มีท่านผู้อ่านถามว่า หลังเลือกตั้งแล้ว พวกนักการเมืองพันธุ์โกงชาติเขาจะปรองดองกันได้ไหม ตอบสั้นๆ ว่า พวกเขามีโอกาสจะปรองดองกันได้หากว่าประโยชน์ลงตัว แท้จริงทุกพรรคการเมืองในขณะนี้ล้วนเป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเหมือนกันหมด ที่ขัดแย้งกันนั้น เพราะแย่งชิงอำนาจเพื่อเอาทรัพย์สมบัติแห่งชาติและประชาชนเอาไปเป็นของพวกเขา ดุจดังสุนัข คือเมื่อกินอาหารมันจะแย่งกัน ฟัดกัดกันเอง แต่หลังจากนั้นมันจะเล่นหยอกล้อกัน เห็นภาพเลยใช่ไหมว่า มันไม่ต่างจากสุนัขเลย
หากพวกเขาสามัคคีกันได้ ถามว่าชาติและประชาชนจะได้อะไร ตอบว่าโจรสามัคคีกันชาติและประชาชนยิ่งเสียหายหนัก ใครจะขัดขวาง
หากดูนโยบายของพวกพรรคเผด็จการเหล่านั้น พรรคเพื่อ (ใคร)ไทยก็ดี พรรคประชาธิปัตย์ก็ดี ยังไม่มีพรรคใด พรรคไหนๆ รู้เลยว่า เหตุแห่งความหายนะของชาติคืออะไร
แล้วร่วมมือกันขจัดจอมโจร มันเป็นอย่างไร จอมโจรคือระบอบเผด็จการอันเป็นเหตุแห่งความฉิบหายของชาติและประชาชน นั้นก็คือ การเมืองการปกครองที่ไม่มีหลักการปกครองหรือระบอบฯ แสดง เชิดชู หรือโชว์ ให้เห็น มีเพียงรัฐธรรมนูญ คือ หมวดและมาตราต่างๆ แล้วพวกเขาโฆษณาชวนเชื่อว่า “นี่คือระบอบประชาธิปไตย”
ระบอบเผด็จการ หมายถึง ระบอบที่ไม่มีหลักการปกครอง (ระบอบ) หรือไม่มีระบอบ มีแต่เพียงกฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว เป็นความหลงผิดที่สุด คือ การที่ผู้ปกครองเข้าใจว่า รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย และการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่แท้ที่จริงยิ่งเป็นการกระชับความเป็นเผด็จการมากขึ้น กระชับผลประโยชน์ของผู้ปกครองมากขึ้น ประชาชนกลายเป็นพิธีกรรม (ทาส) ทางการเมือง ถูกบังคับให้ไปเลือกตั้ง ใครจะเป็นรัฐบาล ประชาชนก็ยังคงเดือดร้อนเหมือนเดิมและเดินตามกระบวนการเมืองเผด็จการต่อไป
ระบอบเผด็จการ คือระบอบที่อำนาจอธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อยคือคณะพรรคการเมืองของผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือ พรรคการเมืองและกลุ่มทุนเพียงหยิบมือเดียว
ระบอบเผด็จการมีหลายชนิด เช่น เผด็จการรัฐประหาร เผด็จการโดยคณะบุคคล เผด็จการรัฐธรรมนูญ บ้างที่เรียกว่าเป็น เผด็จการระบบรัฐสภา (Parliamentary System) (เพราะมีระบบรัฐสภาเป็นรูปการปกครอง (Form of Government) หากมีรูปการปกครองระบบประธานาธิบดี (Presidential System) ก็เรียกว่าเป็นเผด็จการระบบประธานาธิบดี อียิปต์ ปากีสถาน บังกลาเทศ เป็นต้น
ลักษณะระบอบเผด็จการ คือ ระบอบที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมหรือไม่มีจุดมุ่งหมายร่วมของปวงชนในชาติ จึงทำให้จุดมุ่งหมายของประชาชนในชาติแอบอิงยึดติดอยู่กับพรรคการเมืองและนักการเมือง จึงไม่รู้ว่าการเมืองที่ถูกต้องเป็นธรรมนั้นเป็นอย่างไร เมื่อไม่มีจุดมุ่งหมายร่วมของปวงชนในชาติ มีแต่จุดมุ่งหมายของพรรคและนักการเมือง ประชาชนจึงถูกจูงจมูก ถูกหลอกให้เป็นทาสทางการเมือง และนักการเมืองนำพาประชาชนไปสู่จุดมุ่งหมายของตนๆ จึงก่อให้เกิดความขัดแย้ง เพราะจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน ความขัดแย้งของคนในชาติจึงเริ่มขึ้นทันทีเมื่อมีรัฐธรรมนูญ เผด็จการรัฐประหารก็เกิดขึ้นตามมา ต่างเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกันอันเป็นที่มาของวงจรอุบาทว์
ลักษณะจุดมุ่งหมายของพรรคและบุคคลในทางการเมืองภายใต้ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ (จอมโจร) ร้อยพรรค ร้อยจุดมุ่งหมาย พันคนก็พันจุดมุ่งหมาย ต่างคนต่างไปตามกิเลสของตน กลายเป็นจุดมุ่งหมายที่ผิดและจอมปลอมทางการเมืองนั่นเอง ดังภาพ
แนวทางแก้ไขปัญหา มีทางเดียวในการขจัดจอมโจรอย่างสันติ สำหรับ ประเทศราชอาณาจักรอิสระ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นใคร พระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐ มีปัญญา มีหูตาอันกว้างไกล ทรงมีพระราชกรณีย์อันสำคัญยิ่งยวดยิ่งใหญ่เพื่อสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยมีสัมพันธภาพที่ถูกต้องยิ่งใหญ่สองลักษณะคือ
สัมพันธภาพที่หนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม (ธรรมาธิปไตย 9) เกิดสัมพันธภาพที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ของชาติระหว่าง หลักการปกครองธรรมาธิปไตยกับปวงชนในชาติ หรือระหว่างจุดมุ่งหมายร่วมกับปวงชนในชาติ
สัมพันธภาพที่สอง ระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตยกับรัฐธรรมนูญ หมวดและมาตราต่างๆ รัฐสภาแห่งชาติและผู้แทนปวงชนเป็นผู้ดำเนินการยกร่างหรือแก้รัฐธรรมนูญให้สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกับหลักการปกครองฯ ดังรูป
นี่คือ แนวทางเดียวเท่านั้นที่จะขจัดจอมโจรอย่างสันติ แก้ไขเหตุวิกฤตชาติ หากไม่ทำตามแนวทางนี้รับรองได้ว่า ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาผู้นั้นจะหญิงหรือชายก็จะกลายเป็นหัวหน้าแก๊งโจรและเป็นเสนาบดีโจรซ้ำรอยเดิม เฉกเช่น ทักษิณ, อภิสิทธิ์ นั่นเอง “โหวต โน กันเถอะเริ่มต้นขจัดจอมโจรอย่างสันติครับพี่น้อง”
หากพวกเขาสามัคคีกันได้ ถามว่าชาติและประชาชนจะได้อะไร ตอบว่าโจรสามัคคีกันชาติและประชาชนยิ่งเสียหายหนัก ใครจะขัดขวาง
หากดูนโยบายของพวกพรรคเผด็จการเหล่านั้น พรรคเพื่อ (ใคร)ไทยก็ดี พรรคประชาธิปัตย์ก็ดี ยังไม่มีพรรคใด พรรคไหนๆ รู้เลยว่า เหตุแห่งความหายนะของชาติคืออะไร
แล้วร่วมมือกันขจัดจอมโจร มันเป็นอย่างไร จอมโจรคือระบอบเผด็จการอันเป็นเหตุแห่งความฉิบหายของชาติและประชาชน นั้นก็คือ การเมืองการปกครองที่ไม่มีหลักการปกครองหรือระบอบฯ แสดง เชิดชู หรือโชว์ ให้เห็น มีเพียงรัฐธรรมนูญ คือ หมวดและมาตราต่างๆ แล้วพวกเขาโฆษณาชวนเชื่อว่า “นี่คือระบอบประชาธิปไตย”
ระบอบเผด็จการ หมายถึง ระบอบที่ไม่มีหลักการปกครอง (ระบอบ) หรือไม่มีระบอบ มีแต่เพียงกฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว เป็นความหลงผิดที่สุด คือ การที่ผู้ปกครองเข้าใจว่า รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย และการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่แท้ที่จริงยิ่งเป็นการกระชับความเป็นเผด็จการมากขึ้น กระชับผลประโยชน์ของผู้ปกครองมากขึ้น ประชาชนกลายเป็นพิธีกรรม (ทาส) ทางการเมือง ถูกบังคับให้ไปเลือกตั้ง ใครจะเป็นรัฐบาล ประชาชนก็ยังคงเดือดร้อนเหมือนเดิมและเดินตามกระบวนการเมืองเผด็จการต่อไป
ระบอบเผด็จการ คือระบอบที่อำนาจอธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อยคือคณะพรรคการเมืองของผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือ พรรคการเมืองและกลุ่มทุนเพียงหยิบมือเดียว
ระบอบเผด็จการมีหลายชนิด เช่น เผด็จการรัฐประหาร เผด็จการโดยคณะบุคคล เผด็จการรัฐธรรมนูญ บ้างที่เรียกว่าเป็น เผด็จการระบบรัฐสภา (Parliamentary System) (เพราะมีระบบรัฐสภาเป็นรูปการปกครอง (Form of Government) หากมีรูปการปกครองระบบประธานาธิบดี (Presidential System) ก็เรียกว่าเป็นเผด็จการระบบประธานาธิบดี อียิปต์ ปากีสถาน บังกลาเทศ เป็นต้น
ลักษณะระบอบเผด็จการ คือ ระบอบที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมหรือไม่มีจุดมุ่งหมายร่วมของปวงชนในชาติ จึงทำให้จุดมุ่งหมายของประชาชนในชาติแอบอิงยึดติดอยู่กับพรรคการเมืองและนักการเมือง จึงไม่รู้ว่าการเมืองที่ถูกต้องเป็นธรรมนั้นเป็นอย่างไร เมื่อไม่มีจุดมุ่งหมายร่วมของปวงชนในชาติ มีแต่จุดมุ่งหมายของพรรคและนักการเมือง ประชาชนจึงถูกจูงจมูก ถูกหลอกให้เป็นทาสทางการเมือง และนักการเมืองนำพาประชาชนไปสู่จุดมุ่งหมายของตนๆ จึงก่อให้เกิดความขัดแย้ง เพราะจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน ความขัดแย้งของคนในชาติจึงเริ่มขึ้นทันทีเมื่อมีรัฐธรรมนูญ เผด็จการรัฐประหารก็เกิดขึ้นตามมา ต่างเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกันอันเป็นที่มาของวงจรอุบาทว์
ลักษณะจุดมุ่งหมายของพรรคและบุคคลในทางการเมืองภายใต้ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ (จอมโจร) ร้อยพรรค ร้อยจุดมุ่งหมาย พันคนก็พันจุดมุ่งหมาย ต่างคนต่างไปตามกิเลสของตน กลายเป็นจุดมุ่งหมายที่ผิดและจอมปลอมทางการเมืองนั่นเอง ดังภาพ
แนวทางแก้ไขปัญหา มีทางเดียวในการขจัดจอมโจรอย่างสันติ สำหรับ ประเทศราชอาณาจักรอิสระ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นใคร พระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐ มีปัญญา มีหูตาอันกว้างไกล ทรงมีพระราชกรณีย์อันสำคัญยิ่งยวดยิ่งใหญ่เพื่อสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยมีสัมพันธภาพที่ถูกต้องยิ่งใหญ่สองลักษณะคือ
สัมพันธภาพที่หนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม (ธรรมาธิปไตย 9) เกิดสัมพันธภาพที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ของชาติระหว่าง หลักการปกครองธรรมาธิปไตยกับปวงชนในชาติ หรือระหว่างจุดมุ่งหมายร่วมกับปวงชนในชาติ
สัมพันธภาพที่สอง ระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตยกับรัฐธรรมนูญ หมวดและมาตราต่างๆ รัฐสภาแห่งชาติและผู้แทนปวงชนเป็นผู้ดำเนินการยกร่างหรือแก้รัฐธรรมนูญให้สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกับหลักการปกครองฯ ดังรูป
นี่คือ แนวทางเดียวเท่านั้นที่จะขจัดจอมโจรอย่างสันติ แก้ไขเหตุวิกฤตชาติ หากไม่ทำตามแนวทางนี้รับรองได้ว่า ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาผู้นั้นจะหญิงหรือชายก็จะกลายเป็นหัวหน้าแก๊งโจรและเป็นเสนาบดีโจรซ้ำรอยเดิม เฉกเช่น ทักษิณ, อภิสิทธิ์ นั่นเอง “โหวต โน กันเถอะเริ่มต้นขจัดจอมโจรอย่างสันติครับพี่น้อง”
