พันธมิตรฯโคราช สุดทน รวมตัวบุก กกต.จังหวัดฯ จี้ขอคำตอบ หลังมีหนังสือลึกลับอ้าง กกต.ขู่ให้ปลดป้ายโหวตโน “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” พร้อมเทศบาลนครฯ อ้างถูกกกต.สั่ง ลอบรื้อป้ายหลาย 10 จุด ด้านหน.ฝ่ายสอบสวน กกต.จังหวัดฯ ปฏิเสธไม่เคยมีหนังสือใครหรือหน่วยงานใด ก่อนบุกเทศบาลนครนครราชสีมาขอคืนป้ายโหวตโนอื้อ เผยไม่ท้อเดินหน้าจัดหนักเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ยันเปิดเวทีใหญ่ 11 มิ.ย. นี้
วานนี้(8 มิ.ย.)ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำจังหวัดนครราชสีมา หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)จังหวัดนครราชสีมากว่า 80 คน นำโดยนายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ประธาน พธม.นครราชสีมา ได้เดินทางมาชุมนุมพร้อมชูป้ายรณรงค์โหวตโน เพื่อทวงถามข้อเท็จจริงกรณีที่มีหนังสือเปิดผนึกหรือจดหมาย จาก กกต.นครราชสีมา ส่งถึง กลุ่ม พธม.นครราชสีมา ให้ปลดป้ายรณรงค์โหวตโน และป้าย “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ที่ติดตั้งอยู่บริเวณสี่แยกและจุดต่างๆ ออกทั้งหมด รวมทั้งทางเทศบาลนครนครราชสีมาอ้างว่าได้รับคำสั่งจาก กกต.นครราชสีมา ให้ดำเนินการรื้อเก็บป้ายรณรงค์โหวตโน ในเขตเทศบาลนครฯ เช่นกัน
โดยทาง กกต.นครราชสีมาได้ส่ง นายกนก สิริเพ็ญโสภา หัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.ออกมารับหนังสือจากกลุ่ม พธม.พร้อมชี้แจงว่า กกต.จังหวัดนครราชสีมาไม่เคยมีหนังสือหรือ จดหมายไปยังพรรคการเมืองใดหรือกลุ่มใด ให้ทำการรื้อถอนป้ายรณรงค์เกี่ยวกับการเลือกตั้งออก แต่การติดตั้งป้ายหาเสียงเลือกตั้งต่างๆ จะต้องขึ้นอยู่กับท้องถิ่นในการกำหนดจุดด้วยและป้ายรณรงค์เลือกตั้งจะต้องเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด คือ มีชื่อพรรคการเมืองชัดเจน แต่หากทำถูกต้องตามหลักการดังกล่าวข้างต้นแล้วถูกผู้ไม่หวังดีเก็บป้ายไป ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
นายสุพจน์ กล่าวว่า การเดินทางมาที่ กกต.ครั้งนี้เพื่อต้องการความชัดเจน เนื่องจากป้ายรณรงค์โหวตโนของพรรคเพื่อฟ้าดินถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครนครราชสีมาเก็บไปหลายสิบป้าย โดยอ้างว่า กกต.จังหวัดฯเป็นคนสั่งให้เก็บ ฉะนั้นวันนี้จึงมาทวงถามข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการปฏิเสธจาก กกต.จังหวัดว่าไม่เคยมีคำสั่งหรือมีหนังสือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดให้เก็บป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง แต่หากป้ายใดไม่ได้ติดอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดก็เป็นหน้าที่ของเทศกิจที่จะดำเนินการเอง
“ทางกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคเพื่อฟ้าดินยืนยันว่า ทุกป้ายที่ถูกเทศกิจเก็บไปล้วนอยู่ใน 104 จุดที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมากำหนดให้ติดตั้งป้าย และ ป้ายของพรรคการเมืองอื่นที่ติดตั้งอยู่ด้วยกันก็ไม่เห็นว่าจะถูกเก็บไปเลย ซึ่งอาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าหน้าที่หรือตั้งใจทำ แต่หากเราสืบทราบว่าเป็นการเจตนาเก็บป้ายดังกล่าวไปทำลาย เราคงไม่ยอมและจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที"
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีหนังสือเปิดผนึก 1 ฉบับ ไปฝากไว้ที่ร้านอาหารของตน โดยอ้างว่าเป็นจดหมายจาก กกต.จังหวัดนครราชสีมา ส่งถึง กลุ่ม พธม. ให้ปลดป้ายรณรงค์โหวตโน รวมถึงป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาออกทั้งหมด แต่ไม่มีการลงชื่อบุคคลใดในจดหมายดังกล่าว ซึ่งวันนี้ตนได้นำมาให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.ได้ดูแล้ว ซึ่งได้ปฏิเสธยืนยันว่าไม่ใช่ของ กกต.จังหวัดแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปลดป้ายรณรงค์โหวตโนออกไป หรือทำลายป้ายเราก็ตาม กลุ่ม พธม.โคราชยังคงเดินหน้ารณรงค์โหวตโนต่อเนื่องและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ จะมีการรณรงค์โหวตโนครั้งใหญ่และจัดกิจกรรมตลอดทั้งวัน ในภาคเช้าจะจัดขบวนเดินรณรงค์โหวตโนไปตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อเชิญชวนประชาชนออกมาแสดงพลังด้วยการโหวตโนในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ให้มากที่สุด
ส่วนช่วงบ่ายมีการจัดเวทีเสวนา ของผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทย และ แกนนำ พธม.จากส่วนกลาง เช่น นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นายเทิดภูมิ ใจดี เป็นต้น ที่โรงแรมจอมสุรางค์ ตรงข้ามตลาดไนท์บาซาร์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ทุกสี เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์โหวตโนได้ทั้งภาคเช้าและบ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังยื่นหนังสือ กับ กกต.นครราชสีมา แล้ว กลุ่ม พธม.นครราชสีมาได้เคลื่อนขบวนเดินทางไปยังเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อทวงถามเรื่องการรื้อป้ายรณรงค์โหวตโน ซึ่ง นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ติดประชุมพร้อมแจ้งให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เทศกิจเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ให้ตัวแทน พธม. เข้าไปดูป้ายภายในโกดังของเทศบาล ซึ่งมีทั้งป้ายหาเสียงผู้สมัครรายอื่นและป้ายรณรงค์โหวตโนกองอยู่จำนวนหลายสิบป้าย
โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า ป้ายดังกล่าวร่วงหล่นลงมาจากที่ติดตั้งและบางส่วนถูกทำลายจนหลุดลงมากองอยู่บนพื้นดิน เพื่อไม่ให้เกะกะทำให้ทัศนียภาพของเมืองเสียเจ้าหน้าที่จึงเก็บมาไว้ที่โกดังแห่งนี้ไม่ใช่เป็นการขึ้นไปรื้อปลดป้ายลงมาของเจ้าหน้าที่เทศกิจแต่อย่างใดและทุกพรรคการเมืองสามารถมาขอคืนได้ จากนั้นกลุ่ม พธม. จึงได้ขอนำป้ายรณรงค์โหวตโนดังกล่าวกลับคืน ก่อนสลายตัวกันกลับบ้านด้วยความสงบเรียบร้อย
วานนี้(8 มิ.ย.)ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำจังหวัดนครราชสีมา หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)จังหวัดนครราชสีมากว่า 80 คน นำโดยนายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ประธาน พธม.นครราชสีมา ได้เดินทางมาชุมนุมพร้อมชูป้ายรณรงค์โหวตโน เพื่อทวงถามข้อเท็จจริงกรณีที่มีหนังสือเปิดผนึกหรือจดหมาย จาก กกต.นครราชสีมา ส่งถึง กลุ่ม พธม.นครราชสีมา ให้ปลดป้ายรณรงค์โหวตโน และป้าย “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ที่ติดตั้งอยู่บริเวณสี่แยกและจุดต่างๆ ออกทั้งหมด รวมทั้งทางเทศบาลนครนครราชสีมาอ้างว่าได้รับคำสั่งจาก กกต.นครราชสีมา ให้ดำเนินการรื้อเก็บป้ายรณรงค์โหวตโน ในเขตเทศบาลนครฯ เช่นกัน
โดยทาง กกต.นครราชสีมาได้ส่ง นายกนก สิริเพ็ญโสภา หัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.ออกมารับหนังสือจากกลุ่ม พธม.พร้อมชี้แจงว่า กกต.จังหวัดนครราชสีมาไม่เคยมีหนังสือหรือ จดหมายไปยังพรรคการเมืองใดหรือกลุ่มใด ให้ทำการรื้อถอนป้ายรณรงค์เกี่ยวกับการเลือกตั้งออก แต่การติดตั้งป้ายหาเสียงเลือกตั้งต่างๆ จะต้องขึ้นอยู่กับท้องถิ่นในการกำหนดจุดด้วยและป้ายรณรงค์เลือกตั้งจะต้องเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด คือ มีชื่อพรรคการเมืองชัดเจน แต่หากทำถูกต้องตามหลักการดังกล่าวข้างต้นแล้วถูกผู้ไม่หวังดีเก็บป้ายไป ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
นายสุพจน์ กล่าวว่า การเดินทางมาที่ กกต.ครั้งนี้เพื่อต้องการความชัดเจน เนื่องจากป้ายรณรงค์โหวตโนของพรรคเพื่อฟ้าดินถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครนครราชสีมาเก็บไปหลายสิบป้าย โดยอ้างว่า กกต.จังหวัดฯเป็นคนสั่งให้เก็บ ฉะนั้นวันนี้จึงมาทวงถามข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการปฏิเสธจาก กกต.จังหวัดว่าไม่เคยมีคำสั่งหรือมีหนังสือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดให้เก็บป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง แต่หากป้ายใดไม่ได้ติดอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดก็เป็นหน้าที่ของเทศกิจที่จะดำเนินการเอง
“ทางกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคเพื่อฟ้าดินยืนยันว่า ทุกป้ายที่ถูกเทศกิจเก็บไปล้วนอยู่ใน 104 จุดที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมากำหนดให้ติดตั้งป้าย และ ป้ายของพรรคการเมืองอื่นที่ติดตั้งอยู่ด้วยกันก็ไม่เห็นว่าจะถูกเก็บไปเลย ซึ่งอาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าหน้าที่หรือตั้งใจทำ แต่หากเราสืบทราบว่าเป็นการเจตนาเก็บป้ายดังกล่าวไปทำลาย เราคงไม่ยอมและจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที"
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีหนังสือเปิดผนึก 1 ฉบับ ไปฝากไว้ที่ร้านอาหารของตน โดยอ้างว่าเป็นจดหมายจาก กกต.จังหวัดนครราชสีมา ส่งถึง กลุ่ม พธม. ให้ปลดป้ายรณรงค์โหวตโน รวมถึงป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาออกทั้งหมด แต่ไม่มีการลงชื่อบุคคลใดในจดหมายดังกล่าว ซึ่งวันนี้ตนได้นำมาให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.ได้ดูแล้ว ซึ่งได้ปฏิเสธยืนยันว่าไม่ใช่ของ กกต.จังหวัดแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปลดป้ายรณรงค์โหวตโนออกไป หรือทำลายป้ายเราก็ตาม กลุ่ม พธม.โคราชยังคงเดินหน้ารณรงค์โหวตโนต่อเนื่องและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ จะมีการรณรงค์โหวตโนครั้งใหญ่และจัดกิจกรรมตลอดทั้งวัน ในภาคเช้าจะจัดขบวนเดินรณรงค์โหวตโนไปตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อเชิญชวนประชาชนออกมาแสดงพลังด้วยการโหวตโนในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ให้มากที่สุด
ส่วนช่วงบ่ายมีการจัดเวทีเสวนา ของผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทย และ แกนนำ พธม.จากส่วนกลาง เช่น นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นายเทิดภูมิ ใจดี เป็นต้น ที่โรงแรมจอมสุรางค์ ตรงข้ามตลาดไนท์บาซาร์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ทุกสี เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์โหวตโนได้ทั้งภาคเช้าและบ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังยื่นหนังสือ กับ กกต.นครราชสีมา แล้ว กลุ่ม พธม.นครราชสีมาได้เคลื่อนขบวนเดินทางไปยังเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อทวงถามเรื่องการรื้อป้ายรณรงค์โหวตโน ซึ่ง นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ติดประชุมพร้อมแจ้งให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เทศกิจเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ให้ตัวแทน พธม. เข้าไปดูป้ายภายในโกดังของเทศบาล ซึ่งมีทั้งป้ายหาเสียงผู้สมัครรายอื่นและป้ายรณรงค์โหวตโนกองอยู่จำนวนหลายสิบป้าย
โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า ป้ายดังกล่าวร่วงหล่นลงมาจากที่ติดตั้งและบางส่วนถูกทำลายจนหลุดลงมากองอยู่บนพื้นดิน เพื่อไม่ให้เกะกะทำให้ทัศนียภาพของเมืองเสียเจ้าหน้าที่จึงเก็บมาไว้ที่โกดังแห่งนี้ไม่ใช่เป็นการขึ้นไปรื้อปลดป้ายลงมาของเจ้าหน้าที่เทศกิจแต่อย่างใดและทุกพรรคการเมืองสามารถมาขอคืนได้ จากนั้นกลุ่ม พธม. จึงได้ขอนำป้ายรณรงค์โหวตโนดังกล่าวกลับคืน ก่อนสลายตัวกันกลับบ้านด้วยความสงบเรียบร้อย