เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ ( 9 มิ.ย.) ที่บริเวณชั้น 7 อาคารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. ) ได้มีการจัดพิธีสงฆ์ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปีวันสถาปนาสำนักงาน กกต. โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ กกต.และ พล.อ. ศิรินทร์ ธูปกล่ำ อดีตประธาน กกต. มาร่วมงานด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงปาฐกถาธรรม ของพระราชญาณวิสิฐ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก อีกทั้งยังมีตัวแทนจากหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรต่างๆ อาทิ กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี เป็นจำนวนมาก
**กกต.แถลงผลงานรอบ 13 ปี
จากนั้นเวลา 14.00 น. ทางกกต. ได้ร่วมกันแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา โดยนายอภิชาต กล่าวในตอนหนึ่งว่า กกต.ทำงานด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม พนักงานทุกคนเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยกันสนับสนุน และนำพาประเทศให้ก้าวไปสู่สังคมแห่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
การทำงานตลอด 13 ปีที่ผ่านมา กกต.มุ่งมั่นส่งเสริมให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้ได้คนดีมีความสามารถเข้ามาบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่มีการแจ้งความเท็จ สร้างพยานหลักฐานใส่ร้ายผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม มีพยานเท็จ ประเด็นนี้ กกต.ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลการดำเนินคดี กับผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ระหว่าง 1 พ.ค.53 ถึง 30 เม.ย. 54 มีจำนวน 222 คดี แบ่งเป็น คดีอาญาตามมติ กกต. กับผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น (ส.ถ.) และผู้บริหารท้องถิ่น (ผ.ถ.) 152 คดี ดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้ง ส.ถ.และผ.ถ.ใหม่ จำนวน 46 คดี การดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษแทนนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ดำเนินคดีอาญากับพรรคการเมือง จำนวน 16 คดี และการดำเนินคดีทางปกครองกับองค์การเอกชน จำนวน 8 คดี
** กกต.ครวญเลือกตั้งครั้งนี้หนักสุด
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารพรรคการเมือง กล่าวว่า ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นศึกหนักมากที่สุดตั้งแต่มี กกต. ขึ้นมา เพราะการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 2544, 2548 และ 2550 คนในสังคมไม่มีความคิดเห็นแตกแยก แตกต่าง หรือมีเหตุการณ์ที่รุนแรงหนักหน่วงเท่ากับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะหลังจากเปิดฉากการเลือกตั้งขึ้นมา ก็มีกระแสข่าวว่า ประธานกกต. ดอดไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เท่ากับว่าเป็นการจ้องเล่นงานกรรมการผู้ควบคุมการเลือกตั้ง จึงฝากสื่อมวลชนช่วยดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
อย่างไรก็ตาม กกต.ยืนยันว่าจะทำหน้าที่การจัดการเลือกตั้งให้ดีที่สุด ไม่โกง เพราะต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแก้ไขให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจของประชาชนโดยแท้จริง รวมถึงให้ทุกฝ่ายยอมรับฉันทามติของประชาชนที่ได้ตัดสินใจ
** กกต.ถูกขู่หลังมีข่าวจะแจกใบแดง
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย กล่าวถึงการแจ้งเบาะแสการทุจริตการเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า ขณะนี้มีการแจ้งเข้ามาแล้ว 138 เรื่อง มีทั้งเรื่องการให้เงิน เรื่องป้ายหาเสียงเกินจำนวน การจัดงานเลี้ยง เก็บบัตรประจำตัวประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง
เมื่อมีการร้องเรียนมา เราก็ได้ลงไปในพื้นที่ทันที เพื่อสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงลึก และขณะนี้รับเป็นเรื่องร้องคัดค้านแล้ว 21 เรื่อง มีทั้งการหลอกลวง ใส่ร้าย ติดป้ายหาเสียงในที่เอกชน ให้เงิน ดังนั้นกรณีเหล่านี้ กกต.จะมีการตรวจสอบด้วยความรอบคอบ เพราะเกรงว่าจะมีการกลั้นแกล้งกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็จะเร่งทำสำนวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งจะมีการประสานงานโดยศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ( ศอส.) เดิม กกต.ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ถ้าจะให้เปิดสภาได้จะต้องมีใบแดง-เหลือง ไม่เกิน 25 ใบ แต่เมื่อมีการตั้งศูนย์ฯปฏิบัติการจริงๆ ดูแล้วน่าจะไม่ถึง เพราะดูแล้วผู้สมัครจะเกรงๆ เราอยู่บ้าง
"เมื่อผู้สมัครรู้มาว่ากกต.จะให้ใบแดง ที่ภาคอีสาน ก็มีการข่มขู่มายังพนักงานกกต. ตอนแรกก็พูดเสนอให้เงิน แต่พอปฏิเสธไปหลายครั้ง ก็ข่มขู่ว่า ถ้าไม่เอาเงิน ก็เรียมตัวกลับบ้าน ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ของกกต.หวั่นไหว และได้รายงานมาให้กกต.ได้ทราบ จึงได้ส่งคนลงไปช่วยดูแล เพื่อให้เกิดความมั่นใจ" นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ จ.ศรีสะเกษ ทางกกต.จังหวัด จะเสนอใบแดงมาเมื่อใด ให้กกต.พิจารณา นายสมชัย กล่าวว่า ที่ จ.ศรีสะเกษ ตนยังไม่ได้บอกว่าจะแจกใบแดง เพียงแต่บอกว่า ได้รับรายงานมา ดูแล้วมีแนวโน้มที่จะให้ใบแดงได้เท่านั้น
"เพียงเขารู้ว่าจะแจกใบแดง ก็มีความพยายามไปข่มขู่พนักงานสืบสวนสอบสวนของเรา ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่รายงานเขามาจริง จะไม่แจกใบแดงได้อย่างไร เพราะเป็นการข่มขู่เจ้าหน้าที่ ก็ต้องโดนอีก 1 กระทง ดังนั้นขอเตือนพรรคการเมือง ไม่ว่า จะเป็นพรรคการเมืองใด ขออย่าให้มีพฤติกรรมเช่นนี้ ถ้าจะข่มขู่กกต.สามารถทำได้ แต่ขออย่าไปข่มขู่พนักงานสืบสวนสอบสวน ถ้าเขารายงานเข้ามา กกต.ก็จะให้ไปแจ้งความ และกกต.ไม่ยอมที่จะให้ผู้สมัครมาข่มขู่เจ้าพนักงานของกกต.ได้ " นายสมชัย กล่าว และว่า หากมีการดำเนินการเช่นนั้นจริงก็ทำให้กกต.มีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าแล้วมีการดำเนินการจริง เพราะฉะนั้นการข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐนั้นไม่ถูก ไม่ควรปล่อยให้เกิดเช่นนี้อย่างที่ จ.ศรีสะเกษ
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การที่จะให้ใบแดง ก็จะต้องเรียกผู้ถูกร้องมารับทราบข้อกล่าวหาก่อน เพื่อความเป็นธรรม แต่หากยังมีการมาข่มขู่พนักงานอีก 1 ข้อหาด้วย หากไม่มา ก็ถือว่าเป็นการไม่ติดใจ กกต.ใช้อำนาจพิจารณาได้เลย แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะสามารถแจกใบแดงเมื่อใด อย่างไรก็ตามตน ก็ยังกลัวในช่วงโค้งสุดท้ายที่อาจจะมี กกต. อาจจะมีห่ากระสุนสาดเข้ามายัง กกต.ซึ่งเกรงว่าจะรับไม่ไหว ถึงตอนนั้นถ้ามีจริงก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีกระสุนเช่นกัน
---------------
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงปาฐกถาธรรม ของพระราชญาณวิสิฐ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก อีกทั้งยังมีตัวแทนจากหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรต่างๆ อาทิ กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี เป็นจำนวนมาก
**กกต.แถลงผลงานรอบ 13 ปี
จากนั้นเวลา 14.00 น. ทางกกต. ได้ร่วมกันแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา โดยนายอภิชาต กล่าวในตอนหนึ่งว่า กกต.ทำงานด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม พนักงานทุกคนเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยกันสนับสนุน และนำพาประเทศให้ก้าวไปสู่สังคมแห่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
การทำงานตลอด 13 ปีที่ผ่านมา กกต.มุ่งมั่นส่งเสริมให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้ได้คนดีมีความสามารถเข้ามาบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่มีการแจ้งความเท็จ สร้างพยานหลักฐานใส่ร้ายผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม มีพยานเท็จ ประเด็นนี้ กกต.ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลการดำเนินคดี กับผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ระหว่าง 1 พ.ค.53 ถึง 30 เม.ย. 54 มีจำนวน 222 คดี แบ่งเป็น คดีอาญาตามมติ กกต. กับผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น (ส.ถ.) และผู้บริหารท้องถิ่น (ผ.ถ.) 152 คดี ดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้ง ส.ถ.และผ.ถ.ใหม่ จำนวน 46 คดี การดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษแทนนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ดำเนินคดีอาญากับพรรคการเมือง จำนวน 16 คดี และการดำเนินคดีทางปกครองกับองค์การเอกชน จำนวน 8 คดี
** กกต.ครวญเลือกตั้งครั้งนี้หนักสุด
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารพรรคการเมือง กล่าวว่า ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นศึกหนักมากที่สุดตั้งแต่มี กกต. ขึ้นมา เพราะการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 2544, 2548 และ 2550 คนในสังคมไม่มีความคิดเห็นแตกแยก แตกต่าง หรือมีเหตุการณ์ที่รุนแรงหนักหน่วงเท่ากับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะหลังจากเปิดฉากการเลือกตั้งขึ้นมา ก็มีกระแสข่าวว่า ประธานกกต. ดอดไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เท่ากับว่าเป็นการจ้องเล่นงานกรรมการผู้ควบคุมการเลือกตั้ง จึงฝากสื่อมวลชนช่วยดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
อย่างไรก็ตาม กกต.ยืนยันว่าจะทำหน้าที่การจัดการเลือกตั้งให้ดีที่สุด ไม่โกง เพราะต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแก้ไขให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจของประชาชนโดยแท้จริง รวมถึงให้ทุกฝ่ายยอมรับฉันทามติของประชาชนที่ได้ตัดสินใจ
** กกต.ถูกขู่หลังมีข่าวจะแจกใบแดง
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย กล่าวถึงการแจ้งเบาะแสการทุจริตการเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า ขณะนี้มีการแจ้งเข้ามาแล้ว 138 เรื่อง มีทั้งเรื่องการให้เงิน เรื่องป้ายหาเสียงเกินจำนวน การจัดงานเลี้ยง เก็บบัตรประจำตัวประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง
เมื่อมีการร้องเรียนมา เราก็ได้ลงไปในพื้นที่ทันที เพื่อสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงลึก และขณะนี้รับเป็นเรื่องร้องคัดค้านแล้ว 21 เรื่อง มีทั้งการหลอกลวง ใส่ร้าย ติดป้ายหาเสียงในที่เอกชน ให้เงิน ดังนั้นกรณีเหล่านี้ กกต.จะมีการตรวจสอบด้วยความรอบคอบ เพราะเกรงว่าจะมีการกลั้นแกล้งกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็จะเร่งทำสำนวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งจะมีการประสานงานโดยศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ( ศอส.) เดิม กกต.ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ถ้าจะให้เปิดสภาได้จะต้องมีใบแดง-เหลือง ไม่เกิน 25 ใบ แต่เมื่อมีการตั้งศูนย์ฯปฏิบัติการจริงๆ ดูแล้วน่าจะไม่ถึง เพราะดูแล้วผู้สมัครจะเกรงๆ เราอยู่บ้าง
"เมื่อผู้สมัครรู้มาว่ากกต.จะให้ใบแดง ที่ภาคอีสาน ก็มีการข่มขู่มายังพนักงานกกต. ตอนแรกก็พูดเสนอให้เงิน แต่พอปฏิเสธไปหลายครั้ง ก็ข่มขู่ว่า ถ้าไม่เอาเงิน ก็เรียมตัวกลับบ้าน ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ของกกต.หวั่นไหว และได้รายงานมาให้กกต.ได้ทราบ จึงได้ส่งคนลงไปช่วยดูแล เพื่อให้เกิดความมั่นใจ" นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ จ.ศรีสะเกษ ทางกกต.จังหวัด จะเสนอใบแดงมาเมื่อใด ให้กกต.พิจารณา นายสมชัย กล่าวว่า ที่ จ.ศรีสะเกษ ตนยังไม่ได้บอกว่าจะแจกใบแดง เพียงแต่บอกว่า ได้รับรายงานมา ดูแล้วมีแนวโน้มที่จะให้ใบแดงได้เท่านั้น
"เพียงเขารู้ว่าจะแจกใบแดง ก็มีความพยายามไปข่มขู่พนักงานสืบสวนสอบสวนของเรา ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่รายงานเขามาจริง จะไม่แจกใบแดงได้อย่างไร เพราะเป็นการข่มขู่เจ้าหน้าที่ ก็ต้องโดนอีก 1 กระทง ดังนั้นขอเตือนพรรคการเมือง ไม่ว่า จะเป็นพรรคการเมืองใด ขออย่าให้มีพฤติกรรมเช่นนี้ ถ้าจะข่มขู่กกต.สามารถทำได้ แต่ขออย่าไปข่มขู่พนักงานสืบสวนสอบสวน ถ้าเขารายงานเข้ามา กกต.ก็จะให้ไปแจ้งความ และกกต.ไม่ยอมที่จะให้ผู้สมัครมาข่มขู่เจ้าพนักงานของกกต.ได้ " นายสมชัย กล่าว และว่า หากมีการดำเนินการเช่นนั้นจริงก็ทำให้กกต.มีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าแล้วมีการดำเนินการจริง เพราะฉะนั้นการข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐนั้นไม่ถูก ไม่ควรปล่อยให้เกิดเช่นนี้อย่างที่ จ.ศรีสะเกษ
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การที่จะให้ใบแดง ก็จะต้องเรียกผู้ถูกร้องมารับทราบข้อกล่าวหาก่อน เพื่อความเป็นธรรม แต่หากยังมีการมาข่มขู่พนักงานอีก 1 ข้อหาด้วย หากไม่มา ก็ถือว่าเป็นการไม่ติดใจ กกต.ใช้อำนาจพิจารณาได้เลย แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะสามารถแจกใบแดงเมื่อใด อย่างไรก็ตามตน ก็ยังกลัวในช่วงโค้งสุดท้ายที่อาจจะมี กกต. อาจจะมีห่ากระสุนสาดเข้ามายัง กกต.ซึ่งเกรงว่าจะรับไม่ไหว ถึงตอนนั้นถ้ามีจริงก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีกระสุนเช่นกัน
---------------
