xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊ก"วุฒิศักดิ์"โล่ฟ้องสื่อ ผวาถูก"วิลดิ์มิลด์"ส่งSMSข่มขู่เตรียมร้องสคบ.-รวมผู้เสียหายฟ้องเอาผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "ณกรณ์ กรณ์หิรัญ" เจ้าของ"วุฒิศักดิ์ คลินิก"สุดทน! เข้าแจ้งความ สน.มักกะสัน หลังบริษัทรับสร้างบ้านชื่อดัง " วินด์มิลด์ อาร์คีเทค " ในเครืออนันดาฯ ผิดสัญญารับสร้างบ้านมูลค่า 40 ล้านบาท หลังเบิกเงินไปอย่างต่อเนื่อง ช้ำสุดๆ เรียกร้องกับบริษัทฯ กับมีข้อความส่อ"ข่มขู่" ยันเดินหน้าเอาผิดถึงที่สุด ร้องสคบ.พุธนี้ (22) เปรย ผิดหวังกับธุรกิจรับสร้างบ้าน

ความอัปยศจากกรณีของบริษัทรับสร้างบ้าน " ภูธนแสงทอง " ที่โกงลูกค้า สร้างบ้านแล้วไม่ได้บ้าน ยังคงหลอกหลอนผู้บริโภคยังไม่ทันจางหาย ซึ่้งขณะนี้ยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ แถมยังคงหนีลอยนวลไปต้มตุ๋นประชาชนที่ไม่รู้อี่โหน่อีเหน่ ไปใช้บริการรับสร้างกับบริษัทดังกล่าวรายแล้วรายเล่า ซึ่งเป็นตราบาปต่อวงการธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่หน้าฉากใส่สูทผูกไท แต่กลับมาตบทรัพย์ประชาชนที่ต้องการปลูกสร้างบ้านให้แก่ครอบครัว

ไม่เว้นแม้แต่ผู้บริหารธุรกิจหนุ่มไฟแรง มีกิจการใหญ่โต ชื่อเสียงโด่งดัง “วุฒิศักดิ์ คลินิก” ที่ขณะนี้ต้องเผชิญปัญหาการสร้างบ้าน ไม่เสร็จตามกำหนด จนเป็นที่มาของการยื่นเรื่องแจ้งความกับสถานีตำรวจมักกะสันฐาน “ผิดสัญญาในการสร้างบ้าน”

นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วุฒิศักดิ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “วุฒิศักดิ์ คลินิก” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา เวลา 19.10 น.ตนได้เข้าไปแจ้งความเอาผิดกับบริษัท วินด์มิลด์ อาร์คีเทค จำกัด (หนึ่งในสมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านและยังเป็นกรรมการในสมาคมฯดังกล่าวอีกด้วย ) ไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจมักกะสัน ว่า มีการว่าจ้างสร้างบ้านกับบริษัทวินด์มิลด์ อาร์คีเทค ในวงเงิน 40 ล้านบาท โดยเมื่อเซ็นสัญญาว่าจ้างตนจะต้องจ่าย 10% ของมูลค่างาน หลังจากนั้นได้มีการจ่ายเงินตามงวดงานที่บริษัทกำหนดทุกอย่าง

ทั้งนี้ เหตุจูงใจที่ต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจนั้น เนื่องจากว่า บริษัทฯ ดังกล่าวได้กระทำการผิดสัญญาเงื่อนไข โดยเฉพาะไม่สามารถสร้างบ้านให้เสร็จตามสัญญา 2 ปี โดยข้อตกลงจะเสร็จในวันที่ 13 เมษายน 2554 และเมื่อถึงกำหนดบริษัทฯ ดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงว่า ไม่มีเงินทำงาน

นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่า บริษัท วินด์มิลล์ อาร์คีเทคฯ ก่อสร้างผิดสเปคโดยใช้เสาเข็มตอกแทนที่จะใช้เสาเข็มแบบเจาะซึ่งจะมีราคาแตกต่างกันนับล้านบาท (จากการตีราคาของผู้รับเหมากลาง) อีกทั้งการกำหนดค่างวดงานและการจ่ายเงินค่าก่อสร้างเกินกว่ามูลค่าของงวดงานไปนับสิบล้านบาท

“การที่เข้าไปแจ้งความกับตำรวจนั้น เนื่องจากมองว่า ผู้ประกอบการรายนี้ได้ผิดสัญญาในการสร้างบ้าน รวมถึงมูลค่าเงินเราก็จ่ายไปจำนวนมากแล้ว แต่บ้านก็ยังสร้างไม่เสร็จ และยังสร้างความประหลาดใจให้ตนมาก เมื่อผู้ประกอบการร้านวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ลิฟท์ กระจก ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบรนด์ดัง ระดับพรีเมียม มาเรียกเก็บเงินกับตน เนื่องจากว่า บริษัทฯ ดังกล่าวนี้ ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าสินค้า ทั้งๆ ที่มีการเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้างไปเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ตนต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง รวมไปถึงไม่ยอมส่งคนงานเข้ามาดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ โดยมีการอ้างว่า หมุนเงินไม่ทัน จึงเป็นเหตุให้ตนต้องเข้าไปแจ้งความในครั้งนี้”

นายณกรณ์ยังกล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาตนได้พยายามติดต่อเจรจากับผู้บริหารของบริษัท วินด์มิลด์ อย่างต่อเนื่อง และแทบทุกครั้งจะได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอดเวลาเมื่อทวงถามความคืบหน้าในการสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ ที่สำคัญช่วงระยะหลังพยายามโทรศัพท์เข้าไปสอบถามแต่ผู้บริหารคนนี้ก็ไม่ยอมรับสายตน มิหน่ำซ้ำผู้บริหารของวิลด์มิลด์ท่านนี้ ยังได้มีการส่งข้อความในลักษณะข่มขู่ ทำให้ตนซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างสร้างบ้าน ต้องดำเนินการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมอีก นอกเหนือจากการแจ้งความบอกเลิกสัญญา และเลิกใช้บริการกับบริษัทดังกล่าว

ตัวอย่างของข้อความที่ผู้บริหารรายดังกล่าวส่งมาขุ่มขู่ทางดทรศัพท์มือถือ เช่น “ เจอที่ไหนก็ได้ ทั้งสคบ. ทั้งศาล ในเมื่อจะใช้อารมณ์ ผมจะรวมหัว ทุกคนรวมทั้ง เฮียปืน ขุดคุ้ยว่าคุณทำธุรกิจไม่เกิน 3 ปี เลิก รอเป็นข่าวในตลาดหลักทรัพย์ล่ะกัน ถ้าไม่จบ”

ทั้งยังมีข้อความที่ส่งโต้ตอบกัน เช่น "ผมจะเอาเงินคืน 8 ล้านบาท ผมจะให้ สคบ. ให้บริษัทกลางตีราคาค่าก่อสร้าง จะได้รู้ราคาที่แท้จริง รับรองตรงแน่" นอกจากนี้ยังได้ขอนัดกับรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" ของนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ทางช่อง 3 ซึ่งตนได้ส่งข้อความไปว่า "เรื่องนัดกับคุณสรยุทธ์ ผมอยากเป็นอุทาหรณ์ คุณรอไปตอบเองล่ะกัน” ซึ่งคำตอบที่ได้รับกลับมา คือ “ก็ลองดู ผมไม่กลัวอยู่แล้ว ถ้าคุยดีๆ ไม่ได้ ก็มาแลกกัน อยากเล่นนอกกรอบ มา เอาวุฒิศักดิ์แลกวินด์มิลด์ก็ได้ ผมไม่เข้าตลาดอยู่แล้ว”

โดยข้อความดังกล่าวที่ผู้บริหารของบริษัทวินด์มิลด์ ได้ส่งเข้ามาในโทรศัพท์ของตนเองนั้น ซึ่งตรงนี้ตนเองจะนำไปใช้ประกอบในการแถลงข่าวในวันพุธที่ 22 มิ.ย.54 ซึ่งจะเข้าไปร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังจากนั้นตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที เพื่อต้องการเตือนผู้บริโภคที่คิดจะไปสร้างบ้าน ต้องคิดให้ดีๆ และหวังที่จะให้เป็นอุทาหรณ์

“ผมบอกตรงๆ ว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดเรื่องวุ่นวายและสร้างปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน แต่ในความรู้สึกของตนนั้น ในฐานะที่เป็นผู้บริโภค ที่ปฎิบัติตามเงื่อนไข และเป็นลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อน ก็ต้องออกมา ทำให้สังคมได้รับรู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีสำนึกและแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่หายหน้า ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ซึ่งกรณีนี้ที่เกิดเป็นข่าวขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์นั้น เนื่องจากตนเป็นบุคคลในสังคม แต่ถ้าไม่ใช่เป็นคนที่รู้จักของคนในสังคมนั้น ข่าวดังกล่าวนี้ก็คงเงียบ เนื่องจากลูกค้าคงไม่กล้าที่จะอยากให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขึ้นมาซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการได้ใจ และที่สำคัญที่สุด เจตนาไม่คิดอยากจะแจ้งความเอาผิด แต่เป็นเพราะเรานัดผู้บริหารท่านนี้มาเคลียร์ที่สถานีตำรวจ แต่ก็ไม่ยอมมาตามนัด จึงจำเป็นต้องเข้าแจ้งความ”นายณกรณ์ กล่าวและย้ำว่า หากผู้ใดได้รับความเสียหายจากการว่าจ้างบริษัทฯดังกล่าว ก็ควรออกมาเรียกร้องและร่วมกลุ่มเพื่อดำเนินการเอาผิด

นายณกรณ์กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกปลูกสร้างบ้านกับบริษัท วินด์มิลด์ฯ เนื่องจากมองว่า เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการที่บริษัทดังกล่าวอยู่ในเครือของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จากที่ก่อนหน้านี้มีบริษัทรับสร้างบ้านชื่อดังหลายรายมาเสนอสร้างบ้านให้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าการตัดสินใจสร้างบ้านกับบริษัทรายดังกล่าวจะทำให้เสียความรู้สึก แล้วอย่างนี้ลูกค้าจะกล้าตัดสินใจสร้างบ้านกับวิลด์มิลด์ได้อย่างไร

ดังนั้นเพื่อต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้บริโภคในโอกาสต่อๆ ไป หากต้องการจะไปว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน ก็ควรจะพิจารณากันอย่างรอบคอบให้มากขึ้น อย่าไปหลงเชื่อการโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ เพราะสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจและการปฏิบัติต่อลูกค้า ผู้บริโภคอย่าเอาแค่คำโฆษณาชวนเชื่อมาเป็นเครื่องตัดสิน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความจริงใจของผู้ประกอบการทั้งสิ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น