วานนี้(20 มิ.ย) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวตอบคำถามว่าต้องลดเป้าส.ส.ที่ตั้งไว้ 30-35 ที่นั่งหรือไม่ ว่า ก็ต้องลดซะแล้ว ตอนนี้ สถานการณ์ตอนนี้น่าจะลดลง 5-10 % โดยเฉพาะระบบบัญชีรายชื่อตอนนี้ยังแพ้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทยเลย ถ้าเป็นสถานการณ์ตอนนี้ได้ 30 ที่นั่ง ก็บุญแล้ว ไม่รู้ว่ากระแสมันมายังไง แปลกจริงๆ ขนาดศรีสะเกษตั้งเป้าไว้เต็มที่ ก็ยังมีสิทธิ์น่าเป็นห่วง สุรินทร์ก็น่าเป็นห่วง อีสานคงเหลือแค่ นายตุ่น จิตตะเวช ผู้สมัครส.ส. อุบลราชธานี คนเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าโพลล์ ที่ออกมาขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส.ส.ระบบบัญรายชื่อแค่ 2 คน นายชุมพล กล่าวว่า ใช่ เหลือแค่ตน กับพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา
ส่วนต้องเรียกประชุมพรรคเพื่อปรับกระบวนยุทธในการหาเสียงหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ต้อง แต่ต้องไปเพิ่มที่การปราศรัย และการพบปะให้มากขึ้น ตอนนี้ตนมีคิวเต็มเหยียด โดยจะเพิ่มการปราศรัยที่ จ.สุพรรณบุรี อีก 1 วัน ที่ อ.เดิมบางนางบวช และอ.ด่านช้าง ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ และยังต้องเพิ่มจุดหาเสียงในกทม.ให้มากขึ้น แต่ของบางอย่างปรับเท่าไรก็ปรับไม่ได้ หืดขึ้นคอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์พรรคเล็กขณะนี้ถือว่าลำบาหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า พรรคเล็กก็ได้เปรียบตรงที่เขามีบัญชีรายชื่ออย่างน้อย 1-2 คน แน่นอน ส่วนเขตเขาคงไม่แน่ใจ ส่วนพรรคขนาดกลางก็มีทั้งเขต และบัญชีรายชื่อ แต่กระแสพรรคใหญ่มาแรง ส่วนแบ่งจึงอยู่ที่พรรคขนาดใหญ่ จึงอยากบอกประชาชนว่า ตอนนี้พรรคใหญ่เขาได้มากแล้ว เอามาให้พรรคขนาดกลาง และพรรคเล็กบ้าง ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เพราะการมีส่วนร่วมของพรรคใหญ่ค่อนข้างมาก จนออกจะโอเวอร์ไปนิด ถ้าแบ่งมาพรรคกลางและเล็ก จะได้ช่วยกันกระตุกได้บ้าง
พล.ต.สนั่น กล่าวถึงผลโพลที่ระบุว่า พรรคจะส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 1.60 หรือ 2 ที่นั่ง ว่าโพลไม่สงสารเราเลย ตนอุตส่าห์ขี่จักรยาน อย่างไรก็ตาม คงไม่ไปแก้ลำอะไร เนื่องจากที่ตนได้ลงไปสัมผัสกับประชาชนมา คิดว่าพรรคมีโอกาสได้ดีกว่าที่โพลสำรวจ
อีกด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พาบุตร 3 คน ประกอบด้วย นายต้นตระกูล (ต้น), นายเติม (เติม)ตระกูล และ น.ส.ตระการตา(ต๊ะ) กมลวิศิษฏ์ หาเสียงย่านราชประสงค์ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ประชาชนที่รู้จักน.ส.ตระการตา ต่างบอกว่าจะเลือกนายชูวิทย์ เพราะลูกชายบังคับเลือก เนื่องจากชื่นชอบน.ส.ตระการตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชูวิทย์เดินหาเสียงมีผู้ค้าส่งเสียงเชียร์เป็นระยะ ทั้งนี้มีผู้ค้าหญิงรายหนึ่ง ตะโกนว่า ชื่นชอบนายชูวิทย์มาก และขอให้เป็นคนโผงผางอย่างนี้ตลอดไป
ด้าน นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรค ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุบลราชธานี โดยมี น.ส.เยาวภา บุรพลชัย หรือน้องวิว นายภราดร ศรีชาพันธุ์ และนางสุนารี ราชสีมา ไปช่วยเพิ่มสีสันในการหาเสียงครั้งนี้ด้วย โดยในช่วงโค้งสุดท้ายจะเน้นวิธีขอคะแนนแบบเคาะประตูบ้านตามพื้นที่ชุมชนต่างๆ
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโพลที่ออกมาระบุว่าพรรคจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 4 คน ว่า โพลที่ออกมาทำให้ตน(ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 ) สะดุ้งไปด้วย แต่ยังเหลือเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งกว่า 2 อาทิตย์ แม้ว่าโพลนั้นเชื่อได้ แต่ยังขาดเหตุผล เพราะจากการที่พรรคลงพื้นที่พบปะประชาชน ทำให้เห็นว่าโพลพรรคมีแต่เพิ่มขึ้น หลังจากมีการนำเสนอนโยบายดีๆ ออกไปให้กับประชาชน ยืนยันว่าปาร์ตี้ลิสต์ พรรคจะได้ไม่น้อยกว่าเดิม รวมสส.เขตไม่ต่ำกว่า 70 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการประเมินขั้นต่ำของพรรค แต่พรรคการเมืองอื่นประเมินว่าพรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจสูงขึ้น จึงเกิดเหตุรุนแรงอย่างที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าโพลล์ ที่ออกมาขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส.ส.ระบบบัญรายชื่อแค่ 2 คน นายชุมพล กล่าวว่า ใช่ เหลือแค่ตน กับพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา
ส่วนต้องเรียกประชุมพรรคเพื่อปรับกระบวนยุทธในการหาเสียงหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ต้อง แต่ต้องไปเพิ่มที่การปราศรัย และการพบปะให้มากขึ้น ตอนนี้ตนมีคิวเต็มเหยียด โดยจะเพิ่มการปราศรัยที่ จ.สุพรรณบุรี อีก 1 วัน ที่ อ.เดิมบางนางบวช และอ.ด่านช้าง ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ และยังต้องเพิ่มจุดหาเสียงในกทม.ให้มากขึ้น แต่ของบางอย่างปรับเท่าไรก็ปรับไม่ได้ หืดขึ้นคอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์พรรคเล็กขณะนี้ถือว่าลำบาหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า พรรคเล็กก็ได้เปรียบตรงที่เขามีบัญชีรายชื่ออย่างน้อย 1-2 คน แน่นอน ส่วนเขตเขาคงไม่แน่ใจ ส่วนพรรคขนาดกลางก็มีทั้งเขต และบัญชีรายชื่อ แต่กระแสพรรคใหญ่มาแรง ส่วนแบ่งจึงอยู่ที่พรรคขนาดใหญ่ จึงอยากบอกประชาชนว่า ตอนนี้พรรคใหญ่เขาได้มากแล้ว เอามาให้พรรคขนาดกลาง และพรรคเล็กบ้าง ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เพราะการมีส่วนร่วมของพรรคใหญ่ค่อนข้างมาก จนออกจะโอเวอร์ไปนิด ถ้าแบ่งมาพรรคกลางและเล็ก จะได้ช่วยกันกระตุกได้บ้าง
พล.ต.สนั่น กล่าวถึงผลโพลที่ระบุว่า พรรคจะส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 1.60 หรือ 2 ที่นั่ง ว่าโพลไม่สงสารเราเลย ตนอุตส่าห์ขี่จักรยาน อย่างไรก็ตาม คงไม่ไปแก้ลำอะไร เนื่องจากที่ตนได้ลงไปสัมผัสกับประชาชนมา คิดว่าพรรคมีโอกาสได้ดีกว่าที่โพลสำรวจ
อีกด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พาบุตร 3 คน ประกอบด้วย นายต้นตระกูล (ต้น), นายเติม (เติม)ตระกูล และ น.ส.ตระการตา(ต๊ะ) กมลวิศิษฏ์ หาเสียงย่านราชประสงค์ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ประชาชนที่รู้จักน.ส.ตระการตา ต่างบอกว่าจะเลือกนายชูวิทย์ เพราะลูกชายบังคับเลือก เนื่องจากชื่นชอบน.ส.ตระการตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชูวิทย์เดินหาเสียงมีผู้ค้าส่งเสียงเชียร์เป็นระยะ ทั้งนี้มีผู้ค้าหญิงรายหนึ่ง ตะโกนว่า ชื่นชอบนายชูวิทย์มาก และขอให้เป็นคนโผงผางอย่างนี้ตลอดไป
ด้าน นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรค ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุบลราชธานี โดยมี น.ส.เยาวภา บุรพลชัย หรือน้องวิว นายภราดร ศรีชาพันธุ์ และนางสุนารี ราชสีมา ไปช่วยเพิ่มสีสันในการหาเสียงครั้งนี้ด้วย โดยในช่วงโค้งสุดท้ายจะเน้นวิธีขอคะแนนแบบเคาะประตูบ้านตามพื้นที่ชุมชนต่างๆ
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโพลที่ออกมาระบุว่าพรรคจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 4 คน ว่า โพลที่ออกมาทำให้ตน(ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 ) สะดุ้งไปด้วย แต่ยังเหลือเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งกว่า 2 อาทิตย์ แม้ว่าโพลนั้นเชื่อได้ แต่ยังขาดเหตุผล เพราะจากการที่พรรคลงพื้นที่พบปะประชาชน ทำให้เห็นว่าโพลพรรคมีแต่เพิ่มขึ้น หลังจากมีการนำเสนอนโยบายดีๆ ออกไปให้กับประชาชน ยืนยันว่าปาร์ตี้ลิสต์ พรรคจะได้ไม่น้อยกว่าเดิม รวมสส.เขตไม่ต่ำกว่า 70 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการประเมินขั้นต่ำของพรรค แต่พรรคการเมืองอื่นประเมินว่าพรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจสูงขึ้น จึงเกิดเหตุรุนแรงอย่างที่ผ่านมา