ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ศึกเลือกตั้งส.ส.ภูเก็ตเขต 2 ร้อนระอุ ภูมิใจไทยส่ง “จิรายุส ทรงยศ” ที่ได้แรงหนุนจากทีมงานนายกอบจ.ภูเก็ต ชิงเก้าอี้ “เรวัต อารีรอบ” พรรคประชาธิปัตย์ สองฝ่ายพร้อมสู้เต็มที่ไม่มีใครยอมใครในศึกครั้งนี้ โอกาสนั่งเก้าอี้ส.ส.ภูเก็ตมีทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับกระแสและกระสุนกว่าใครจะยิงเข้าเป้ากว่ากัน
สนามเลือกตั้งส.ส.ภูเก็ตไม่ต่างจากพื้นที่อื่นในภาคใต้ ที่พรรคประชาธิปัตย์ยึดเก้าอี้ส.ส.ไว้เกือบทั้งหมด การเลือกตั้งครั้งนี้ก็เช่นกัน พรรคประชาธิปัตย์มั่นอกมั่นใจว่าจะสามารถรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ทั้งหมด
จ.ภูเก็ตก็เป็นพื้นที่หนึ่งที่มั่นใจว่าจะสามารถรักษาเก้าอี้ส.ส.เดิมไว้ได้ทั้งสองตัวเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา จึงได้ตัดสินใจส่ง “นางอัญชลี วานิช เทพบุตร” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และอดีตส.ส.ภูเก็ต หลายสมัย ลงรักษาเก้าอี้ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ตทั้งหมด ยกเว้น ต.รัษฎา และ ต.เกาะแก้ว แทน “นายทศพร เทพบุตร” ส.ส.ภูเก็ตในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา สามีนางอัญชลี ที่ประกาศตัวอำลาวงการเมืองเด็ดขาด เพื่อให้เวลาแก่ลูกที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นให้มากขึ้น เพราะตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ส.ส.ภูเก็ตและนางอัญชลีทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีเวลาให้ลูกน้อยมาก รวมทั้งต้องการทำในสิ่งที่ตัวเองชอบคือการทำสวนยางพารา
เขตเลือกตั้งที่ 1 นางอัญชลี ชนกับ “นายวิสิษฐ์ ใจอาจ” จากพรรคเพื่อไทย นักธุรกิจด้านขนส่งทางทะเล บริษัท นำชัย กรุ๊ป จำกัด ที่ได้แรงสนับสนุนจากนายแพทย์ประสิทธิ์ โกยศิริพงษ์ อดีตนายกอบจ.ภูเก็ต ที่เพิ่งชิมลางทางการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติเป็นครั้งแรก เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้สมัครรายเดิมของพรรคเพื่อไทย ทั้งนางศรีญาดา ชินวัตร และนายวิสุทธิ์ สันติกุล ได้อำลาวงการเมืองเช่นกัน ส่วนผู้สมัครอีก 2 ราย คือ นายวีรศักดิ์ วรเนติวงศ์ จากพรรคแทนคุณแผ่นดิน และนายจตุพงศ์ เลิศศิลป์จิราดา จากพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เป็นเพียงไม้ประดับที่จะช่วยสร้างสีสันทางการเมืองให้ภูเก็ตเท่านั้น
การชนกันระหว่างนางอัญชลี กับนายวิสิษฐ์ ถือเป็นมวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์ กอปรกับฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยในภูเก็ตเทียบไม่ได้กับฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมาคะแนนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทิ้งห่างพรรคเพื่อไทยชนิดไม่เห็นฝุ่น และในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนางอัญชลีทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีผลงานปรากฏชัดเจน ด้วยการผลักดันงบประมาณมาพัฒนาจังหวัดภูเก็ตในหลายๆโครงการที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ตพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น เช่น โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ด้วยงบประมาณ 2,600 ล้านบาท โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง การขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตที่เกิดขึ้นในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลและอีกหลายๆโครงการ
คอการเมืองฟันธงได้เลยว่านางอัญชลีเอาชนะนายวิสิษฐ์ ได้แบบลอยลำ ชนิดนอนมา ท่ามกลางกระแสข่าว “เอาพรรค...ไม่เอาคน” ลือสะพัดมาก่อนการเลือกตั้ง และมีกลุ่มที่ต้องการจะโค่นนางอัญชลีให้พ้นจากการเมืองภูเก็ต ได้ผนึกกำลังสนับสนุนหาเสียงเทคะแนนให้ นายวิสิษฐ์ ใจอาจ ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 และหาเสียงเทคะแนนให้นายจิรายุส ทรงยศ จากพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 แต่เชื่อว่าสู้ฐานเสียงของนางอัญชลี ที่ได้วางรากลึกไว้ไม่ได้ ทำให้การแข่งขันในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ของภูเก็ตไม่ดุเดือดเลือดพล่านเหมือนเขตเลือกตั้งที่ 2
เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นพื้นที่ที่ถูกจับตามองมากที่สุด และเป็นพื้นที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่ามีการแข่งขันสูงในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเรื่องของความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง การซื้อเสียง รวมไปถึงกลยุทธ์ทางการเมืองต่างๆ ที่ต่างฝ่ายงัดขึ้นมาต่อสู้
เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นการต่อสู้ห้ำหั่นกันระหว่าง “นายเรวัต อารีรอบ” ส.ส.ภูเก็ต จากพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยที่ผ่านมา กับ “นายจิรายุส ทรงยศ” ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จากพรรคภูมิใจไทย ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติเป็นครั้งแรก ส่วนผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย “นายสมาน เก็บทรัพย์” เป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น
การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาซึ่งเป็นการเลือกตั้งรวมทั้งจังหวัด นายเรวัต อารีรอบ ลงคู่กับนายทศพร เทพบุตร สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร ได้รับคะแนนเสียงจากชาวภูเก็ตกว่า 90,000 คะแนน การเลือกตั้งครั้งนี้นายเรวัตลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 ที่ครอบคลุมพื้นที่ ต.รัษฎา ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต อ.ถลาง และอ.กะทู้ ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วทั้งเกาะภูเก็ต ขณะที่ฐานเสียงหลักของตัวนายเรวัตเองอยู่ในพื้นที่เขต 1 ที่ฉลองและราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต
การที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติส่งนายเรวัตลงรักษาเก้าอี้ส.ส.ของพรรคในเขต 2 นั้น เพราะมั่นใจในฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะได้รับการไว้วางใจจากชาวภูเก็ตเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านที่ยังเหนียวแน่นกับนางอัญชลีไม่เสื่อมคลาย เดินหน้าหาเสียงด้วยนโยบายเพื่อประชาชน พร้อมกับโหมโรงตั้งแต่หัววันด้วยการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ปลายแหลมสะพานหิน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขนขุนพลภาคใต้ของพรรค ทั้งสุเทพ เทือกสุบรรณ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ฯลฯ มาเพียบ
เวทีนี้ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อชาวภูเก็ตแห่กันมาร่วมฟังการปราศรัยอย่างล้นหลามจนแน่นบริเวณลานสะพานหิน เขย่าขวัญคู่ต่อสู้ได้ไม่น้อย ว่าฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ยังแน่นปึ้ก และโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดเวทีหาเสียงช่วยนายเรวัตในที่พื้นเขต 2 อีกครั้ง ครั้งนี้นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ นำทีมมาด้วยตัวเอง เพื่อเรียกคะแนนในโค้งสุดท้าย
การเลือกตั้งในเขต 2 ครั้งนี้ ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แข่งกับนางศรีญาดา ชินวัตร หรือ นายวิสุทธิ์ สันติกุล จากพรรคเพื่อไทยเหมือนทุกครั้ง ที่รู้ๆกันอยู่ว่าคนใต้และคนภูเก็ตไม่เอาพรรคเพื่อไทย แต่คราวนี้ถือว่าเป็นสนามที่หินอยู่ไม่น้อยสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพรรคภูมิใจไทยที่มีฐานเสียงอยู่ในภาคอีสาน ส่ง“นายจิรายุส ทรงยศ” ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ท้าชิงเก้าอี้ส.ส.ภูเก็ตเขต 2 จากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยเองก็ได้ประกาศอย่างมั่นอกมั่นใจว่าจะปักธงที่ภูเก็ตเขต 2 ให้ได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้
นั่นเป็นเพราะทั้งนายจิรายุส และพรรคภูมิใจไทย มั่นใจว่าจะสามารถเบียดเก้าอี้ส.ส.ภูเก็ตเขต 2 จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ เพราะนายจิรายุส ได้แรงสนับสนุนเต็มที่จากนายกองค์การบริหารจังหวัดภูเก็ตและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (ส.อบจ.) ที่สามารถล้มช้างอย่างนางอัญชลี วานิช เทพบุตร มาแล้วในศึกชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และมั่นใจว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถล้มเก้าอี้ส.ส.เดิมของพรรคประชาธิปัตย์ลงได้อีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการปูทางสู่เส้นทางการเมืองให้แก่นายจิรายุสก่อนที่จะเปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ภูเก็ตในนามพรรคภูมิใจไทย มาระยะหนึ่งแล้ว ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกอบจ.ภูเก็ต และผู้จัดการทีมฟุตบอลเอฟซี ภูเก็ต ลงพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 พบปะชาวบ้านมาโดยตลอด พร้อมทั้งส่งทีมงาน ส.อบจ. ที่มีฐานเสียงในการเลือกตั้งอบจ.อยู่แล้ว ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อดีตผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีฐานเสียงอยู่ในพื้นที่ สนับสนุนหาเสียงช่วยนายจิรายุสอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายโค่นพรรคประชาธิปัตย์ในภูเก็ตให้ได้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
นายจิรายุสเองก็มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถเบียดเก้าอี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ เพราะเชื่อมั่นที่ได้ทำงานร่วมกับนายกอบจ.ภูเก็ตมาตลอดเวลา 3 ปี ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างใกล้ชิด และเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของชาวบ้าน แม้ว่ากระแสพรรคภูมิใจไทยจะไม่สามารถขายได้ในภูเก็ตก็ตาม การหาเสียงจึงไม่เน้นที่นโยบายของพรรค แต่จะเน้นไปที่ตัวของนายจิรายุส เป็นหลัก พร้อมกับนโยบายในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวผ่านทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดละ 100 ล้านบาทต่อปี ซึ่งนโยบายนี้สอดรับกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต
เขตเลือกตั้งที่ 2 ภูเก็ตในครั้งนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมแพ้ในศึกนี้ พร้อมที่จะห้ำหั่นกันทุกรูปแบบ ทั้งนายเรวัต และ นายจิรายุส มีโอกาสที่จะนั่งเก้าอี้ส.ส.ภูเก็ตในสภาด้วยกันทั้งคู่ ทั้งนี้และทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับกระแส แล ะกระสุน ของทั้งสองฝ่ายว่าใครจะยิงเข้าเป้ามากกว่ากัน