจบปริญญาตรี แต่พรรคเพื่อไทยไม่รู้จะนำเงินที่ไหนมาซื้อคอมพิวเตอร์แจกนักเรียน ซึ่งจะต้องเลิกโครงการเรียนฟรี ของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน และนอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีเรื่องของค่าไฟฟรี ไม่เหมือนรัฐบาลอื่นที่ต้องลุ้นว่าใครจะต่ออายุไฟฟรีอีกกี่เดือน แต่เราหากใช้ไม่ถึง 90 หน่วย ได้ใช้ไฟฟรีถาวร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงตัวบุคคลที่เป็นผู้สมัครของพรรคว่า เป็นคนที่มีคุณภาพ ขณะที่พรรคเพื่อไทย กลับเอาพวกที่นิยมความรุนแรงมาเป็นผู้สมัคร
"พรรคเพื่อไทยนั้น พี่น้องต้องไปอ่านบัญชีรายชื่อ มีหลายคนที่พี่น้องรู้จักดีจากข่าว อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ชอบหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำเสื้อแดง 20 กว่าคน อยู่ในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำที่ปลุกระดมประชาชน แล้วเกิดเหตุวุ่นวายตลอด และภาคอีสานหลายจังหวัด ศาลากลางถูกเผา ดังนั้นเราไม่ต้องการความรุนแรง และไม่ต้องการคนที่หัวรุนแรง ดังนั้นถ้าปฏิเสธความรุนแรง ต้องเลือกเบอร์10 " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** แม่"เสื้อแดง91ศพ" ร้องถามใครฆ่าลูก
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปปราศรัยที่วัดศรีชมภู่ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ช่วงก่อนขึ้นเวที ปรากฏว่าได้มี นางคำจันทร์ แสงคำ อายุ 48 ปี เป็นชาวปทุมราชวงศา สวมเสื้อยืดสีดำ ร้องไห้โฮ และวิ่งเข้ามาหานายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางความตกใจของรปภ. ที่กันไม่ทัน เพราะนางคำจันทร์ ไม่ได้สวมเสื้อแดง หรือมีสัญลักษณ์อะไรที่บ่งบอกว่า เป็นคนเสื้อแดง
ทั้งนี้ นางคำจันทร์ ได้สอบถามนายอภิสิทธิ์ ทั้งน้ำตาว่า บุตรชายของตนเสียชีวิตมานานแล้ว มีรายชื่ออยู่ในผู้เสียชีวิต 91 ศพ แต่ทำไมท่านนายกฯ ไม่ดูแล "ลูกฉันตายมาเป็นปีแล้ว ทำไมไม่มีใครออกมารับผิดชอบ หรือพูดความจริง"
นางคำจันทร์ ชี้แจงว่า ตนเป็นมารดาของนายวุฒิชัย วราห์คำ อายุ 22 ปี เสียชีวิตจากการกระชับพื้นที่ ที่สี่แยกบ่อนไก่ เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่ผ่านมา จนป่านนี้ยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้สูญเสียสามารถมาต่อว่าตนได้ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือวางเฉย ดำเนินการเป็นกรณีๆไป รัฐบาลพยายามเยียวยาอย่างเต็มที่ สำหรับข้อเท็จจริงก็พยายามสอบกันอยู่ ตอนนี้มีการแยกคดีออกมาว่าใครเกิดเหตุที่ไหน อย่างไร ซึ่งทุกกรณีก็สั่งการให้ติดตามอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่ามันไม่ง่าย เนื่องจากเหตุการณ์ชุลมุนมาก อีกทั้งเมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องมาชั่งน้ำหนักทั้งข้อมูล และพยานหลักฐาน
** ลั่นถอนพิษแม้วด้วยวัคซีนมาร์ค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์ เดินสายปราศรัยในพื้นที่ จ.ยโสธร และอำนาจเจริญแล้ว ก็ได้วกกลับมาปราศรัยที่เวทีใหญ่ อ.เมืองฯจ.อุบลราชธานี ในช่วงเย็น เป็นการส่งท้าย โดยนายอภิสิทธิ์ ประกาศถอนพิษทักษิณ ด้วยวัคซีมาร์ค เบอร์ 10 พร้อมกับบอกว่า หมดเวล่าแบ่งสี แบ่งกลุ่มของคนที่รังแกคนอื่น และรังแกประทศไทยแล้ว ถ้าอยากได้นโยบายดีๆ ก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นรัฐบาล
** "เทือก"ย้ำไม่นิรโทษ ไม่คืนเงินแม้ว
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคะแนนนิยมของพรรคในช่วงนี้ว่า ยังดีอยู่ ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ และอาจจะสูงกว่าเป้าเล็กน้อย เพราะเท่าที่นายอภสิทธิ์ และตนตระเวนไปหาเสียงทั่วทุกภาค ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ทั้งจากภาคกลาง เหนือ และอีสาน เพราะเขาได้รับผลประโยชน์ชัดเจน ตรงไป ตรงมา
ส่วนในช่วงโค้งสุดท้าย จะมีกลยุทธ์หรือทีเด็ดอะไรมาเรียกคะแนนนั้น ขอให้รอฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
เมื่อถามว่ามั่นใจว่าการชูนโยบาย และเปลี่ยนป้ายหาเสียง ไม่ล้างผิดให้คนๆ เดียวจะดึงคะแนนเสียงประชาชนกลับมาได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จะดึงคะแนนได้หรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน แต่เราต้องการแสดงจุดยืนชัดเจนว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎหมายไม่ใช่คน 65 ล้านคน ต้องเคารพกฎหมาย แต่มีพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียวที่ได้รับสิทธิพิเศษอยู่เหนือกฎหมาย อย่างนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอา และไม่มีการล้างผิดให้อย่างแน่นอน
"ถ้าจะต้องล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เราไม่ทำ หรือถ้าจะให้คืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ศาลพิพากษายึดทรัพย์ เพราะได้กระทำการโดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่เป็นเหตุให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน เงินจำนวนนี้ เราไม่คืนให้แน่นอน ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาพูดชัดเจนว่า เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทนั้น รัฐบาลไทย คนไทย และประเทศไทย ปล้นเขาไป จะต้องเอาคืนให้ได้ พอเราบอกว่า ไม่คืนแน่นอน ประชาชนก็ตอบรับไม่ให้คืนเช่นเดียวกัน ทางพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องเปลี่ยนท่าทีเหมือนกัน" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถึง กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เตรียมแสดงวิสัยทัศน์ นำประเทศสู่ปี 2021 ในโค้งสุดท้าย คิกว่าจะเรียกคะแนนได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเขาจะทำอย่างไร "เขาเตรียมบทเสร็จแล้วหรือ"
** 1 ก.ค.ปราศรัยใหญ่ทิ้งทวน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.ศูนย์เลือกตั้งกรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโปรแกรมการหไาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จะจัดเวทีปราศรัย ที่ลานคนเมืองในวันที่ 28 มิ.ย. โดยจะเริ่มในเวลา 17.00 น. นอกจากนี้ จะจัดทีมเคลื่อนที่ ทีม Mobileunit รณรงค์หาเสียงตามสี่แยกสำคัญ 10 จุดทั่วกทม. เช่น แยกอโศก แยกสีลม-พระราม 4 สี่แยกราชประสงค์ สี่แยกปทุมวัน แยกสามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สี่แยกบางนา สี่แยกพระรามเก้า และเริ่มรณรงค์ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. ถึงวันที่ 1 ก.ค.
สำหรับการปราศรัยใหญ่ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันศุกร์ที่ 1 ก.ค.54 โดยพรรคจัดมีการจัดปราศรัยใหญ่พร้อมทั้ง 10 เวที ทั่วประเทศ โดย ภาคเหนือจัดที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.สุโขทัย ภาคอีสาน จ.อุดรธานี และ จ.อุบลฯ ภาคกลาง จ.เพชรบุรี และจ.ระยอง ภาคใต้ จ.สุราษฏร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.นราธิวาส โดยในการปราศรัยครั้งสุดท้าย นายอภิสิทธิ์ จะใช้ชื่อว่า " อนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน" ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์จะปราศรัยเปิดใจพูดกับประชาชนทั่วประเทศ
**"ปู"พบแฟนคลับเฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์แก้เครียด
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคในช่วงเช้า เพื่อเปิดห้องนิทรรศการของพรรค ให้บรรดาแฟนคลับ และประชาชนที่ชื่นชอบที่เข้ามาสนทนาผ่านทางเว็บไซต์เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ ได้มาพบปะ และพูดคุยอย่างใกล้ชิด
โดยบรรดาแฟนคลับ ต่างนำอุปกรณ์สื่อสาร อาทิ โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน แบล็คเบอร์รี่ และไอแพด แชร์ข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ไปอย่างกลุ่มที่ไม่ได้มาร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในเฟซบุ๊คของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โพสข้อความว่า ตนมุ่งหวังให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งนับตั้งแต่เปิดเฟซบุ๊คมีสมาชิก 157,489 คน มีการโพสข้อความเข้ามากว่า 24 ล้านครั้ง ซึ่งทำให้ตนประทับใจ และมีกำลังใจมาก เมื่อมีสมาชิกได้ถามว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะสามารถเข้าหาได้ง่ายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เรายังเป็นเพื่อนกันเสมอ
หลังพบปะบรรดาแฟนคลับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึง การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จะเน้นย้ำให้ประชาชนในแต่ละจังหวัด เข้าใจ โดยเฉพาะพูดถึงประเด็นว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร และสร้างความสุขให้ประชาชนได้อย่างไร
เมื่อถามว่า จะแก้เกมที่พรรคประชาธิปัตย์ ปลุกกระแสล้างผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และไม่คืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วว่า ไม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนเรื่องการนิรโทษกรรม หรือแก้ไขเรื่องปัญหาทรัพย์สินให้กับคนๆ เดียว
วันนี้พรรคเพื่อไทย ตั้งมั่นในหลักการที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมถึงการให้ความเสมอภาค และ ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายในสังคม
"ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเปิดไม้ตายออกมาในวันที่ 1 ก.ค.นั้น ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง พรรคเพื่อไทย ก็ทำหน้าที่ชี้แจงนโยบาย เชื่อว่าวันนี้ประชาชนคงอยากเห็นอนาคตของประเทศไทย ว่าจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร ซึ่งตอบโจทย์มากกว่า
ทั้งนี้อยากให้ติดตามการปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 1 ก.ค. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จะมีการพูดถึงภาพรวมของพรรคว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะทำอย่างไร โดยเน้นเรื่องนโยบาย
และการทำให้ประชาชนมีความสุขเป็นหลัก" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
** พักนิรโทษหันชูปรองดอง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เน้นโจมตีพรรคเพื่อไทย ในประเด็นนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และประเด็นคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่เคยนำประเด็นเหล่านี้มาประกาศเป็นนโยบาย แต่เราเน้นหาเสียงด้วยนโยบายที่เป็นโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม และประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และจะเดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง นำไปสู่ความปรองดอง โดยจากนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ขอพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรม และประเด็นคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณอีก
