นักการเมืองทำอะไรได้ทุกอย่าง ลวงตัวเองว่าเก่งกาจถึงขั้นลวงโลกได้ นึกว่าชาวบ้านโง่งม ไม่รู้ทัน หรือรู้ทั้งรู้ ก็ไม่ถือสา ถ้ามองเป็นเพียงเกมหาเสียงเลือกตั้ง
ช่วงนี้ชาวบ้านจึงได้พบเห็นพฤติกรรมแปลก บ้าๆ บอๆ ของนักซื้อเสียง ทำในสิ่งที่ไม่ใช่กิจวัตร หรือกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาตลอดชีวิต หน้าตายิ้มแย้ม เอาใจคนกาเบอร์
วันก่อน “น้องปู” น้องมินิสุดเลิฟของ “เหลี่ยม” โชว์หน้าตาแฉล้มใส่รองเท้าบูทไปตั้งท่ากลางนาให้สื่อรุมถ่ายภาพ ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี! ภาพของ “น้องมินิ” สาวชาวนาเทียม ได้ขึ้นหน้า 1 ของสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยไม่ซักถามว่าทำไมทุ่มเสแสร้ง
ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ยินคำว่า “แดงเทียม” แต่ “แดงแท้” ในพรรคเพื่อคนหนีคุกไม่ยอมบอกว่าสาวชาวนานั้นเป็น “ชาวนาเทียม” เป็นกิจกรรมเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น
จากนั้น “สาวชาวนา” ยกระดับเป็น “สาวอีแต๋น” จัดฉากใหม่ นั่งหน้าแป้นแล้น บนรถไถนา เด่นบนหน้า 1 ของสื่อสิ่งพิมพ์อีก เป็นความสำเร็จในการใช้ลูกเล่น ลูกล่อลูกชนการตลาด ตามประสาคนทำมาค้าขาย เก่งงานผ่องถ่ายเงินจากกระเป๋าชาวบ้าน
พวกทำโพลชอบเอาใจและเอาเงิน โหมกระหน่ำสำรวจความคิดเห็นชาวบ้านถี่ยิบ! โพนทะนาว่า “สาวอีแต๋น” ทิ้ง “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” แทบทุกมิติ ยกเว้นความเป็นผู้นำ การทำงานภาครัฐ! แต่เธอเก่งด้านดูดเงินลูกค้าโทรศัพท์มือถือ คนซื้อบ้าน ฮ่า!
“สาวอีแต๋น” ได้รับการยกชูโดยกลุ่มเชลียร์น้องเอาใจเหลี่ยม ว่าเป็นนักบริหารองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ถ้าชาวบ้านสติปัญญาไม่แข็งแรงคงเชื่อง่าย แล้วนั่งดูดหัวแม่มือต่อไป! ไม่คิดว่าถ้าคุณน้องปูไปสมัครงานองค์กรอื่น จะมีคนจ้างให้เป็นผู้บริหารอ๊ะป่าว
ใช้ทั้งความสาวหน้าใหม่ในการเมือง ความเป็นน้องเหลี่ยม ดีเอ็นเอเดียวกัน เป็นทางลัดเข้ายึดเบอร์ 1 ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ต้องพิสูจน์ความรู้ ความสามารถ ความดีให้ชาวบ้านได้เห็น สร้างกระแสนายกฯ หญิงคนแรกได้ลื่นไหลสักพัก “สาวอีแต๋น” ก็เริ่มแกว่ง
โดนความเก๋าเกมสไตล์โหดของค่ายสะตอไป 2-3 ดอก “สาวอีแต๋น” ก็ถูกทดสอบว่าจะทนแรงเสียดสีไปสู่เก้าอี้นายกฯ แล้วหาทางยกโทษให้พี่เหลี่ยมได้สำเร็จหรือไม่
หนุ่มมาร์คใช้กลยุทธ์การตลาดระดับรากหญ้าทำคะแนนตีตื้น รับบทหนุ่มนาข้าว ใส่เสื้อขาว ถลกขากางเกงดำนา ข้อมือขวาผูกด้ายสายสิญจน์ไม่เปียกน้ำ ก้มๆ เงยๆ “หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน” ได้รู้ว่าทำนานั้นยากกว่าเป็นนายกฯ หรือเล่นหนัง “มนต์รักลูกทุ่ง” เยอะ
หนุ่มมาร์คคงเป็นชาวนาคนแรก จบอีตั้นและปริญญาจากอ๊อกซฟอร์ด เป็นนายกฯ แล้วมาดำนา หาเสียงแบบนี้ฝรั่งเรียกว่าเป็นพวก “baby kisser” หรือพวกชอบอุ้มเด็กลูกชาวบ้านเอามาหอมแก้ม จุ๊บซ้าย จุ๊บขวา ฉีกยิ้มให้สื่อถ่ายภาพ ตีกินคะแนนง่ายๆ
พวก “baby kisser” คือพวกลวงโลก ลวงชาวบ้าน ยอมทำทุกอย่าง โดยไม่อาย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่กิจกรรมที่ตัวเองทำประจำ! ถ้าไม่ทำ จะโดนแซวว่าตีนไม่ติดดิน เป็นพวกคุณหนูผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดินบนคันนา กระทบไหล่ชาวชนบทไม่เนียนสายตา
เป็นธรรมชาติของนักการเมืองหาเสียงต้องฝืนใจทำกิจกรรมโชว์ เช่น ชงโอเลี้ยง ผัดก๋วยเตี๋ยว แคะขนมครก ขี่จักรยาน มอเตอร์ไซค์ เยี่ยมชุมชนแออัดทนกลิ่นเน่าเหม็น
หนุ่มมาร์คตกเป็นรองน้องปู “สาวอีแต๋น” หลายสัปดาห์ เพิ่งตั้งท่าสวนกลับได้เหมาะๆ หลังจากพรรคเพื่อเหลี่ยมรุกจนล้ำเส้นในการผลักดันนิรโทษกรรมให้คนหนีคุก! ช่วงแรกโยนหินถามทาง ชาวบ้านยังเฉยๆ เมื่อดันหนักๆ ก็เข้าทาง “หนุ่มมาร์ค”
“อย่าหวังเหยียบบ่า เหยียบหัวชาวบ้าน ใช้เป็นบันได 4 ขั้นไต่สู่การนิรโทษกรรม!”
ยิ่งโดนขบวนการ “หมอตุลย์” คนเสื้อหลากสี คุ้ยแคะคดีค้างคามัดน้องปูโยงกับพฤติกรรมไม่ซื่อของเหลี่ยมร้าย พี่ชายสุดที่รัก ทำเอา “สาวอีแต๋น” ไปไม่เป็น ต้องใช้องครักษ์นักเชลียร์มาเบี่ยงเบน ตะแบงแนวลิเกหลงวิก แถ-ลงว่าเป็นการรังแกผู้หญิงซื่อใส
พุทโธ่! ตอนยกย่องว่าเป็นสตรีเก่งกล้าสามารถ จะเป็นนายกฯ หญิงคนแรก ไม่เห็นร้องแรกแหกปาก ขอให้ยกเว้นน้องปู ห้ามตรวจสอบพฤติกรรมดั้งเดิม! ควรจะรู้ว่าใครก็ตาม ถ้ากล้าตากหน้ามาขอกินเงินภาษีชาวบ้าน ต้องยอมถูกตรวจสอบทุกด้าน
แผนดันนิรโทษกรรม ภายใต้ข้ออ้างปรองดองสมานฉันท์ ไปไม่ง่ายเหมือนฝันกลางวันซะแล้ว! นอกจาก “หมอตุลย์” เดินหน้าสกัด “สาวอีแต๋น” หน้าแฉล้ม ยังมี “เสี่ยแก้วสรร” 1 ในแฝด 2 ฝา รับบทโหดกระโดดขวางการปลดเปลื้องโทษให้เหลี่ยมอีกแรง
นี่เป็นกระแสดันให้ดีเอสไอรื้อฟื้นคดีที่ยังไม่สิ้นสุดของน้องปู ในข้อกล่าวหาว่าให้การเท็จในศาล ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ คตส. ซึ่ง “เสี่ยแก้วสรร” เป็นระดับขาใหญ่! ให้รู้ว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบ ไม่มีใครได้เอกสิทธิ์ หรืออภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมาย
เส้นทางสู่เก้าอี้นายกฯ หญิงมีขวากหนามเพียบ! ทำให้ “หนั่น ปรองดอง” กรึ่มไวน์แล้วฝันเฟื่องว่าถ้า 2 คู่ชิงนายกฯ มีปัญหา ตัวเองพร้อมเป็นทางเลือกที่ 3! อ่า! นี่เป็นเสนอหน้าแบบไม่เจียม ฟ้องให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่าการเดินหน้าปรองดองมีแผนส่วนตัว
อุตส่าห์ดั้นด้นไปเจอเหลี่ยมถึงกรุงออสโล นอร์เวย์ โดยบังเอิญแบบน่าหัวเราะแล้ว “หนั่น ปรองดอง” ยังตากหน้าเป็นพยานให้ศาลอาญาอนุมัติประกันหัวโจกแดงในคดีก่อการร้าย และคดีอาญาอื่นๆ โดยทึกทักเอาเองว่าจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบ!
แล้วเป็นไง? บรรยากาศหาเสียงกรุ่นไปด้วยความอาฆาตแค้น แรงอำมหิต ป้ายหาเสียงถูกทำลาย การระบาดของไข้โป้ง ตามแบบการเมืองน้ำเน่าไร้สปิริตจิตสำนึกดีงาม
เห็นแบบนี้ คนกุมอำนาจยังจะปล่อยให้มีเลือกตั้ง จนบ้านเมืองเกิดมิคสัญญีอีกหรือนิ! อิอิอิ!!!