xs
xsm
sm
md
lg

คดี'หมอมุก'ส่อพ่อรับแทนลูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- แพทย์เผย "หมอมุก"กำลังใจดี ยิ้มได้ มีปฏิกิริยาตอบรับการทำกายภาพบำบัดวันแรกได้ดี ชี้เป็นสัญญาณกลับฟื้นคืนปกติ ตำรวจคุมเข้มความปลอดภัย หลังมีเสียงโทร.เตือน หวั่นมีคนมาทำร้าย ด้าน ผกก.พญาไท ภาวนาขอให้"หมอมุก"อาการดีเร็ววันจะได้รู้ใครขับรถชนตัวจริง ไม่ฟันธงหญิงหรือชายก่อเหตุ พบคดีส่อพ่อรับผิดแทนลูก

วานนี้(27 มิ.ย.)เวลา 10.30 น.ที่ห้องไอ.ซี.ยู.โรงพยาบาลพระมงกุฏ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันได้มีคนนำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมพร้อมเซ็นหนังสือให้กำลังใจ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฏเกล้า ที่กำลังนอนรักษาตัวอยู่ โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวนหนึ่ง เดินทางมาเยี่ยม พร้อมกับพับนก 1,000 ตัว นำมามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจให้หมอมุกหายโดยเร็ว และในวันนี้ทีมแพทย์ได้ทำกายภาพบำบัดให้กับหมอมุกเป็นวันแรกด้วย

พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของหมอมุก กล่าวว่า เห็นอาการลูกดีขึ้นตนก็ดีใจ ตอนนี้ร่างกายซีกขวาไม่ค่อยมีแรง ตนก็ช่วยบีบนวดให้ ซึ่งในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ทาง รพ.ได้ติดต่อคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการฝังเข็มมาทำการรักษาให้หมอมุกด้วย ส่วนความคืบหน้าทางคดีเป็นหน้าที่ของตำรวจ โดยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีตำรวจมาคอยดูแลไปรับ-ส่ง และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลความปลอดภัยด้วย หลังจากที่ได้รับแจ้งจากพยาบาลเวรกลางคืน ว่ามีคนโทรศัพท์มาเตือนว่า ตอนนี้หมอมุกเริ่มหายเป็นปกติให้ระวังจะมีคนมาทำร้าย จึงทำให้ทาง รพ.นำป้ายห้ามเยี่ยมมาติดหน้าประตูห้องไอ.ซี.ยู.

**โทรศัพย์เตือนให้ระวังอันตราย**

ด้าน นายกอสล้าง วรรณรสพากย์ ลูกพี่ลูกน้องของหมอมุก กล่าวว่า ตน และ พญ.พรรณกร ได้รับแจ้งจากพยาบาลผลัดกลางคืน ว่า เมื่อประมาณ 06.00 น.มีชายเสียงคล้ายคนมีอายุโทร.เข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน และเตือนให้ระวังตอนนี้หมอมุกอาการดีขึ้นแล้ว อาจจะมีคนมาทำร้าย ตนกับอาแดงยังไม่เข้าใจเจตนาของผู้ที่โทร.เข้ามา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงพยาบาลได้รายงานให้ ผอ.ทราบแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการทำหนังสือขอความอนุเคราะห์จาก ผอ.รพ.เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผลัดกันเข้าเวรยามให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ตนได้แจ้งไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท แล้ว ซึ่งทำให้ผู้บังคับบัญชาส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนอกเครื่องแบบมาคอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดด้วยเช่นกัน

**"หมอมุก"อาการดีมากยิ้มได้**

พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฏเกล้า กล่าวว่า อาการหมอมุกดีขึ้นมาก ไข้ลดแล้ว โดยมีปฏิกิริยาโต้ตอบสามารถทำตามคำสั่ง ยิ้มโต้ตอบ ปรับเตียงขึ้นนั่งได้ และมีการทำตามคำสั่งได้บ้างแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และมีความหวังว่าหมอมุกจะกลับฟื้นคืนปกติ

ส่วนอาการของตับอ่อนที่อักเสบ ก็ไม่น่าเป็นห่วง มีเพียงการเฝ้าระวังความดัน ชีพจร ออกซิเจนในปอด และระบบการหายใจ ระหว่างการทำกายภาพบำบัด ซึ่งหลังจากทำแล้วปรากฏว่า ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้ว่าจะยังมีอาการเกร็งตามกล้ามเนื้ออยู่บ้าง ซึ่งเป็นอาการของผู้ป่วยที่นอนนานๆ โดยรวมแล้วเป็นสัญญาณที่ดี ว่า คุณหมอมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และหวังว่า จะสามารถหายดีเป็นปกติได้ ส่วนกรณีที่มีคนโทรศัพท์เข้ามาเตือนให้ระวัง ว่า อาจจะมีคนมาทำร้ายหมอมุก ตนจะนำเรื่องนี้ปรึกษาผู้อำนวยการของ รพ.เพื่อจัดหาเจ้าหน้าที่มาเฝ้า

ด้าน พ.อ.นพ.อารมย์ ขุนภาษี ผู้อำนวยการกองเวชศาสตร์ฟื้นฟู กล่าวว่า ทางคณะนักกายภาพบำบัดได้เข้ามาทำกายภาพยบำบัดให้กับคุณหมอเป็นวันแรก โดยทำกายภาพให้กับคุณหมอ คือ ปรับเตียงให้ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ กระตุ้นแขน ขา เพื่อไม่ให้ข้อพับต่างๆ ยึด ให้ทำตามคำสั่งแบบง่ายๆ เช่น หันซ้าย ขวา หลับตา ยกมือ เป็นต้น ผลปรากฏว่า มีการตอบสนองที่ดี บ่งบอกถึงอาการที่ดีขึ้นมาก ซึ่งยังต้องประเมินวันต่อวันถึงการพัฒนาการต่อไป

**ตำรวจรอสอบปากคำหมอมุก**

ด้านความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยว่าขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก แต่จะต้องสอบไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ผลยังไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นคนขับรถพุ่งชนหมอมุก แม้กระทั่งตัว พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่เข้ามอบตัว ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใด ๆ และหากหมอมุก อาการดีขึ้นจะรีบให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำทันที ซึ่งจะได้ข้อสรุปว่าในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง และใครเป็นผู้ที่ขับรถชนหมอมุกกันแน่ ซึ่งตนได้ติดตามข่าวอาการของหมอมุกมาตลอด โดยตนภาวนาขอให้หายในเร็ววัน เพื่อจะได้ทำให้คดีนี้เกิดความกระจ่าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาแม่หมอมุก ถูกบุคคลลึกลับโทรศัพท์ไปข่มขู่ ทางตำรวจมีการนำกำลังไปดูแลหรือไม่ พ.ต.อ.สมาน กล่าวว่า เรื่องการนำกำลังไปรักษาความปลอดภัยครอบครัวหมอมุกนั้น ตนยังไม่ได้รับการประสานงานจาก พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของหมอมุกเลย อีกทั้งยังไม่ได้มีการแจ้งความด้วยว่าถูกคนโทรศัพท์ไปข่มขู่ แต่หากมีการประสานมาและยิ่งมีการข่มขู่กันเช่นนี้ ตนจะจัดกำลังไปดูแลคววามปลอดภัยอย่างเต็มที่แน่นอน

**คดีส่อพลิกพ่อรับผิดแทนลูก**

พ.ต.อ.สมาน กล่าวอีกว่า ส่วนลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ยังไม่ได้ติดต่อจะเข้ามาให้ปากคำแต่อย่างใด โดย พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้อ้างว่าติดงานที่ต่างจังหวัด และอยากจะขอเดินสายทำบุญไหว้พระก่อน ซึ่งถ้าหากลูกสาวจะมา ก็คงมาพร้อมกับ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ เช่น ผลตรวจลายนิ้วมือ ผลตรวจดีเอ็นเอ ตนไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆได้ เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานยังไม่ออกมา ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน

ผู้สื่อข่าวถามขณะนี้มีกระแสข่าวออกมาว่าคนที่ขับรถตัวจริงเป็นลูกของนายทหารใหญ่ ซึ่งเป็นทอมรูปร่างท้วม มีนิสัยใจร้อน และกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พ.ต.อ.สมาน กล่าวว่า ไม่รู้ว่าผู้สื่อข่าวไปเอาข่าวมาจากไหน อาจจะเป็นแค่ข่าวลือ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ทราบมาก่อนจริงๆ แต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่สามารถระบุได้ว่าคนขับรถพุ่งชนหมอมุก ที่แท้จริงเป็นใคร เป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เพราะการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานก็ยังไม่ส่งมา และยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใครเลย ทางตำรวจดำเนินคดีไปตามขั้นตอน หากพยานหลักฐานชี้ชัด ประกอบกับหมอมุก สามารถให้ปากคำได้ เมื่อนั้นก็จะรู้ว่าใครคือคนขับตัวจริง

สำหรับประเด็น ลูกสาวนายทหารที่เป็นทอม รูปร่างท้วม และมีนิสัยใจร้อน ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจากประชาชนที่รู้จักกับครอบครัวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่เข้าให้การกับตำรวจว่าตัวเองเป็นคนชน ว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ก็มีบุคลิกเป็นทอม และเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อนเช่นกัน ส่วนจะเป็นผู้ก่อเหตุขับรถชนหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นไปได้ว่า พ่ออาจจะรับผิดแทนลูก เนื่องจาก ลูกกำลังศึกษาอยู่ อีกทั้ง หากลูกก่อเหตุจริง ก็จะต้องนำตัวขึ้นศาลอาญา โอกาสต่อสู้คดีก็เป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม ใครจะเป็นคนก่อเหตุ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่สำหรับตน เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุมีน้ำใจที่โหดร้ายมากๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น