xs
xsm
sm
md
lg

ขานชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

เย็นย่ำค่ำวันนี้ (23 มิ.ย. 2554) พรรคประชาธิปัตย์เขาจะระดม 4-5 ขุนพลหลักของพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, ชวน หลีกภัย, สุเทพ เทือกสุบรรณ, กอรปศักดิ์ สภาวสุ....ไปปราศรัยใหญ่ในยุทธการเอาน้ำดับไฟที่ “ราชประสงค์” นัยว่าเป็นการรุกฆาตหรือ “ล้มเดิมพัน” ในโค้งสุดท้ายของศึกเลือกตั้ง 2554 

           ประมาณว่า เมื่อ “มาร์ค” เชื่อว่าสนาม กทม.จะชี้ขาดชัยชนะระหว่างพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ โอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสองอยู่ที่สนามนี้ ไยเล่าจะนั่งตั้งรับกองทัพพรรคเสื้อแดงอยู่เฉยๆ....ในอดีตโค้งสุดท้ายเคยเข้าป้ายแบบฉิวเฉียดมาแล้วด้วยวาทกรรมประเภท  “ผมเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา -ชวน หลีกภัย”, “จำลองพาคนไปตาย..” 

            ครั้งนี้หากกวาดเสียงเงียบ 30 เปอร์เซ็นต์วน บบฉิวฉัมาได้ โพลที่เป็นรองอาจพลิกตาลปัตร ต่อให้ณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ แห่งพรรคเพื่อไทยจะดักคอว่า วันที่ 23 มิ.ย.น่าจะเป็นการใช้ “น้ำลาย” ดับไฟ แทนที่จะใช้ “น้ำใจ” ก็เถอะ...นั่นมันเป็นสำนวนโวหารที่พยายามตีกินทางการเมืองเท่านั้น...

           ครับก็ต้องรอดูผลลัพธ์ว่า “เกมเสี่ยง” ของประชาธิปัตย์เที่ยวนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่....

           แต่ไม่ว่าผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร นาทีนี้ชื่อของ “อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ” ก็ยังเป็นตัวเต็งนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 เพียงแต่ว่าไม่ได้เป็น “เต็งจ๋า” เท่านั้น...

             ขอคั่นบรรยากาศด้วยข้อมูลจากการสังสรรค์เสวนากับเพื่อนฝูง ทั้งที่เป็นสื่อมวลชนและนักคิด นักเคลื่อนไหว แต่ออกจะเป็นพวกคิดลึก...  

2-3 วันก่อน บรรดาพวกคิดลึกเหล่านี้มีการลงขันกินข้าวมื้อใหญ่ โดยให้ทุกคนคาดการณ์ว่า นายกฯ คนต่อไปคือใคร ปรากฏว่านั่งกัน 10 คน มีชื่อนายกฯ 9 ชื่อ...

1) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

2) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (มี 2 เสียง)

3) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ พรรคชาติไทยพัฒนา

4) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พรรคเพื่อไทย

5) มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ พรรคเพื่อไทย

6) ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พรรครักษ์สันติ

7) สุเทพ เทือกสุบรรณ พรรคประชาธิปัตย์

8) ป. (เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนดัง แต่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.-ไม่มีพรรค)

9) พ. (เป็นผู้ใหญ่ แต่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ไม่มีพรรค)

ตามคำทำนายคาดหมายนี้ชัดเจนว่ามีอยู่อย่างน้อย 2 คนที่ทายว่าชื่อ “ป.” และชื่อ “พ.” ไม่เชื่อว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่จะมีรัฐบาลพิเศษอะไรประมาณนั้น 

ผมขอ “ลับลวงพราง” เอาไว้ก่อนว่านายกฯ ที่ผมทำนายหมายเลขอะไร และขออภัยที่ต้องใช้ชื่อย่อหมายเลข 8 และเลข 9 ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่รับปากกันไว้ว่าจะยังไม่เปิดเผยชื่อเต็ม จนกว่าคนที่ทายหมายเลข 8) และหมายเลข 9) จะถูกกินหรือได้กิน...

อ้อ! เป็นที่น่าสังเกตมากว่า ไม่มีใครนึกถึงชื่อ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ทั้งๆ ที่ท่านอุตส่าห์ชูคำขวัญ “กล้าคิดกล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง”...สงสัยคนจะกลัวว่า “เยี่ยวไม่สุด” เหมือนรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 กระมัง!!

ครับ วันนี้ถ้าจะว่าไป ความกดดันจะตกอยู่ที่สองพรรคใหญ่คู่แข่งขันคือ ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย...

ประชาธิปัตย์นั้นโอกาสแพ้เลือกตั้งหรือได้เสียงเป็นลำดับ 2 มีสูงยิ่ง ทางรอดก็คือต้องแพ้ไม่มาก จากนั้นจะใช้วิธีการ “รวมเสียง” ให้ได้เกินกึ่งหนึ่งหรือเกิน 250 หนุนส่งให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  ทำงานแก้ตัวทำงานสานต่ออีกสมัย แต่ถ้าแพ้ขาดต่อพรรคเพื่อไทยในระดับ 30-40 เสียง ก็ถือว่าลิเกเลิก...

ส่วนพรรคเพื่อไทย ความกดดันอยู่ที่ทำยังไงให้ชนะขาด ปิดโอกาสไม่ให้ประชาธิปัตย์ - ภูมิใจไทย รวมเสียงกันเกิน 250 เสียง ขณะเดียวกันแม้ว่าชนะขาดก็ใช่ว่าจะปลอดภัยหรือมีหลักประกันว่าคนของพรรคตัวเองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเสมอไป อาจมีการต่อรองขอให้ใช้บริการนายกฯ คนกลางอย่าง เสธ.หนั่นหรือ “ปุระชัย” ก็ได้ ใครจะไปรู้...

อย่างไรก็ตาม ในความเชื่อส่วนตัวของผม ผมเชื่อว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะขาด “ทักษิณ  ชินวัตร” ก็คงกดปุ่มให้น้องสาวตัวเองขึ้นเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของไทย แต่เป็นนายกฯ หญิงคนที่ 16 ของโลกจนสุดแรง คงมีการเคลียร์หรือเจรจาต่อรองกับกองทัพและกลไกต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค แต่หากสุดวิสัยก็อาจเปลี่ยนตัวจาก “ยิ่งลักษณ์” เป็นคนอื่น (ในพรรค)

นั่นคือทิศทางหลักของประเทศไทยในกรณีที่นายกฯ มาจากสองพรรคใหญ่...

ผมเชื่อว่า สำหรับคนที่เชียร์ประชาธิปัตย์ ยากที่จะทำใจได้หากให้ “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯ คนที่ 28 ขอให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ คนที่ 27/2 ดีกว่า ฉันใดฉันนั้นคนที่เชียร์พรรคเพื่อไทยและเห็นชัยชนะอยู่รำไร ก็ยากที่จะทำใจหากพรรคชนะแต่ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้เป็นนายกฯ

แต่สำหรับพรรค SME หรือพรรคขนาดย่อมขนาดกลางทั้งหลาย (ยกเว้นพรรคชูวิทย์) ล้วนแล้วแต่เป็นพรรครอร่วมรับประทานเอ๊ย..ร่วมรัฐบาล ด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้แกนนำพรรคเหล่านั้นจึงแย่งกันชูธงปรองดอง ด้วยหวังประคับประคองให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าไปให้ได้ นายกฯ จะชื่อมาร์คหรือชื่อปู ก็ได้ทั้งนั้น....

ในขณะที่ภาคประชาชนอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และอีกหลายองค์กรเห็นว่าประเทศไทยจะต้องเดินหน้าไปสู่การ “ปฏิรูปประเทศ” จำเพาะพันธมิตรฯ นั้นวันนี้ได้ชูธงโหวตโนอย่างสูงเด่นและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น หลังจากที่ชัดเจนว่า คะแนน โหวตโนมีผลทางนิตินัย ทั้งตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 มาตรา 88 และ 89 ที่ท่านอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ชี้ชัดเมื่อไม่กี่เพลาที่ผ่านมา...

ซึ่งหลักการโดยรวม มีความจำเป็นที่จะต้องมีคะแนนโหวตโนรวมทั้งประเทศมากๆ ขณะที่โดยนัยของกฎหมายเลือกตั้งฯ ดังกล่าว วันนี้หากคะแนนโหวตโนทำให้คะแนนของผู้สมัคร ส.ส.เขตที่ได้รับเลือกสูงสุดมีไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้มีสิทธิในเขตเลือกตั้งนั้นๆ ก็จะเป็นการดี เพราะจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เปิดโอกาสให้พลังโหวตโนได้ต่อรองผลประโยชน์เพื่อชาติกับผู้สมัครในเขตนั้นๆ...

วันที่ 3 ก.ค. 2554 เข้าคูหากา “โหวตโน” นายกฯ คนใหม่จะเป็น 1 ใน 9 ชื่อข้างต้นหรือไม่ วางเอาไว้ก่อน...!!

                  samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น