อะไรที่ถูกต้อง-ชอบธรรม-ทำเพื่อส่วนรวม-เพื่อประชาชน-เพื่อชาติบ้านเมือง มักได้รับการต้อนรับจากผู้คนเป็นธรรมดา!
ผมมีโอกาสไปรณรงค์เคลื่อนไหวให้ประชาชนในต่างจังหวัด ลงคะแนน “โหวตโน” หรือไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ผู้ใด ซึ่งมีช่องในใบลงคะแนนเลือกตั้งที่อยู่ด้านขวาสุด-ล่างสุด กากบาทลงไปโดยไม่ลังเลได้เลยครับ
11 มิถุนายน 2554 พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ สุมิตร นวลมณี แกนนำพันธมิตรฯ สงขลา และผมได้เดินทางไปอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค ปชป.หรือพื้นที่แม่ยก-พ่อยก ปชป.หนาแน่นที่สุด แห่งหนึ่งในภาคใต้เลยทีเดียวเชียวหละ
บรรยากาศเมืองหาดใหญ่ เต็มไปด้วยป้ายรณรงค์ “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ตามริมถนนโดยเฉพาะหน้าตึกร้านค้าหัวมุมถนนของคุณสุมิตรกับภริยา ได้มีการขึ้นป้าย“อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ขนาดใหญ่เตะตายิ่งนัก
เบื้องต้น..คณะจัดงานรณรงค์ “โหวตโน” ประเมินกันว่า น่าจะมีคนมาราว 100-200 คน หรือสูงสุดไม่น่าจะเกิน 300 คนเท่านั้น
แต่แล้ว ณ ห้องประชุมของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองหาดใหญ่ ปรากฏว่า..ชาวหาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาฟังการเสวนากันอย่างล้นหลาม จนต้องเสริมเก้าอี้เพิ่มกันอย่างกะทันหัน เพราะผู้คนหลั่งไหลมาร่วมงานกว่า 600 คนครับ
20 มิถุนายน 2554 มีการจัดรณรงค์ “โหวตโน” กลางเมืองพิษณุโลก เช่นเคย..คณะผู้จัดงานประเมินกันว่า น่าจะมีผู้คนมาร่วมงานไม่มากนัก เพราะจัดงานกันอย่างกะทันหัน อีกทั้งมีการประชาสัมพันธ์น้อยมาก แต่..คณะผู้จัดงานก็ไม่ย่อท้อ..
ที่สำคัญ..ท่ามกลางฤดูฝน คณะจัดงานรณรงค์ “โหวตโน” ที่นี่ ใจกล้ากับการกำหนดสถานที่จัดงานแบบเวทีกลางแจ้งริมแม่น้ำน่าน เรียกว่า..รณรงค์ “โหวตโน” กันแบบเย้ยฟ้า-ท้าฝนกันเลยครับ
แต่เพราะการรณรงค์ครั้งนี้เป็นการทำเพื่อชาติบ้านเมือง ทั้งยังกระทำกันกลางเมืองพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใครบางคนในคณะผู้จัดจึงทำพิธีกรรมขอมิให้ฝนตกที่จุดจัดงาน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตา-ปาฏิหาริย์มีจริง เพราะก่อนงานเริ่มราวชั่วโมงเศษ มีฝนตกหนักไปทั่วพื้นที่รวมทั้งในบริเวณงาน จากนั้นฟ้าก็ทิ้งเมฆมืดดำครึ้มไว้เขย่าขวัญ คณะผู้จัดงานและวิทยากรจากกรุงเทพฯ เล่นๆ แต่ทว่า..ไม่มีฝนตกลงในงานแม้แต่เม็ดเดียวเลยครับ
ประมาณ 18.30 น. คณะวิทยากรอันมีอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เทิดภูมิ ใจดี ชัยพันธ์ ประภาสะวัต และผมก็เดินทางเข้าไปในงาน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่นที่มีทั้งนั่งและยืนเต็มไปหมด
เมื่อเริ่มงาน..ผู้คนยิ่งหลั่งไหลมาร่วมงานรณรงค์ “โหวตโน” มากขึ้นๆ ประเมินด้วยตาคร่าวๆ..ก็ราว 2,000 กว่าคน โดยบรรยากาศผู้มาชุมนุมรณรงค์ “โหวตโน” ล้วนถือมือตบและแต่งกายสไตล์พันธมิตรฯ ครึกครื้นแต่จริงจังราวกับผู้ชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ไม่มีผิดเพี้ยนเลย
การเสวนาดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จาก 18.30 น.ถึงประมาณ 22.00 น. ตามด้วยบรรยากาศอบอุ่นชื่นมื่นเมื่อผู้เข้าร่วมงาน นำดอกไม้มอบให้กับวิทยากรทุกคน จากนั้นก็ถ่ายรูปร่วมกันตามอัธยาศัย และปิดท้ายอย่างอุ่นสบายท้อง เมื่อทุกคนได้กินโจ๊ก “อัมรินทร์” โจ๊กพันธมิตรฯ ที่อร่อยสุดของเมืองพิษณุโลก
อาจารย์สมเกียรติได้เล่าบรรยากาศการจัดงานรณรงค์ “โหวตโน” ในต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง ซึ่งกระแสประชาชนส่วนใหญ่นั้น..ตื่นตัวกันมากกับพฤติกรรมสามานย์ที่เอาแต่ได้-เห็นแก่ตัวของบรรดานักการเมืองชั่ว ที่กระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองด้วยการใช้เงินซื้อเสียง มุ่งจะยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ก่อนจะใช้อำนาจรัฐไปกับการโกงกินชาติบ้านเมือง จนเป็นวงจรอุบาทว์ของชาติไทยมาหลายสิบปี
ก่อนหน้านี้..พันธมิตรฯ ถูกรัวยิงคำถามจากลิ่วล้อของนักการเมืองว่า “โหวตโน..แล้วได้อะไร?” “โหวตโน..แล้วเสียของ?” กระทั่งโกหกว่า.. “โหวตโน..ผิดกฎหมาย!”
วันนี้..ทุกอย่างคลี่คลายกระจ่างชัดแล้วว่า นอกจาก “โหวตโน” จะไม่ผิดกฎหมายแล้ว “โหวตโน” ยังมีกฎหมายรองรับอย่างครบถ้วนว่า หาก “โหวตโน” มีประชาชนลงคะแนนมากกว่าผู้ลงสมัคร ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ งานนี้..สัตว์การเมืองหากแพ้ “โหวตโน” ตามตัวบทกฎหมาย..ก็อดเข้าสภาจริงๆ เสียแล้วล่ะสิ..ฮ่าฮ่าฮ่า..
งานนี้ต้องขอยกหัวแม่โป้งสองนิ้วให้ทนายความพันธมิตรฯ คุณพี่สุวัตร อภัยภักดิ์ ที่เปิดประเด็นในเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับ “โหวตโน” บนเวทีเสวนาพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ ก่อนใครเพื่อน
จากนั้นต้องขอขอบคุณ คุณอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ที่ได้เขียนบทความให้ความกระจ่างชัด ในข้อกฎหมายกับขบวนการ “โหวตโน” ที่กำลังรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยหยุดใช้สิทธิและเสียงของตนทำร้ายชาติบ้านเมือง
ด้วยการหลงเชื่อคนชั่วจนถึงกับต้องฝืนใจไปลงคะแนนสนับสนุนนักการเมืองอัปรีย์-จัญไรที่ทำผิดกฎหมายกับการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง ยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน และใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชันโกงกินชาติบ้านเมืองไงล่ะครับ
การลงคะแนน “โหวตโน” จึงเท่ากับร่วมใจกันทำบุญครั้งใหญ่ให้กับแผ่นดินไทย ตอนนี้โหวตโน..เลยมาแรง..มาแรงจริงๆ ครับ!!!
ผมมีโอกาสไปรณรงค์เคลื่อนไหวให้ประชาชนในต่างจังหวัด ลงคะแนน “โหวตโน” หรือไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ผู้ใด ซึ่งมีช่องในใบลงคะแนนเลือกตั้งที่อยู่ด้านขวาสุด-ล่างสุด กากบาทลงไปโดยไม่ลังเลได้เลยครับ
11 มิถุนายน 2554 พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ สุมิตร นวลมณี แกนนำพันธมิตรฯ สงขลา และผมได้เดินทางไปอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค ปชป.หรือพื้นที่แม่ยก-พ่อยก ปชป.หนาแน่นที่สุด แห่งหนึ่งในภาคใต้เลยทีเดียวเชียวหละ
บรรยากาศเมืองหาดใหญ่ เต็มไปด้วยป้ายรณรงค์ “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ตามริมถนนโดยเฉพาะหน้าตึกร้านค้าหัวมุมถนนของคุณสุมิตรกับภริยา ได้มีการขึ้นป้าย“อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ขนาดใหญ่เตะตายิ่งนัก
เบื้องต้น..คณะจัดงานรณรงค์ “โหวตโน” ประเมินกันว่า น่าจะมีคนมาราว 100-200 คน หรือสูงสุดไม่น่าจะเกิน 300 คนเท่านั้น
แต่แล้ว ณ ห้องประชุมของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองหาดใหญ่ ปรากฏว่า..ชาวหาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาฟังการเสวนากันอย่างล้นหลาม จนต้องเสริมเก้าอี้เพิ่มกันอย่างกะทันหัน เพราะผู้คนหลั่งไหลมาร่วมงานกว่า 600 คนครับ
20 มิถุนายน 2554 มีการจัดรณรงค์ “โหวตโน” กลางเมืองพิษณุโลก เช่นเคย..คณะผู้จัดงานประเมินกันว่า น่าจะมีผู้คนมาร่วมงานไม่มากนัก เพราะจัดงานกันอย่างกะทันหัน อีกทั้งมีการประชาสัมพันธ์น้อยมาก แต่..คณะผู้จัดงานก็ไม่ย่อท้อ..
ที่สำคัญ..ท่ามกลางฤดูฝน คณะจัดงานรณรงค์ “โหวตโน” ที่นี่ ใจกล้ากับการกำหนดสถานที่จัดงานแบบเวทีกลางแจ้งริมแม่น้ำน่าน เรียกว่า..รณรงค์ “โหวตโน” กันแบบเย้ยฟ้า-ท้าฝนกันเลยครับ
แต่เพราะการรณรงค์ครั้งนี้เป็นการทำเพื่อชาติบ้านเมือง ทั้งยังกระทำกันกลางเมืองพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใครบางคนในคณะผู้จัดจึงทำพิธีกรรมขอมิให้ฝนตกที่จุดจัดงาน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตา-ปาฏิหาริย์มีจริง เพราะก่อนงานเริ่มราวชั่วโมงเศษ มีฝนตกหนักไปทั่วพื้นที่รวมทั้งในบริเวณงาน จากนั้นฟ้าก็ทิ้งเมฆมืดดำครึ้มไว้เขย่าขวัญ คณะผู้จัดงานและวิทยากรจากกรุงเทพฯ เล่นๆ แต่ทว่า..ไม่มีฝนตกลงในงานแม้แต่เม็ดเดียวเลยครับ
ประมาณ 18.30 น. คณะวิทยากรอันมีอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เทิดภูมิ ใจดี ชัยพันธ์ ประภาสะวัต และผมก็เดินทางเข้าไปในงาน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่นที่มีทั้งนั่งและยืนเต็มไปหมด
เมื่อเริ่มงาน..ผู้คนยิ่งหลั่งไหลมาร่วมงานรณรงค์ “โหวตโน” มากขึ้นๆ ประเมินด้วยตาคร่าวๆ..ก็ราว 2,000 กว่าคน โดยบรรยากาศผู้มาชุมนุมรณรงค์ “โหวตโน” ล้วนถือมือตบและแต่งกายสไตล์พันธมิตรฯ ครึกครื้นแต่จริงจังราวกับผู้ชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ไม่มีผิดเพี้ยนเลย
การเสวนาดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จาก 18.30 น.ถึงประมาณ 22.00 น. ตามด้วยบรรยากาศอบอุ่นชื่นมื่นเมื่อผู้เข้าร่วมงาน นำดอกไม้มอบให้กับวิทยากรทุกคน จากนั้นก็ถ่ายรูปร่วมกันตามอัธยาศัย และปิดท้ายอย่างอุ่นสบายท้อง เมื่อทุกคนได้กินโจ๊ก “อัมรินทร์” โจ๊กพันธมิตรฯ ที่อร่อยสุดของเมืองพิษณุโลก
อาจารย์สมเกียรติได้เล่าบรรยากาศการจัดงานรณรงค์ “โหวตโน” ในต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง ซึ่งกระแสประชาชนส่วนใหญ่นั้น..ตื่นตัวกันมากกับพฤติกรรมสามานย์ที่เอาแต่ได้-เห็นแก่ตัวของบรรดานักการเมืองชั่ว ที่กระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองด้วยการใช้เงินซื้อเสียง มุ่งจะยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ก่อนจะใช้อำนาจรัฐไปกับการโกงกินชาติบ้านเมือง จนเป็นวงจรอุบาทว์ของชาติไทยมาหลายสิบปี
ก่อนหน้านี้..พันธมิตรฯ ถูกรัวยิงคำถามจากลิ่วล้อของนักการเมืองว่า “โหวตโน..แล้วได้อะไร?” “โหวตโน..แล้วเสียของ?” กระทั่งโกหกว่า.. “โหวตโน..ผิดกฎหมาย!”
วันนี้..ทุกอย่างคลี่คลายกระจ่างชัดแล้วว่า นอกจาก “โหวตโน” จะไม่ผิดกฎหมายแล้ว “โหวตโน” ยังมีกฎหมายรองรับอย่างครบถ้วนว่า หาก “โหวตโน” มีประชาชนลงคะแนนมากกว่าผู้ลงสมัคร ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ งานนี้..สัตว์การเมืองหากแพ้ “โหวตโน” ตามตัวบทกฎหมาย..ก็อดเข้าสภาจริงๆ เสียแล้วล่ะสิ..ฮ่าฮ่าฮ่า..
งานนี้ต้องขอยกหัวแม่โป้งสองนิ้วให้ทนายความพันธมิตรฯ คุณพี่สุวัตร อภัยภักดิ์ ที่เปิดประเด็นในเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับ “โหวตโน” บนเวทีเสวนาพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ ก่อนใครเพื่อน
จากนั้นต้องขอขอบคุณ คุณอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ที่ได้เขียนบทความให้ความกระจ่างชัด ในข้อกฎหมายกับขบวนการ “โหวตโน” ที่กำลังรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยหยุดใช้สิทธิและเสียงของตนทำร้ายชาติบ้านเมือง
ด้วยการหลงเชื่อคนชั่วจนถึงกับต้องฝืนใจไปลงคะแนนสนับสนุนนักการเมืองอัปรีย์-จัญไรที่ทำผิดกฎหมายกับการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง ยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน และใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชันโกงกินชาติบ้านเมืองไงล่ะครับ
การลงคะแนน “โหวตโน” จึงเท่ากับร่วมใจกันทำบุญครั้งใหญ่ให้กับแผ่นดินไทย ตอนนี้โหวตโน..เลยมาแรง..มาแรงจริงๆ ครับ!!!
