วานนี้(7มิ.ย.)นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า เรื่องการร้องเรียนขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแจ้งเบาะแส ว่ามีการซื้อสิทธิขายเสียงและมีข้าราการวางตัวไม่เป็นกลาง เช่น ในภาคอีสานที่มีมากที่สุด โดยแจ้งเข้ามานับเป็นร้อยเรื่อง เช่น ที่ศรีสะเกษ และสุรินทร์
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. เพื่อขอให้ทบทวนรูปแบบบัตรเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีรูปแบบแตกต่างกัน พบว่าบัตรเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีจำนวนช่องและรายชื่อพรรค รวมถึงช่องลงคะแนนจำนวน 2แถว แถวละ 20 ช่อง ส่วนบัตรเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีจำนวนช่องหมายเลขจำนวน 4แถว แถวละ15 ช่อง โดยทางพรรคชาติไทยพัฒนาเกรงว่าอาจจะสร้างความสับสนให้กับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว ตนขอตั้งคำถามว่าทำไมจึงไม่พิมพ์บัตรเลือกตั้งทั้งสองรูปแบบให้เหมือนกัน
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า บัตรเลือกตั้งที่จัดพิมพ์นั้น กกต.ได้พิมพ์ตามตัวอย่างบัตรที่แนบท้ายมาในประกาศดังกล่าว โดยบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อต้องพิมพ์ชื่อพรรคและเครื่องหมายพรรค ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตนั้นจัดพิมพ์โดยใช้จำนวนพรรคการเมืองที่จดทะเบียน ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 57 พรรค แต่ได้พิมพ์เพิ่มเติมไว้เป็น 60 หมายเลขพรรค ทั้งนี้โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดนได้จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าภายหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง เพราะเกรงว่าจะพิมพ์ไม่ทัน เนื่องจากต้องใช้เวลา30 วัน
“เชื่อว่าประชาชนจะไม่สับสน เพราะกกต.จะติดตัวอย่างบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แบบไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย โดยสามารถตรวจสอบได้ก่อนการลงคะแนน กกต.ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใด อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ตนเชื่อว่าประชาชนสามารถเข้าใจวิธีการลงคะแนนได้อย่างถูกต้อง รวมถึงกกต.จะดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ อย่างไรก็ตามรูปแบบบัตรเลือกตั้งก็เป็นรูปแบบเดิมเหมือนที่เคยจัดพิมพ์มา ซึ่งจะต่างกันที่สีและรหัสประจำบัตรเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต.กล่าวว่า รูปแบบของบัตรเลือกตั้งของบัตรเลือกตั้งตัวอย่าง กกต.จะสามารถเปิดเผยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทาบก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มิ.ย.นี้
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. เพื่อขอให้ทบทวนรูปแบบบัตรเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีรูปแบบแตกต่างกัน พบว่าบัตรเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีจำนวนช่องและรายชื่อพรรค รวมถึงช่องลงคะแนนจำนวน 2แถว แถวละ 20 ช่อง ส่วนบัตรเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีจำนวนช่องหมายเลขจำนวน 4แถว แถวละ15 ช่อง โดยทางพรรคชาติไทยพัฒนาเกรงว่าอาจจะสร้างความสับสนให้กับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว ตนขอตั้งคำถามว่าทำไมจึงไม่พิมพ์บัตรเลือกตั้งทั้งสองรูปแบบให้เหมือนกัน
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า บัตรเลือกตั้งที่จัดพิมพ์นั้น กกต.ได้พิมพ์ตามตัวอย่างบัตรที่แนบท้ายมาในประกาศดังกล่าว โดยบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อต้องพิมพ์ชื่อพรรคและเครื่องหมายพรรค ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตนั้นจัดพิมพ์โดยใช้จำนวนพรรคการเมืองที่จดทะเบียน ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 57 พรรค แต่ได้พิมพ์เพิ่มเติมไว้เป็น 60 หมายเลขพรรค ทั้งนี้โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดนได้จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าภายหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง เพราะเกรงว่าจะพิมพ์ไม่ทัน เนื่องจากต้องใช้เวลา30 วัน
“เชื่อว่าประชาชนจะไม่สับสน เพราะกกต.จะติดตัวอย่างบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แบบไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย โดยสามารถตรวจสอบได้ก่อนการลงคะแนน กกต.ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใด อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ตนเชื่อว่าประชาชนสามารถเข้าใจวิธีการลงคะแนนได้อย่างถูกต้อง รวมถึงกกต.จะดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ อย่างไรก็ตามรูปแบบบัตรเลือกตั้งก็เป็นรูปแบบเดิมเหมือนที่เคยจัดพิมพ์มา ซึ่งจะต่างกันที่สีและรหัสประจำบัตรเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต.กล่าวว่า รูปแบบของบัตรเลือกตั้งของบัตรเลือกตั้งตัวอย่าง กกต.จะสามารถเปิดเผยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทาบก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มิ.ย.นี้