สุโขทัย - สนามเลือกตั้ง ส.ส.สุโขทัยปี 54 ฐานที่มั่น ส.สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา พรรคภูมิใจไทย นับเป็นอีกแห่งที่มีการช่วงชิงที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ดุเด็ดเผ็ดมัน และเป็นที่จับจ้องของคอการเมือง โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 2 กับ 4 ที่เป็นการแข่งขันกันระหว่าง “โกน้อย-สัมพันธ์” กับ “มนู-อารยะ”
ทั้งนี้ สุโขทัยมี 4 เขต มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 464,209 คน โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อ.ศรีสำโรง กับ อ.เมืองสุโขทัย (ยกเว้น ต.ตาลเตี้ย บ้านสวน บ้านหลุม และ ต.ปากพระ) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 112,088 คน
เขตนี้ผู้สมัครประกอบด้วยนายประศาสตร์ (แก้ว) ทองปากน้ำ ภูมิใจไทย , พ.ต.ท.มงกุฎ รักบุญประเสริฐ เพื่อไทย , นายธานี ทวนหอม ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน , ร.ต.ต.มานิตย์ สุขวัฒน์ พลังคนกีฬา , นายศราวุฒิ ปรีดากัญญารัตน์ รักษ์สันติ , นายวิรัตน์ (ทนายโอ้) วิริยะพงษ์ ประชาธิปัตย์ และนายชัยวัฒน์ สุดสวาท พรรคเพื่อนเกษตรไทย
โฟกัสเขตเลือกตั้งนี้อยู่ที่เสี่ยแก้ว “ประศาสตร์ ทองปากน้ำ” จากพรรคภูมิใจไทย อดีต ส.ส. หลายสมัย ที่รอโอกาสทวงแชมป์คืนจากทนายโอ้ “วิรัตน์ วิริยะพงษ์” จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถึงแม้กระแสพรรคจะตก และต้องเผชิญกับเสียงโหวตโน แต่เซียนการเมืองก็ยังคงชี้ “วิรัตน์” นำอยู่เล็กน้อย
เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อ.กงไกรลาศ อ.คีรีมาศ และ อ.เมืองสุโขทัย (เฉพาะ ต.ตาลเตี้ย บ้านสวน บ้านหลุม และ ต.ปากพระ) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 117,639 คน ผู้สมัครประกอบด้วยนายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง เพื่อไทย , นายเกียรติศักดิ์ (โกน้อย) ต้นประสงค์ ภูมิใจไทย , นายกุศลหมีเทศริ์ ศรีอารวงศา มาตุภูมิ , นายยุ้ย นินทะกาล ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน , นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล ประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ โพธิ์แจ้ง พรรคเพื่อนเกษตรไทย
เขตนี้ คะแนนที่เป็นกอบเป็นกำ ถูกปันให้ผู้สมัครหลายคน ทั้ง “ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง” อดีต ส.อบจ.สุโขทัย และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโตนด ซึ่งมีคะแนนจัดตั้งของตัวเอง ผนวกกับได้แรงหนุนของกระแสพรรคเพื่อไทย และ“กุศลหมีเทศริ์ ศรีอารวงศา” อดีต ส.ส. คนดังสุโขทัย ที่มากับชื่อ-สกุลใหม่ (อีกแล้ว) เมื่อครั้งเลือกตั้งปี2550 แฟนคลับก็ เทคะแนนให้ถึง 26,667 โดย อ.กงไกรลาศ ได้ 9,239 อ.คีรีมาศ ได้ 7,192 และ อ.เมือง ได้ 7,527 คะแนน แต่ทว่าชื่อสมัครของเขาครั้งนั้น คือ “ชูชาติ ประธานธรรม” หัวหน้าพรรคไทเป็นไท
แต่โฟกัสสนามนี้ ทุกตาจับจ้องไปที่โกน้อย “เกียรติศักดิ์ ต้นประสงค์” พรรคภูมิใจไทย เสี่ยรับเหมารายใหญ่ในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ เจ้าของสโลแกน “ใจถึงพึ่งได้ พูดจริงทำจริง ไม่ทิ้งประชาชน” ที่เมื่อครั้งลงเลือกตั้งปี 2550 ในนามพรรคพลังประชาชน มีคนเทคะแนนให้มากถึง 43,501 ประกอบกับความสด ยังไม่มีรอยตำหนิ อีกทั้งมีทีมนักเลือกตั้งที่แข็งแกร่ง จึงทำให้ “เกียรติศักดิ์” กำลังยืนหายใจรดต้นคอแชมป์เก่าอย่าง “สัมพันธ์ ตั้งเบญจผล” จากพรรคประชาธิปัตย์
เขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย อ.ทุ่งเสลี่ยม อ.บ้านด่านลานหอย และ อ.สวรรคโลก (ยกเว้น ต.ป่ากุมเกาะ ในเมือง คลองยาง และ ต.นาทุ่ง) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 119,159 คน ผู้สมัครรับเลือกตั้งมี นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน , นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกุล ภูมิใจไทย , พ.ท.พรชัย แสงสว่าง เสธ.ทหารจากศูนย์สงครามพิเศษ (ลพบุรี) เพื่อไทย , นายสมชาย คำเตือนใจ ประชาธิปัตย์ และนายศุภชัย โตนดดง อดีต ส.อบจ.สุโขทัย และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลลานหอย พรรคเพื่อนเกษตรไทย
สนามนี้ จับจ้องไปที่เจ้าของสโลแกน “ทุกข์ของท่าน คืองานของผม-สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์” ทายาทหนุ่มตระกูลการเมืองเก่าแก่ ซึ่งก้าวมาทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันนับได้ 10 ปี ผู้ท้าชิงคือ “จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกุล” อดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุโขทัย จากพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิพากษ์ว่า “สมเจตน์” เป็นต่อ
สุดท้าย เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อ.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีนคร และ อ.สวรรคโลก (เฉพาะ ต.ป่ากุมเกาะ ในเมือง คลองยาง และ ต.นาทุ่ง) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 115,323 คน ถูกยกให้เป็นมวยคู่เอกของสุโขทัย ผู้สมัครเลือกตั้งประกอบด้วย นายอารยะ ชุมดวง ชาติไทยพัฒนา , นายมนู พุกประเสริฐ ภูมิใจไทย , นายโด่ง แสวงลาภ ประชาธิปัตย์ , น.ส.ฐิติพร เขียวฤทธิ์ เพื่อไทย และนายบุญธรรม ชาวเขียววงศ์ ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
สนามนี้ถูกจับตาพิเศษ เพราะเป็นศึกช้างชนช้าง (ขนานแท้) ระหว่าง “มนู พุกประเสริฐ” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุโขทัย พรรคภูมิใจไทย พี่ภรรยาของ “ส.สมศักดิ์ เทพสุทิน” ต้องเผชิญนักชกกระดูกเหล็กอย่าง “อารยะ ชุมดวง” อดีต ส.ว. และ ส.ส. หลายสมัย
อย่างไรก็ตาม อีกคนที่มองข้ามไม่ได้ คือ “ฐิติพร เขียวฤทธิ์” จากพรรคเพื่อไทย บุตรสาวของนายประทวน เขียวฤทธิ์ อดีต ส.ส.หลายสมัย ที่มีคะแนน 43,891 เมื่อครั้งเลือกตั้ปี 2550 ที่ผ่านมา โดย อ.ศรีสัชนาลัย ได้ 15,071 อ.ศรีนคร ได้ 5,047 และ อ.สวรรคโลก ได้ 9,040 คะแนน มาเลือกตั้งหนนี้ ยังได้กระแสพรรคหนุนอีกด้วย
เขตนี้นับว่าการแข่งขันรุนแรงที่สุด ล่าสุด มีการยิ่งถล่มบ้าน 2 หัวคะแนนคนสำคัญของ “มนู พุกประเสริฐ”ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้
