ASTVผู้จัดการรายวัน – “ยูนิโคล่” แฟชั่นแบรนด์อันดับหนึ่งในญี่ปุ่นบุกไทย ผุด 3 สาขาในปีนี้ หลังพบศักยภาพการเติบโตในเอเชีย และอาเซียน ตั้งเป้าใน 10 ปี ขยายครบ 4,000 สาขาทั่วเอเชีย พร้อมส่งบริษัทขึ้นแท่นนัมเบอร์วันในตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นของโลก
นายนาโอกิ โอโตะมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยุนิโคล่ ภูมิภาคเอเชียและประเทศญี่ปุ่น และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยูนิโคล่ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นอันดับหนึ่ง จากประเทศญี่ปุ่น และเป็นแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่ม ฟาสต์ รีเทล ที่มีแบรนด์ต่างๆอีก เช่น ธีรี่, จียู, คอมทัวร์ เดส์ โค ทอนนิเยร์ และพรินเซส แทม. แทม. รวมจำนวนสาขาไม่ต่ำกว่า 2,203 ร้านทั่วโลก
โดยปีที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั่วโลกราว 3 แสนล้านบาท และถือเป็นบริษัทแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่มียอดขายเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก ซาร่า, เอช แอนด์ เอ็ม และ แก็ป ตามลำดับ ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำในตลาดญี่ปุ่นและเอเชียด้วย ทั้งนี้ภายในปี 2020 หรืออีกประมาณ 9-10 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโลก
ด้วยยอดขายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของแบรนด์ยูนิโคล่ ทางบริษัทมีแผนที่จะเข้ามาทำตลาดในเอเชียมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตในเอเชีย และอาเซียน โดยวางเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในเอเชีย มุ่งขยายสาขาทั่วเอเชียปีละ 200 สาขา หรือภายในปี2020 จะมีจำนวนสาขาไม่ต่ำกว่า 4,000 สาขา (ไม่รวมญี่ปุ่น) เน้นที่จีน เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก
ในส่วนของตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้เลือกประเทศไทย ในการเข้ามาบุกตลาดเป็นประเทศแรก เนื่องจากมองว่า ไทยเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศในแถบนี้ และมีศักยภาพการแข่งขันที่ดี มูลค่าตลาดสูงถึง 3 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันยังเป็นประเทศที่ตอบรับแบรนด์แฟชั่นค่อนข้างกว้าง หลังจากนั้นเล็งเปิดต่อที่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นต้น
ล่าสุดในช่วงเดือนมิ.ย. 2554ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งบริษัท ยูนิโคล่ ประเทศไทยขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ภายใต้ผู้ร่วมทุน คือ เอฟอาร์ กรุ๊ป 75% และมิตซูบิชิ คอร์ปอร์เรชั่น 25% ในการดำเนินการจำหน่ายเสื้อผ้าแบบลำลอง แบรนด์ ยูนิโคล่ ราคาตั้งแต่ 100 – 7,900 บาท
เบื้องต้นในปีนี้ เตรียมเปิดชอปยูนิโคล่ ทั้งหมด 3 สาขา คือ 1.เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ 2,750 ตารางเมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซาส์อีสเอเชีย เปิดให้บริการในเดือนก.ย.นี้ 2.เซ็นทรัล ลาดพร้าว ขนาด 1,000 ตารางเมตร เปิดบริการ ต.ค.นี้ และ3.เซ็นทรัล พระราม9 พื้นที่ 2,100 ตารางเมตร เปิดบริการ พ.ย.นี้ลงทุนรวม 300 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยมีฐานผลิตหลักอยู่ที่จีน ซึ่งหากอาเซียนได้รับการตอบรับที่ดีมีแผนจะตั้งโรงงานผลิตใหม่ เบื้องต้นมองที่ ไทยกับบังคลาเทศ
นายนาโอกิ โอโตะมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยุนิโคล่ ภูมิภาคเอเชียและประเทศญี่ปุ่น และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยูนิโคล่ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นอันดับหนึ่ง จากประเทศญี่ปุ่น และเป็นแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่ม ฟาสต์ รีเทล ที่มีแบรนด์ต่างๆอีก เช่น ธีรี่, จียู, คอมทัวร์ เดส์ โค ทอนนิเยร์ และพรินเซส แทม. แทม. รวมจำนวนสาขาไม่ต่ำกว่า 2,203 ร้านทั่วโลก
โดยปีที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั่วโลกราว 3 แสนล้านบาท และถือเป็นบริษัทแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่มียอดขายเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก ซาร่า, เอช แอนด์ เอ็ม และ แก็ป ตามลำดับ ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำในตลาดญี่ปุ่นและเอเชียด้วย ทั้งนี้ภายในปี 2020 หรืออีกประมาณ 9-10 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโลก
ด้วยยอดขายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของแบรนด์ยูนิโคล่ ทางบริษัทมีแผนที่จะเข้ามาทำตลาดในเอเชียมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตในเอเชีย และอาเซียน โดยวางเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในเอเชีย มุ่งขยายสาขาทั่วเอเชียปีละ 200 สาขา หรือภายในปี2020 จะมีจำนวนสาขาไม่ต่ำกว่า 4,000 สาขา (ไม่รวมญี่ปุ่น) เน้นที่จีน เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก
ในส่วนของตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้เลือกประเทศไทย ในการเข้ามาบุกตลาดเป็นประเทศแรก เนื่องจากมองว่า ไทยเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศในแถบนี้ และมีศักยภาพการแข่งขันที่ดี มูลค่าตลาดสูงถึง 3 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันยังเป็นประเทศที่ตอบรับแบรนด์แฟชั่นค่อนข้างกว้าง หลังจากนั้นเล็งเปิดต่อที่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นต้น
ล่าสุดในช่วงเดือนมิ.ย. 2554ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งบริษัท ยูนิโคล่ ประเทศไทยขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ภายใต้ผู้ร่วมทุน คือ เอฟอาร์ กรุ๊ป 75% และมิตซูบิชิ คอร์ปอร์เรชั่น 25% ในการดำเนินการจำหน่ายเสื้อผ้าแบบลำลอง แบรนด์ ยูนิโคล่ ราคาตั้งแต่ 100 – 7,900 บาท
เบื้องต้นในปีนี้ เตรียมเปิดชอปยูนิโคล่ ทั้งหมด 3 สาขา คือ 1.เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ 2,750 ตารางเมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซาส์อีสเอเชีย เปิดให้บริการในเดือนก.ย.นี้ 2.เซ็นทรัล ลาดพร้าว ขนาด 1,000 ตารางเมตร เปิดบริการ ต.ค.นี้ และ3.เซ็นทรัล พระราม9 พื้นที่ 2,100 ตารางเมตร เปิดบริการ พ.ย.นี้ลงทุนรวม 300 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยมีฐานผลิตหลักอยู่ที่จีน ซึ่งหากอาเซียนได้รับการตอบรับที่ดีมีแผนจะตั้งโรงงานผลิตใหม่ เบื้องต้นมองที่ ไทยกับบังคลาเทศ