ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจแจกภาพสเกตช์คนร้ายสังหาร "นายกเจี๊ยบ" ผบช.น.เชื่อคนร้ายมี 2 คน ติดตามมาจาก ลพบุรี "ภาณุพงศ์" ขอเวลาทำงาน ขณะที่ แม่ผู้ตาย พุ่งปมการเมืองระดับชาติ สงสัยพรรคคู่แข่ง ด้าน 4 เหล่าทัพ ยิงหัวใครไม่สน ยันเป็นกลาง"เทพเทือก"เชื่อปมการเมืองระดับชาติ พ่อเผยรู้ตัวมือยิงลูกชาย แย้มเป็นคนเคยชุบเลี้ยง ด้าน “พัลลภ” โผล่ ลั่นนักเลงพอ อ้างคนตายโจทย์เยอะ!
วานนี้ (17 มิ.ย.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี หัวคะแนนพรรคภูมิใจไทย และฐานะพี่ชาย น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ผู้สมัคร ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย เขต 2 จนเสียชีวิต บริเวณตลาดราชดำเนินพลาซ่า ตรอกมะยม ว่าทีมสืบสวนได้ประชุมกันอย่างเข้มงวด โดยมีการแบ่งงานในการลงพื้นที่เพื่อสืบหาเบาะแสการติดตามคนร้ายแล้ว ส่วนสาเหตุการสังหารนายสุบรรณ ครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจไปที่ประเด็นใดเพียงประเด็นเดียว เนื่องจากมีหลายสาเหตุที่อาจเป็นปมการฆ่าครั้งนี้ได้
ผบช.น.กล่าวด้วยว่า ส่วนพฤติกรรมคนร้ายนั้นจากการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะมีการติดตามมาจากพื้นที่ จ.ลพบุรี และน่าจะมีมา 2 คน โดยอาจมีคนที่พามือปืนหลบหนี หรือชี้เป้าอีก 1 คน ซึ่งน่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง เพราะมีพฤติกรรมอุกอาจบุกเข้ายิงกลางสถานที่มีคนพลุกพล่าน
ด้าน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ซึ่งข้อมูลที่ได้มาตอนนี้ยังไม่มากนัก ส่วนประเด็นการสังหารต้องดูจากพยานหลักฐานว่าเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติหรือท้องถิ่น หรือเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ ต้องรอผลการสอบปากคำพยานรวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
สำหรับการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางก่อนก่อเหตุ และเส้นทางหลบหนีของคนร้ายอยู่ ส่วนปมสังหารในครั้งนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ขอมุ่งไปในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
**แจกภาพสเกตช์คนร้ายล่าตัว**
พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังคงต้องสอบปากคำพยานรวมทั้งตรวจสอบภาพวงจรปิด จากหลายจุด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการขออำนาจศาลออกหมายจับมือปืนรายนี้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบปลอกกระสุนและหัวกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุจะมีการนำไปเปรียบเทียบและตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสจตร์เป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่เคยนำไปใช้ก่อเหตุในคดีอื่นๆหรือไม่ ส่วนคนร้ายอีกคนที่ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อพามือปืนหลบหนียังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อความชัดเจน
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวถึงการรักษาควาปลอดภัยผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 2 คน คือภรรยาผู้ตาย กับเลขานุการส่วนตัวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัยแล้ว ส่วนญาติที่อาศัยในจังหวัดลพบุรีเป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 1 จะต้องประสานงาน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกภาพสเกตช์ของคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุประมาณ 30 ปี สวมหมวกผ้า ใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า นุ่งกางเกงสีเข้ม แต่ยังไม่มีการออกหมายจับ เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานความขัดแย้งของผู้ตายกับกลุ่มคนร้ายให้ชัดเจนก่อน
**แม่พุ่งปมการเมืองสงสัยพรรคคู่แข่ง**
เวลา 10.30 น. ที่รพ.วชิระ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับศพ นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช หรือ นายกฯ เจี๊ยบ ว่า ช่วงเช้าได้มีครอบครัว ญาติ และบรรดาคนสนิท ของผู้ตายเดินทางมารอรับศพท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ
นางพยงศ์ จิระพันธุ์วาณิช มารดาของนายสุบรรณ กล่าวทั้งน้ำตา ว่า นายสุบรรณ เป็นลูกชายคนเดียวของตน ซึ่งที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครมาก่อน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลูกชายถูกสังหารน่าจะมาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากลูกชายได้ให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งยังได้ผลักดันผู้สมัครให้ลงชิงชัยถึง 3 เขต คือนายรังสรรค์ สละชีพ อดีตรองนายก อบจ.ลพบุรี ลงสมัครเขต 1, น.ส.มัลลิกา ลงสมัครเขต 2 และนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ อดีต ส.อบจ.ลพบุรี เขต 4 ลงสนามแข่งขันการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ในพื้นที่ของ จ.ลพบุรีมีการข่มขู่หัวคะแนนเป็นระยะ ๆ ว่าอย่าให้เลือกพรรคภูมิใจไทย ไม่เช่นนั้นจะได้รับอันตราย ซึ่งหลังจากที่เกิดเรื่องตนก็สงสัยว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นพรรคคู่แข่ง
นางพยงค์ กล่าวอีกว่า อยากจะถามผู้ที่ลงมือสังหารลูกชายตนว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ตนเสียใจที่เสียบุตรชายคนเดียวไป จึงอยากขอฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุให้ได้ เพราะทุกครั้งที่มีการยิงหัวคะแนน ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้เลย ซึ่งขณะนี้ตนเป็นห่วงลูกสาวรวมทั้งทีมงานผู้สมัครของพรคคภูมิใจไทย เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตราย แต่ลูกสาวยังยืนกรานว่าจะขอสู้ต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผานมา ได้มีลางบอกเหตุร้ายโดยบุตรชายเน้นย้ำกับตนและครอบครัวว่าให้ระวังตัวให้ดี และบอกว่าเป็นห่วงทุกคน เหมือนกับจะลาจากไป สำหรับศพของลูกชายตนจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าธรรมโสภณ จ.ลพบุรี โดยจะทำพิธีสวด 3 วันและเก็บศพไว้ 100 วัน
**ยิงทะลุปอดตัดเส้นเลือดใหญ่ขาด**
นายแพทย์จรูญศักดิ์ นวลแจ่ม หัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยา-ชันสูตรโรคกลาง รพ.วชิระพยาบาล เปิดเผยว่าผลการชันสูตรศพของนายสุบรรณนั้นมีบาดแผล 2 จุดด้วยกัน จุดแรกกระสุนเจาะที่ศีรษะด้านหลังซ้ายเข้ากะโหลกทะลุออกจมูก ซึ่งบาดแผลนี้ไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิต ส่วนบาดแผลที่สองกระสุนเจาะเข้าที่สะบักซ้ายทะลุปอดขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ขาด ทำให้มีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมาก ซึ่งเพียง 2-3 นาที หลังถูกยิงก็จะทำให้เสียชีวิตทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ครอบครัวของนายสุบรรณจะเดินทางมารับศพที่รพ.วชิระพยาบาล ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุบริเวณตรอกมะยมด้านหลังกองสลากฯ เพื่อทำการเชิญวิญญาณของนายสุบรรณให้กลับไปที่บ้านเกิด ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
**ยิงหัวใครไม่สน-ยันเป็นกลาง***
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 / 2554 โดยมีพล.อ.ทรงจิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร) พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ) และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมประชุม
พล.อ.ทรงกิตติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงกรณีที่กองทัพที่ถูกหลายฝ่ายมองว่ากองทัพวางตัวไม่เป็นกลางว่า กรณีดังกล่าวขอยืนยันชัดเจนว่าทหารทุกนายทุกเหล่าทัพยังวางตัวอย่างเป็นกลางไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง
เมื่อถามถึงกรณีคนร้ายยิง นายสุบรรณ จิระพันธุ์วานิช นายกอบจ. จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นยิงหัวคะแนนของพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ยิงหัวใคร ตนไม่สน
“ผมเป็นหัวหน้ากองทัพ คุมกำลัง 400,000 นาย กองทัพจะเป็นยังไงให้ดูที่ผม ผมเป็นยังไงกองทัพเป็นอย่างนั้น”ผบ.สส. กล่าว
**ยันไม่มีข้อมูลปองร้าย"ยิ่งลักษณ์"**
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวถึงคดียิง นายสุบรรณ ว่า ผู้ตายได้ร้องขอกำลัง ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยก่อนที่จะถูกสังหาร ซึ่งมีการส่งกำลังเข้าไปตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ จ.ลพบุรีนั้น อยู่ในข่ายพื้นที่เฝ้าระวังอยู่แล้ว เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนรับจ้างในพื้นที่
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษัณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า มีการปองร้าย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาร์ตี้ลิสต์หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย และเป็นห่วงว่าน้องสาวจะไม่ปลอดภัย พล.ต.อ.วิเชียร ยืนยันว่า ไม่มีข้อมูลนี้แต่อย่างใด
**"มาร์ค" ชี้การเมืองเมืองลิงแข่งขันสูง**
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลอบยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วานิช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ พื้นที่ จ.ลพบุรี ต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง และพื้นที่ตนก็ทราบมาว่ามี่ความขัดแย้งอยู่พอสมควร
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งสอบสวน เพื่อที่จะหาคนผิดมาลงโทษ ส่วนจะมีประเด็นอื่นด้วยหรือไม่ คงยังไม่ชัดเจน และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงไม่ตัดเอาแต่ประเด็นทางการเมืองเพียงประเด็นเดียวแน่ แต่มีความเป็นไปได้อยู่
**"เทพ"เชื่อปมการเมืองระดับชาติ**
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ทันทีที่เกิดเหตุผบช.น.ได้รายงานให้ตนทราบแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นคดีอุกอาจเนื่องจากเกิดขึ้นในกทม. ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าคนร้ายไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงต้องหาตัวคนร้ายมาให้ได้ เพราะมีพยานรู้เห็นจำนวนมากจึงเชื่อว่าการสอบสวนจะมีพยานหลักฐานเพียงพอ
ส่วนตัวสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการเมืองระดับชาติ แต่ก็ไม่อยากชี้นำการทำงานของตำรวจ หรือกำหนดเงื่อนไขระยะเวลา อย่างไรก็ตามในส่วนของหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมามีการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้จับผู้ต้องสงสัยที่จะก่อเหตุได้ ซึ่งกรณีลักษณะนี้หากผู้ใดที่เห็นว่าไม่ปลอดภัยก็ต้องขอกำลังคุ้มครอง
**“ศุภชัย”วอน ตร.เข้มโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง**
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีการบุกยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช หรือนายกเจี๊ยบ ว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่มั่นใจว่ามีสาเหตุจากการเมืองหรือไม่ ซึ่งตั้งแต่เข้าสู่สนามการเลือกตั้งก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับหัวคะแนนของพรรคหลายจังหวัด มีการถูกทำร้าย ลอบยิง เช่น จ.สุโขทัย จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จึงสะท้อนให้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งครอบครัวของนายกเจี๊ยบเป็นครอบครัวนักการเมืองและมีความสนิทสนมกับพรรคภูมิใจไทยมานาน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มองได้ 2 มุม ซึ่งอาจจะส่งผลให้คะแนนพรรคเพิ่มมากขึ้นเพราะสงสาร แต่อีกมุมก็อาจได้คะแนนลดลงเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้นายเนวิน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพรรค ก็ได้มีการสอบถามและแสดงความเสียใจ แต่ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องคดี ขอให้เป็นการดำเนินการของตำรวจ ส่วนผู้ลงมือก่อเหตุจะเป็นฝีมือของพรรคคู่แข่งหรือไม่นั้น ตนไม่ขอระบุ
นายศุภชัย กล่าวว่า เหตุการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทยก็มีต่างประเทศและทูตในหลายประเทศสอบถามมา เนื่องจากตนมีเพื่อนเป็นทูตและรู้จักกัน ซึ่งต่างจับตามองการเลือกตั้งครั้งนี้ของประเทศไทย และมีความเป็นห่วงกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ไม่มีนัยทางการเมือง หรือเรื่องอื่นแอบแฝงทั้งสิ้น
**"บุญจง"กำชับลูกพรรคดูแลตัวเองให้มากขึ้น
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้บริหารของพรรคหารือกัน โดยได้แสดงความห่วงใยญาติของนายสุบรรณ เป็นบุคคลที่ทำพื้นที่มานาน รวมทั้งเป็นบุคคลที่หลายฝ่ายให้ความเคารพ ที่สำคัญได้กำชับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ให้ระมัดระวังช่วงของการลงพื้นที่หาเสียง
โดยหลักการเมื่อลงสนามเลือกตั้งแล้ว การแข่งกันย่อมมีความดุเดือดแทบทั้งสิ้น ทั้งในส่วนของผู้ที่เคยเป็น ส.ส.เดิม ที่ต้องแข่งขันและรักษาเก้าอี้เดิมกับผู้สมัครจากพรรคอื่นเข้ามาท้าชิงในพื้นที่ ไปจนถึงการที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ไปลงชิงชัยกับ ส.ส.เดิมในพื้นที่ของพรรคการเมืองอื่น
**พ่อเผยรู้ตัวมือยิงลูกชายแย้มคนเคยชุบเลี้ยง
นายกมล จิระพันธุ์วาณิช อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย บิดานายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช กล่าวว่า ความรู้สึกเสียใจต่อการสูญเสียลูกชาย ยังไม่มากเท่ากับคนที่ทำร้ายลูกชายนั้น เป็นคนที่ตนและครอบครัวรู้จักดี และเคยชุบเลี้ยงมา แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร โดยจะขอให้การกับตำรวจเท่านั้น ทั้งนี้ บรรยากาศที่บ้านพักของ นายสุบรรณ ค่อนข้างเงียบเหงา
**ยิงนายกอบจ.ลพบุรี ตัดคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ใน อบจ.ลพบุรี เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้นอกจาก นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี จะมีความสนิทสนมกับนายเนวิน ชิดชอบ และยังได้รับผิดชอบให้ดูแลใน 3 จังหวัด ประกอบด้วยลพบุรี ปทุมธานี และมหาสารคาม และมีการมอบรางวัลไว้ให้ว่าหากในทีมของนายก อบจ.ลพบุรี นั้นสามารถพาผู้สมัครเข้ามาเป็น ส.ส.ได้จำนวน 10 ที่นั่ง นายสุบรรณ จะได้รับการเสนอชื่อจากพรรคภูมิใจไทยให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งหากได้เข้าร่วมรัฐบาล
ซึ่งจากการลงพื้นที่หาเสียงพบว่าได้รับคะแนนเสียงดีใน 3 จังหวัดที่ดูแล โดยเฉพาะพื้นที่ลพบุรีที่มีการส่งผู้สมัคร ส.ส. 3 เขต คือเขตเลือกตั้งที่ 1 นายรังสรรค์ สละชีพ อดีตรองนายก อบจ.ลพบุรี พบกับผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยอย่างนายพิชัย เกียรติวินัยสกุล อดีตนายก อบจ.ลพบุรี ที่มีคดียิงผู้รับเหมาภรรยานายทหารเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน แต่ศาลยกฟ้อง และนายพิชัยเองยังถือเป็นเพื่อนสนิทของนายสุบรรณ อีกด้วยแต่ผิดใจกัน เรื่องตำแหน่งนายกอบจ.
เขตเลือกตั้งที่ 2 นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช น้องสาวของ นายสุบรรณ เองที่เจอศึกหนักในเขตช้างชนช้าง อย่างนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ผู้สมัคร พรรคเพื่อไทย และเป็นเขตที่มีการกระทบกระทั่งกันมากพอสมควร ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 นายสุบรรณได้ส่งนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ สจ.เขตชัยบาดาลพบตระกูล "วรปัญญา" เจ้าของพื้นที่เดิม ทำให้สนามเลือกตั้งของลพบุรีเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อไทย
"ในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ ทางพรรคเพื่อไทย ได้ส่ง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มาคุมพื้นที่ จ.ลพบุรี เพื่อชนกับ นายสุบรรณ และจากแหล่งข่าวยังได้ทราบว่า มีผู้ประสานงานมาว่าพล.อ.พัภลภ ปิ่นมณี จะขอเข้าพบ นายกมล จิระพันธุ์วาณิช อดีต ส.ส.ลพบุรี หลายสมัย และนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ที่ถือว่าเป็นตัวจักรสำคัญในการเลือกตั้งรั้งนี้ แต่ถูกปฏิเสธ เพราะว่าเวลา และโอกาสยังไม่เหมาะสม หากจะมีการพบกันขอเป็นหลังเลือกตั้งเรียบร้อยเสียก่อน" แหล่งข่าวยืนยัน
**“พัลลภ” ลั่นนักเลงพอ อ้างคนตายโจทย์เยอะ
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยประจำ จ.บุรีรัมย์ และ จ.ลพบุรี กล่าวถึงกระแสข่าวว่า ไปเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ลอบยิงนายสุบรรณว่า “เป็นธรรมดาที่เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็ต้องพุ่งเป้ามาที่ตนเอง เพราะดูแลพื้นที่เขตเลือกตั้ง จ.ลพบุรีของพรรคเพื่อไทย พออะไรเกิดขึ้นก็คิดว่าเป็นฝีมือของผม อะไรๆ ก็พัลลภ ผมเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักเลงพอ ไม่ใช้วิธีแบบนี้แน่นอน และยืนยันว่าไม่เคยไปล็อบบี้ พูดคุย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาอยู่คนละฝ่าย ผู้สื่อข่าวลองไปเช็คดู จะรู้ว่าผู้ตายเขาก็มีโจทย์เยอะ”.
วานนี้ (17 มิ.ย.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี หัวคะแนนพรรคภูมิใจไทย และฐานะพี่ชาย น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ผู้สมัคร ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย เขต 2 จนเสียชีวิต บริเวณตลาดราชดำเนินพลาซ่า ตรอกมะยม ว่าทีมสืบสวนได้ประชุมกันอย่างเข้มงวด โดยมีการแบ่งงานในการลงพื้นที่เพื่อสืบหาเบาะแสการติดตามคนร้ายแล้ว ส่วนสาเหตุการสังหารนายสุบรรณ ครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจไปที่ประเด็นใดเพียงประเด็นเดียว เนื่องจากมีหลายสาเหตุที่อาจเป็นปมการฆ่าครั้งนี้ได้
ผบช.น.กล่าวด้วยว่า ส่วนพฤติกรรมคนร้ายนั้นจากการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะมีการติดตามมาจากพื้นที่ จ.ลพบุรี และน่าจะมีมา 2 คน โดยอาจมีคนที่พามือปืนหลบหนี หรือชี้เป้าอีก 1 คน ซึ่งน่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง เพราะมีพฤติกรรมอุกอาจบุกเข้ายิงกลางสถานที่มีคนพลุกพล่าน
ด้าน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ซึ่งข้อมูลที่ได้มาตอนนี้ยังไม่มากนัก ส่วนประเด็นการสังหารต้องดูจากพยานหลักฐานว่าเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติหรือท้องถิ่น หรือเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ ต้องรอผลการสอบปากคำพยานรวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
สำหรับการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางก่อนก่อเหตุ และเส้นทางหลบหนีของคนร้ายอยู่ ส่วนปมสังหารในครั้งนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ขอมุ่งไปในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
**แจกภาพสเกตช์คนร้ายล่าตัว**
พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังคงต้องสอบปากคำพยานรวมทั้งตรวจสอบภาพวงจรปิด จากหลายจุด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการขออำนาจศาลออกหมายจับมือปืนรายนี้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบปลอกกระสุนและหัวกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุจะมีการนำไปเปรียบเทียบและตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสจตร์เป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่เคยนำไปใช้ก่อเหตุในคดีอื่นๆหรือไม่ ส่วนคนร้ายอีกคนที่ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อพามือปืนหลบหนียังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อความชัดเจน
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวถึงการรักษาควาปลอดภัยผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 2 คน คือภรรยาผู้ตาย กับเลขานุการส่วนตัวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัยแล้ว ส่วนญาติที่อาศัยในจังหวัดลพบุรีเป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 1 จะต้องประสานงาน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกภาพสเกตช์ของคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุประมาณ 30 ปี สวมหมวกผ้า ใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า นุ่งกางเกงสีเข้ม แต่ยังไม่มีการออกหมายจับ เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานความขัดแย้งของผู้ตายกับกลุ่มคนร้ายให้ชัดเจนก่อน
**แม่พุ่งปมการเมืองสงสัยพรรคคู่แข่ง**
เวลา 10.30 น. ที่รพ.วชิระ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับศพ นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช หรือ นายกฯ เจี๊ยบ ว่า ช่วงเช้าได้มีครอบครัว ญาติ และบรรดาคนสนิท ของผู้ตายเดินทางมารอรับศพท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ
นางพยงศ์ จิระพันธุ์วาณิช มารดาของนายสุบรรณ กล่าวทั้งน้ำตา ว่า นายสุบรรณ เป็นลูกชายคนเดียวของตน ซึ่งที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครมาก่อน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลูกชายถูกสังหารน่าจะมาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากลูกชายได้ให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งยังได้ผลักดันผู้สมัครให้ลงชิงชัยถึง 3 เขต คือนายรังสรรค์ สละชีพ อดีตรองนายก อบจ.ลพบุรี ลงสมัครเขต 1, น.ส.มัลลิกา ลงสมัครเขต 2 และนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ อดีต ส.อบจ.ลพบุรี เขต 4 ลงสนามแข่งขันการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ในพื้นที่ของ จ.ลพบุรีมีการข่มขู่หัวคะแนนเป็นระยะ ๆ ว่าอย่าให้เลือกพรรคภูมิใจไทย ไม่เช่นนั้นจะได้รับอันตราย ซึ่งหลังจากที่เกิดเรื่องตนก็สงสัยว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นพรรคคู่แข่ง
นางพยงค์ กล่าวอีกว่า อยากจะถามผู้ที่ลงมือสังหารลูกชายตนว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ตนเสียใจที่เสียบุตรชายคนเดียวไป จึงอยากขอฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุให้ได้ เพราะทุกครั้งที่มีการยิงหัวคะแนน ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้เลย ซึ่งขณะนี้ตนเป็นห่วงลูกสาวรวมทั้งทีมงานผู้สมัครของพรคคภูมิใจไทย เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตราย แต่ลูกสาวยังยืนกรานว่าจะขอสู้ต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผานมา ได้มีลางบอกเหตุร้ายโดยบุตรชายเน้นย้ำกับตนและครอบครัวว่าให้ระวังตัวให้ดี และบอกว่าเป็นห่วงทุกคน เหมือนกับจะลาจากไป สำหรับศพของลูกชายตนจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าธรรมโสภณ จ.ลพบุรี โดยจะทำพิธีสวด 3 วันและเก็บศพไว้ 100 วัน
**ยิงทะลุปอดตัดเส้นเลือดใหญ่ขาด**
นายแพทย์จรูญศักดิ์ นวลแจ่ม หัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยา-ชันสูตรโรคกลาง รพ.วชิระพยาบาล เปิดเผยว่าผลการชันสูตรศพของนายสุบรรณนั้นมีบาดแผล 2 จุดด้วยกัน จุดแรกกระสุนเจาะที่ศีรษะด้านหลังซ้ายเข้ากะโหลกทะลุออกจมูก ซึ่งบาดแผลนี้ไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิต ส่วนบาดแผลที่สองกระสุนเจาะเข้าที่สะบักซ้ายทะลุปอดขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ขาด ทำให้มีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมาก ซึ่งเพียง 2-3 นาที หลังถูกยิงก็จะทำให้เสียชีวิตทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ครอบครัวของนายสุบรรณจะเดินทางมารับศพที่รพ.วชิระพยาบาล ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุบริเวณตรอกมะยมด้านหลังกองสลากฯ เพื่อทำการเชิญวิญญาณของนายสุบรรณให้กลับไปที่บ้านเกิด ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
**ยิงหัวใครไม่สน-ยันเป็นกลาง***
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 / 2554 โดยมีพล.อ.ทรงจิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร) พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ) และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมประชุม
พล.อ.ทรงกิตติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงกรณีที่กองทัพที่ถูกหลายฝ่ายมองว่ากองทัพวางตัวไม่เป็นกลางว่า กรณีดังกล่าวขอยืนยันชัดเจนว่าทหารทุกนายทุกเหล่าทัพยังวางตัวอย่างเป็นกลางไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง
เมื่อถามถึงกรณีคนร้ายยิง นายสุบรรณ จิระพันธุ์วานิช นายกอบจ. จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นยิงหัวคะแนนของพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ยิงหัวใคร ตนไม่สน
“ผมเป็นหัวหน้ากองทัพ คุมกำลัง 400,000 นาย กองทัพจะเป็นยังไงให้ดูที่ผม ผมเป็นยังไงกองทัพเป็นอย่างนั้น”ผบ.สส. กล่าว
**ยันไม่มีข้อมูลปองร้าย"ยิ่งลักษณ์"**
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวถึงคดียิง นายสุบรรณ ว่า ผู้ตายได้ร้องขอกำลัง ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยก่อนที่จะถูกสังหาร ซึ่งมีการส่งกำลังเข้าไปตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ จ.ลพบุรีนั้น อยู่ในข่ายพื้นที่เฝ้าระวังอยู่แล้ว เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนรับจ้างในพื้นที่
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษัณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า มีการปองร้าย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาร์ตี้ลิสต์หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย และเป็นห่วงว่าน้องสาวจะไม่ปลอดภัย พล.ต.อ.วิเชียร ยืนยันว่า ไม่มีข้อมูลนี้แต่อย่างใด
**"มาร์ค" ชี้การเมืองเมืองลิงแข่งขันสูง**
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลอบยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วานิช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ พื้นที่ จ.ลพบุรี ต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง และพื้นที่ตนก็ทราบมาว่ามี่ความขัดแย้งอยู่พอสมควร
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งสอบสวน เพื่อที่จะหาคนผิดมาลงโทษ ส่วนจะมีประเด็นอื่นด้วยหรือไม่ คงยังไม่ชัดเจน และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงไม่ตัดเอาแต่ประเด็นทางการเมืองเพียงประเด็นเดียวแน่ แต่มีความเป็นไปได้อยู่
**"เทพ"เชื่อปมการเมืองระดับชาติ**
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ทันทีที่เกิดเหตุผบช.น.ได้รายงานให้ตนทราบแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นคดีอุกอาจเนื่องจากเกิดขึ้นในกทม. ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าคนร้ายไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงต้องหาตัวคนร้ายมาให้ได้ เพราะมีพยานรู้เห็นจำนวนมากจึงเชื่อว่าการสอบสวนจะมีพยานหลักฐานเพียงพอ
ส่วนตัวสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการเมืองระดับชาติ แต่ก็ไม่อยากชี้นำการทำงานของตำรวจ หรือกำหนดเงื่อนไขระยะเวลา อย่างไรก็ตามในส่วนของหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมามีการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้จับผู้ต้องสงสัยที่จะก่อเหตุได้ ซึ่งกรณีลักษณะนี้หากผู้ใดที่เห็นว่าไม่ปลอดภัยก็ต้องขอกำลังคุ้มครอง
**“ศุภชัย”วอน ตร.เข้มโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง**
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีการบุกยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช หรือนายกเจี๊ยบ ว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่มั่นใจว่ามีสาเหตุจากการเมืองหรือไม่ ซึ่งตั้งแต่เข้าสู่สนามการเลือกตั้งก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับหัวคะแนนของพรรคหลายจังหวัด มีการถูกทำร้าย ลอบยิง เช่น จ.สุโขทัย จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จึงสะท้อนให้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งครอบครัวของนายกเจี๊ยบเป็นครอบครัวนักการเมืองและมีความสนิทสนมกับพรรคภูมิใจไทยมานาน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มองได้ 2 มุม ซึ่งอาจจะส่งผลให้คะแนนพรรคเพิ่มมากขึ้นเพราะสงสาร แต่อีกมุมก็อาจได้คะแนนลดลงเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้นายเนวิน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพรรค ก็ได้มีการสอบถามและแสดงความเสียใจ แต่ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องคดี ขอให้เป็นการดำเนินการของตำรวจ ส่วนผู้ลงมือก่อเหตุจะเป็นฝีมือของพรรคคู่แข่งหรือไม่นั้น ตนไม่ขอระบุ
นายศุภชัย กล่าวว่า เหตุการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทยก็มีต่างประเทศและทูตในหลายประเทศสอบถามมา เนื่องจากตนมีเพื่อนเป็นทูตและรู้จักกัน ซึ่งต่างจับตามองการเลือกตั้งครั้งนี้ของประเทศไทย และมีความเป็นห่วงกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ไม่มีนัยทางการเมือง หรือเรื่องอื่นแอบแฝงทั้งสิ้น
**"บุญจง"กำชับลูกพรรคดูแลตัวเองให้มากขึ้น
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้บริหารของพรรคหารือกัน โดยได้แสดงความห่วงใยญาติของนายสุบรรณ เป็นบุคคลที่ทำพื้นที่มานาน รวมทั้งเป็นบุคคลที่หลายฝ่ายให้ความเคารพ ที่สำคัญได้กำชับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ให้ระมัดระวังช่วงของการลงพื้นที่หาเสียง
โดยหลักการเมื่อลงสนามเลือกตั้งแล้ว การแข่งกันย่อมมีความดุเดือดแทบทั้งสิ้น ทั้งในส่วนของผู้ที่เคยเป็น ส.ส.เดิม ที่ต้องแข่งขันและรักษาเก้าอี้เดิมกับผู้สมัครจากพรรคอื่นเข้ามาท้าชิงในพื้นที่ ไปจนถึงการที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ไปลงชิงชัยกับ ส.ส.เดิมในพื้นที่ของพรรคการเมืองอื่น
**พ่อเผยรู้ตัวมือยิงลูกชายแย้มคนเคยชุบเลี้ยง
นายกมล จิระพันธุ์วาณิช อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย บิดานายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช กล่าวว่า ความรู้สึกเสียใจต่อการสูญเสียลูกชาย ยังไม่มากเท่ากับคนที่ทำร้ายลูกชายนั้น เป็นคนที่ตนและครอบครัวรู้จักดี และเคยชุบเลี้ยงมา แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร โดยจะขอให้การกับตำรวจเท่านั้น ทั้งนี้ บรรยากาศที่บ้านพักของ นายสุบรรณ ค่อนข้างเงียบเหงา
**ยิงนายกอบจ.ลพบุรี ตัดคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ใน อบจ.ลพบุรี เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้นอกจาก นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี จะมีความสนิทสนมกับนายเนวิน ชิดชอบ และยังได้รับผิดชอบให้ดูแลใน 3 จังหวัด ประกอบด้วยลพบุรี ปทุมธานี และมหาสารคาม และมีการมอบรางวัลไว้ให้ว่าหากในทีมของนายก อบจ.ลพบุรี นั้นสามารถพาผู้สมัครเข้ามาเป็น ส.ส.ได้จำนวน 10 ที่นั่ง นายสุบรรณ จะได้รับการเสนอชื่อจากพรรคภูมิใจไทยให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งหากได้เข้าร่วมรัฐบาล
ซึ่งจากการลงพื้นที่หาเสียงพบว่าได้รับคะแนนเสียงดีใน 3 จังหวัดที่ดูแล โดยเฉพาะพื้นที่ลพบุรีที่มีการส่งผู้สมัคร ส.ส. 3 เขต คือเขตเลือกตั้งที่ 1 นายรังสรรค์ สละชีพ อดีตรองนายก อบจ.ลพบุรี พบกับผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยอย่างนายพิชัย เกียรติวินัยสกุล อดีตนายก อบจ.ลพบุรี ที่มีคดียิงผู้รับเหมาภรรยานายทหารเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน แต่ศาลยกฟ้อง และนายพิชัยเองยังถือเป็นเพื่อนสนิทของนายสุบรรณ อีกด้วยแต่ผิดใจกัน เรื่องตำแหน่งนายกอบจ.
เขตเลือกตั้งที่ 2 นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช น้องสาวของ นายสุบรรณ เองที่เจอศึกหนักในเขตช้างชนช้าง อย่างนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ผู้สมัคร พรรคเพื่อไทย และเป็นเขตที่มีการกระทบกระทั่งกันมากพอสมควร ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 นายสุบรรณได้ส่งนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ สจ.เขตชัยบาดาลพบตระกูล "วรปัญญา" เจ้าของพื้นที่เดิม ทำให้สนามเลือกตั้งของลพบุรีเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อไทย
"ในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ ทางพรรคเพื่อไทย ได้ส่ง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มาคุมพื้นที่ จ.ลพบุรี เพื่อชนกับ นายสุบรรณ และจากแหล่งข่าวยังได้ทราบว่า มีผู้ประสานงานมาว่าพล.อ.พัภลภ ปิ่นมณี จะขอเข้าพบ นายกมล จิระพันธุ์วาณิช อดีต ส.ส.ลพบุรี หลายสมัย และนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ที่ถือว่าเป็นตัวจักรสำคัญในการเลือกตั้งรั้งนี้ แต่ถูกปฏิเสธ เพราะว่าเวลา และโอกาสยังไม่เหมาะสม หากจะมีการพบกันขอเป็นหลังเลือกตั้งเรียบร้อยเสียก่อน" แหล่งข่าวยืนยัน
**“พัลลภ” ลั่นนักเลงพอ อ้างคนตายโจทย์เยอะ
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยประจำ จ.บุรีรัมย์ และ จ.ลพบุรี กล่าวถึงกระแสข่าวว่า ไปเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ลอบยิงนายสุบรรณว่า “เป็นธรรมดาที่เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็ต้องพุ่งเป้ามาที่ตนเอง เพราะดูแลพื้นที่เขตเลือกตั้ง จ.ลพบุรีของพรรคเพื่อไทย พออะไรเกิดขึ้นก็คิดว่าเป็นฝีมือของผม อะไรๆ ก็พัลลภ ผมเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักเลงพอ ไม่ใช้วิธีแบบนี้แน่นอน และยืนยันว่าไม่เคยไปล็อบบี้ พูดคุย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาอยู่คนละฝ่าย ผู้สื่อข่าวลองไปเช็คดู จะรู้ว่าผู้ตายเขาก็มีโจทย์เยอะ”.