00 ผ่านพ้นกันไปแล้ว สำหรับการปราศรัยใหญ่ของ พลพรรคปชป. ที่ “ราชประสงค์” นำโดย อภิสิทธิ์-สุเทพ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย. บอกว่านี่คือการชี้แจงความจริงให้ชาวบ้านได้ “ตาสว่าง” เป็นเหมือนกับการทิ้งไพ่ใบสุดท้าย หวังเป็นทีเด็ดพลิกกลับมาเข้าวินในช่วงร้อยเมตรสุดท้าย หลังจาก “หัวโจก” เสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย บิดเบือนมานานว่า “เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด” ถูกตามป่วน ตามด่า ตลอดเวลาที่ไปหาเสียง
00 ได้เห็นการ “ปราศรัยทั้งน้ำตา” ของ “เทพเทือก” ที่พูดไปป้ายน้ำตาไป ระหว่างชี้แจงเหตุการณ์ให้เห็นว่า คนที่ “ฆ่าทั้งแดง ฆ่าทั้งทหาร” นั้นเป็น “ชายชุดดำ” ติดอาวุธ ที่แฝงมาในกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ทั้งในเหตุการณ์เมื่อ 10 เมษายน ที่แยกคอกวัว และที่แยกราชประสงค์ เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของ “นายใหญ่” ซึ่งถึงไม่บอกก็คงหมายถึง “ทักษิณ ชินวัตร” นั่นแหละ ว่าไปทำไมมี
00 ขณะเดียวกันก็บอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความปวดร้าวให้กับตัวเอง โดยเฉพาะนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงขนาดบอกว่า ไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าถาม เพราะกลัวว่าจะได้รับคำตอบว่า “ยุบสภา หรือลาออก” และย้ำว่าที่ผ่านมาต้องอดทนก้มหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ทนไม่ได้ ที่จะต้องเห็นว่า นายกฯอภิสิทธิ์ กำลังถูกบิดเบือนใส่ร้ายว่าเป็น “มาตรกร”
00 คำถามซ้ำๆ เดิมๆ ก็คือเหตุการณ์ผ่านมาเป็นปี แล้วทำไมเพิ่งลุกขึ้นมาพูด มาทำเป็นขึงขังเอาตอนที่ทุกอย่าง “มันสายไปแล้ว” คนที่เคยเอาใจช่วยต้องบาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่แล้ว เพื่อให้ “พวกเอ็ง” ได้เสวยอำนาจ เสวยผลประโยชน์ ไปจับมือกันทุจริต คอร์รัปชัน ที่ผ่านมาเคยเห็นหัวชาวบ้านเขาหรือเปล่า มิหนำซ้ำที่น่าเจ็บปวดไปกว่านั้นก็คือ ในท้ายที่สุดยังไป “ปรองดอง” กับพวก “ผู้ก่อการร้าย” ใช้งบประมาณรัฐไปรับรองซึ่งเป็นเงินของชาวบ้าน ซึ่งก็รวมถึงพวกผู้ประกอบการในย่านราชประสงค์ ที่ถูกลิ่วล้อ “เหลี่ยมจัด” สั่งเผานั่นแหละ
00 สรุปก็คือ สาเหตุที่ต้องบากหน้ามาปราศรัยที่นี่ก็เพราะต้องการมาชี้แจง เปิดเผยความจริงให้เห็นว่า ฝ่าย ทักษิณ นั่นแหละที่อยู่เบื้องหลังการตายของทหาร ของคนเสื้อแดง เป้าหมายเพื่อให้เกิดจลาจล ให้ลุกลามบานปลาย แต่ที่ผ่านมาต้องอดทนกล้ำกลืน เพื่อให้เกิดบรรยากาศปรองดอง อย่างไรทนไม่ได้ที่จะต้องถูกตราหน้าเป็นฆาตกรตลอดไป เหมือนกับว่า “ตัวเองดีเกินไป” ว่างั้นเถอะ ทุด !!
00 อีกมุมหนึ่งมันก็อดสะท้อนใจไม่ได้ เมื่อได้เห็นโพลคนกรุงเทพฯ ที่กำลังจะเทคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทย ที่มีหัวโจกเสื้อแดง อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ที่ปราศรัยจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ยุยงให้เผากรุงฯ มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครในลำดับต้นๆ หรือว่าคนกรุงเทพฯไม่รู้สึกรู้สากับการความเดือดร้อนกับพฤติกรรมถ่อยเถื่อนที่ผ่านมา กับคนพวกนี้ ยังเห็นดีเห็นงาม ยังคิดจะให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ส่งมาเป็น “โคลนนิ่ง” ทำการแทน ไม่ว่าจะเป็นนิรโทษฯ ลบล้างความผิด เอาเงิน 4.6 หมื่นล้านคืนมา จะเอากันแบบนั้นจริงๆหรือ ถามหน่อย คนกรุงเทพฯ !!
00 ได้เห็นการ “ปราศรัยทั้งน้ำตา” ของ “เทพเทือก” ที่พูดไปป้ายน้ำตาไป ระหว่างชี้แจงเหตุการณ์ให้เห็นว่า คนที่ “ฆ่าทั้งแดง ฆ่าทั้งทหาร” นั้นเป็น “ชายชุดดำ” ติดอาวุธ ที่แฝงมาในกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ทั้งในเหตุการณ์เมื่อ 10 เมษายน ที่แยกคอกวัว และที่แยกราชประสงค์ เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของ “นายใหญ่” ซึ่งถึงไม่บอกก็คงหมายถึง “ทักษิณ ชินวัตร” นั่นแหละ ว่าไปทำไมมี
00 ขณะเดียวกันก็บอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความปวดร้าวให้กับตัวเอง โดยเฉพาะนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงขนาดบอกว่า ไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าถาม เพราะกลัวว่าจะได้รับคำตอบว่า “ยุบสภา หรือลาออก” และย้ำว่าที่ผ่านมาต้องอดทนก้มหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ทนไม่ได้ ที่จะต้องเห็นว่า นายกฯอภิสิทธิ์ กำลังถูกบิดเบือนใส่ร้ายว่าเป็น “มาตรกร”
00 คำถามซ้ำๆ เดิมๆ ก็คือเหตุการณ์ผ่านมาเป็นปี แล้วทำไมเพิ่งลุกขึ้นมาพูด มาทำเป็นขึงขังเอาตอนที่ทุกอย่าง “มันสายไปแล้ว” คนที่เคยเอาใจช่วยต้องบาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่แล้ว เพื่อให้ “พวกเอ็ง” ได้เสวยอำนาจ เสวยผลประโยชน์ ไปจับมือกันทุจริต คอร์รัปชัน ที่ผ่านมาเคยเห็นหัวชาวบ้านเขาหรือเปล่า มิหนำซ้ำที่น่าเจ็บปวดไปกว่านั้นก็คือ ในท้ายที่สุดยังไป “ปรองดอง” กับพวก “ผู้ก่อการร้าย” ใช้งบประมาณรัฐไปรับรองซึ่งเป็นเงินของชาวบ้าน ซึ่งก็รวมถึงพวกผู้ประกอบการในย่านราชประสงค์ ที่ถูกลิ่วล้อ “เหลี่ยมจัด” สั่งเผานั่นแหละ
00 สรุปก็คือ สาเหตุที่ต้องบากหน้ามาปราศรัยที่นี่ก็เพราะต้องการมาชี้แจง เปิดเผยความจริงให้เห็นว่า ฝ่าย ทักษิณ นั่นแหละที่อยู่เบื้องหลังการตายของทหาร ของคนเสื้อแดง เป้าหมายเพื่อให้เกิดจลาจล ให้ลุกลามบานปลาย แต่ที่ผ่านมาต้องอดทนกล้ำกลืน เพื่อให้เกิดบรรยากาศปรองดอง อย่างไรทนไม่ได้ที่จะต้องถูกตราหน้าเป็นฆาตกรตลอดไป เหมือนกับว่า “ตัวเองดีเกินไป” ว่างั้นเถอะ ทุด !!
00 อีกมุมหนึ่งมันก็อดสะท้อนใจไม่ได้ เมื่อได้เห็นโพลคนกรุงเทพฯ ที่กำลังจะเทคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทย ที่มีหัวโจกเสื้อแดง อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ที่ปราศรัยจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ยุยงให้เผากรุงฯ มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครในลำดับต้นๆ หรือว่าคนกรุงเทพฯไม่รู้สึกรู้สากับการความเดือดร้อนกับพฤติกรรมถ่อยเถื่อนที่ผ่านมา กับคนพวกนี้ ยังเห็นดีเห็นงาม ยังคิดจะให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ส่งมาเป็น “โคลนนิ่ง” ทำการแทน ไม่ว่าจะเป็นนิรโทษฯ ลบล้างความผิด เอาเงิน 4.6 หมื่นล้านคืนมา จะเอากันแบบนั้นจริงๆหรือ ถามหน่อย คนกรุงเทพฯ !!