xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ตีกันอ้างแม้วปั่นโพลชนะ หากแพ้ล้มเลือกตั้ง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.อ้างกังวล พท. เดินยุทธศาสตร์ปั่นโพลชนะเลือกตั้ง 3 ก.ค. ด้วยการปั้นตัวเลข 270 เสียง ชี้ถ้าแพ้มีการป่วนล้มกระดานยกเหตุถูกโกงเลือกตั้ง “มาร์ค” วอนคนไทย อย่ายอมเป็นบันได 4 ขั้นให้ “ทักษิณ"” เหยียบ ชี้ครั้งนี้ต้องก้าวให้พ้นความต้องการคนๆเดียว ปัดปชป.อยู่เบื้องหลัง “หมอตุลย์” ขณะที่ "ยิ่งลักษณ์" โต้ไม่รู้จักแผนบันได 4 ขั้นนิรโทษฯ

เมื่อเวลา 06.30 น.วานนี้ (5 มิ.ย.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปลงพื้นที่หาเสียงใน จ.สุโขทัย ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มเสื้อหลากสี ได้ยื่นคำร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สอบสวน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย ในกรณีการครอบครองหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยพรรคเพื่อไทยมีการกล่าวอ้างว่า เรื่องนี้มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังว่า ไม่มีครับ ประชาธิปัตย์มีประชาธิปัตย์แท้ ไม่มีประชาธิปัตย์เทียม และหมอตุลย์ก็ไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์ หากถามว่ารู้จักกันไหมก็รู้จัก แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องไปดำเนินการเรื่องนี้ ต้องไปดูเนื้อหาสาระของเรื่องมากกว่า เพราะตนเองก็ยังไม่ทราบว่าข้อเสนอของหมอตุลย์คืออะไร ทราบคร่าวๆว่ามีการกำหนดอยู่ในคำพิพากษาและจะมีการดำเนินการต่อตามกฎหมาย ทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า ในคำพิพากษานางสาวยิ่งลักษณ์ก็ได้ให้การหลายครั้ง ซึ่งเหมือนกับการเบิกความเท็จในกรณีที่เขาอยากให้ไปตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่า การที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช ออกมากล่าวหาว่านายกฯเป็นเรยาทางการเมืองมองว่าอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คุณณัฐวุฒิก็ทำได้เท่านี้แหละครับ นี่แหละการเมืองสร้างสรรค์ นี่แหละครับการปรองดองของพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้หยุดในการที่จะกล่าวหา ใส่ร้ายโจมตี

**ถามไอ้เต้นแม้วเป็นแดงเทียมหรือเปล่า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ตรวจสอบเสื้อแดงผู้ที่ไปป่วนนายกฯที่ตลาดวงศกรว่าเป็นเสื้อแดงจริงหรือไม่ และผลปรากฎว่าเป็นจริงนั้น ว่าก็จริงอยู่แล้ว และคุณณัฐวุฒิเป็นอะไรหละครับเนี่ย เอาอย่างนี้ต้องถามตั้งแต่ต้นว่า แล้วคุณทักษิณเป็นแดงเทียมหรือเปล่า เพราะว่าวันหนึ่งก็บอกว่าให้ประชาชนออกมาเยอะๆ เสียงปืนดังเมื่อไหร่จะมายืนอยู่แถวหน้า พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาสื่อต่างประเทศถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไร บอกไม่รู้จักเสื้อแดง ถามคุณณัฐวุฒิดูซิครับอย่างนี้เรียกว่าอะไรทางการเมือง เมื่อถามต่อว่า เรื่องนี้ยังมีหนังสือพิมพ์เช่นข่าวสด มติชน ยังมาเล่นภาพข่าวนี้อยู่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนก็ไม่แปลกใจข่าวสดกับมติชนตนพูดตรงๆ เพราะหลายเรื่องก็บิดเบือนคำพูดตน พาดหัวต่างๆ การเลือกรูปอะไรก็เห็นชัดอยู่แล้ว ไม่เป็นไรครับ ก็เป็นสิทธิ์อยากจะเลือกข้างก็เลือกได้ครับ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้เคารพความจริงเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงถูกใช้เป็นเครื่องมือไปสู่อำนาจของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากไปพาดพิงถึงกลุ่มอื่น ตนได้บอกแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนอยากให้เป็นการเลือกตั้งที่เดินประเทศไทยไปข้างหน้า วันนี้ความพยายามที่หยิบยกเรื่องต่างๆให้เป็นความขัดแย้งมากขึ้นก็มีอย่างต่อเนื่องจากพรรคเพื่อไทย และคนอย่างคุณณัฐวุฒิ และก็คงไม่จบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็พูดชัดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็ต้องไปจัดการกับคนนั้นคนนี้ ทั้งข้าราชการ ทั้งนักการเมือง คนกำลังไปบอกว่าวิธีเดินหน้าประเทศไทยขณะนี้ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงก็ดี และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้าง ก็คืออ้างเสียงจากประชาชน ถ้าวันนี้คนไทยอยากจะให้บ้านเมืองเดินหน้าพ้นสิ่งเหล่านี้ อยากให้บ้านเมืองสงบโดยการปกครองด้วยกฎหมาย เลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเถอะครับ เสียงมากๆ ความชอบธรรมตรงนั้นหมด

**ลั่นไม่กลัวถูกคู่แข่งตามเช็คบิลหากแพ้

นายอภิสิทธิ์ กล่าต่อว่า ตนยืนยั่นว่าตนไม่เคยที่จะไปรังแกหรือทำร้ายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตน หากตนชนะก็จะทำเหมือนกับที่ตนทำมา คือการอดทนอดกั้นในการรับฟังความแตกต่าง และถ้าหากเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องไหนเหมือนกับเสื้อแดงที่ถูกคุมขังไม่ได้รับการประกันตัวการช่วยเหลือทางกฎหมาย ตนก็จะดูแลว่าเขาได้สิทธิ์ตามที่เขาพึงจะได้ตามกฎหมายอย่างเต็มที่ บ้านเมืองก็จะก้าวพ้น และนี่คือการปรองดองอย่างแท้จริง ตรงนี้ตนคิดว่าเป็นทางออกอย่างชัดเจน เป็นทางเลือกที่ชัดเจนว่าจะเชื่อเรื่องการปรองดองด้วยการให้รัฐบาลเดินหน้าไปทำงานให้ประชาชนบนความเสมอภาคความเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก หรือจะเลือกรัฐบาลที่หยิบยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาเป็นปัญหาความขัดแย้ง และตอบสนองความต้องการของคนบางกลุ่มเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า นายกฯกลัวหรือไม่ที่จะมีการเช็คบิลและนายกฯต้องจบชีวิตทางการเมือง หรือหนีออกต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กลัวหรอกครับ ตนไม่เชื่อว่าคนที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง ไม่ได้แสวงหาประโยชน์ส่วนตนเลยจะต้องไปเจอกับชะตากรรมอย่างนั้น คนที่เอารัดเอาเปรียบทั้งประชาชนและบ้านเมืองต่างหากที่สมควรจะเจอกับชะตากรรมอย่างนั้น ตนเชื่อว่าความจริงก็คือความจริง แต่ตนไม่อยากที่จะทะเลาะกันเรื่องนี้ ตนอยากให้บ้านเมืองก้าวพ้นเรื่องนี้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมพรรคถึงได้หาเสียงเรื่องของนโยบาย หรือการที่จะต้องเดินเศรษฐกิจไปข้างหน้าในการที่จะแก้ปัญหาสังคม การสร้างระบบสวัสดิการ มันควรจะเป็นสิทธิของประชาชนที่จะได้สิ่งเหล่านี้ มากกว่าการที่จะให้เขามานั่งกังวลอยู่ตลอดเวลา กลัวว่าใครจะเสียงดัง ใครจะข่มขู่ใคร ต้องยอมกันเพื่อให้บ้านเมืองสงบ

**อ้อนคนไทยอย่ายอมเป็นบันไดให้แม้ว

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วางแผนบันไดสี่ขั้นในเรื่องของการนิรโทษกรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบกี่ขั้น แต่ตนจะไม่ยอมให้ประชาชนเป็นบันไดให้คุณทักษิณเหยียบ และพี่น้องประชาชนก็ไม่ควรจะยอมเป็นบันไดให้คุณทักษิณเหยียบ ให้ตกบันไดไปตั้งแต่ขั้นแรกครับ ด้วยการให้ประชาชนบอกชัดๆว่าบ้านเมืองนี้ต้องการที่จะก้าวพ้นความต้องการของคนๆเดียว เมื่อถามว่า ขั้นสุดท้ายของเขาคือการให้คุณทักษิณกลับมา และเปลี่ยนจากคำพิพากษา เป็นการรอลงอาญาแทนการติดคุก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าพี่น้องประชาชนกี่คนที่เวลาทำผิดกฎหมายจะมีโอกาสให้คนมาออกกฎหมาย ใช้อำนาจและลบคำพิพากษา ถ้าทำกันอย่างนี้ได้ วันข้างหน้าบ้านเมืองก็ไม่ใช่ 3 ศาล หรือ 1 ศาลการเมือง กลายเป็น 4 ศาล คือถ้าหากคนไหนทำผิดแต่บังเอิญมีอำนาจมีอิทธิพลก็มาเปลี่ยนแปลงได้แล้วจะอยู่กันอย่างไร

เมื่อถามว่า เขาจะมีการรื้อรับธรรมนูญและให้คนกลางมาร่าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รับธรรมนูญรื้อได้แก้ไขได้ ถ้าหากจะจัดทำกันใหม่ แต่ก็ต้องตอบโจทย์ให้ชัดว่าที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องการตอบโจทย์ประเด็นไหน เพื่อใคร หากเอาเรื่องรัฐธรรมนูญมาแก้ไขเฉพาะหน้าเพื่อจะแก้กฎลบล้างความผิด อันนั้นมันคนละเรื่องกัน ทำไมวันนี้เราถึงขั้นที่จะต้องแก้ปัญหาให้กับคนที่ทำผิดคนหนึ่ง ถึงขั้นบอกว่าอำนาจศาลลบล้างได้ กฎหมายสูงสุดของประเทศต้องทำกันใหม่เพียงเท่านี้ ทำไมไม่เดินไปข้างหน้าปัญหาของประเทศอีกตั้งเยอะ และมาติดหล่มอยู่ตรงนี้ ตนว่าเรามีโอกาสแล้วในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก้าวให้พ้นเถอะครับ ลงคะแนนเสียงกันให้ท่วมท้น ว่าไม่เอาแล้วเรื่องแบบนี้ เดินหน้าเข้าสู่ระบบสภา หากตนได้มีโอกาสบริหารประเทศตนจะให้ความเป็นธรรมทุกคน รวมทั้งคุณทักษิณด้วย

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ที่จะมาช่วยคุณทักษิณในลักษณะนี้เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ต้อสู้ตามระบบ เมื่อถามต่อว่า หากอนาคตเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล หรือรัฐบาลผสมแนวทางก็ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นฝ่ายค้านจะสามรถค้านแนวทางนี้ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้อยู่ที่ประชาชนก่อนว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เพื่อเดินหน้าให้พรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นรัฐบาล เรื่องเหล่านี้ก็ไม่เป็นปัญหาบ้านเมือง

เมื่อถามว่า หากประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรกับปัญหาเหล่านี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ชัดเจน คือเดินหน้าด้วยนโยบายเพื่อประชาชน เรื่องปรองดองก็เป็นหน้าที่คณะกรรมอิสระที่จะเดินหน้าตามความเหมาะสม หากเป็นรัฐบาลผสมก็ต้องยึดนโยบายของพรรค

**"ปู"ปัดไม่รู้จักแผนบันได 4 ขั้นนิรโทษฯ

ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินการทุกอย่างตามแผนบันได 4 ขั้น เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณได้รับการนิรโทษกรรม ว่า ตนไม่ทราบว่าแผนบันได 4 ขั้นคืออะไร แต่ขอเรียนว่าพรรคเพื่อไทยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนเป็นอย่างแรก ส่วนการทำอะไรเพื่อคนๆเดียว ตนและพรรคคงไม่ยอมให้ทำอย่างนั้น

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า เรามีนโยบายชัดเจนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามหลักนิติธรรม และความเสมอภาคของทุกคนเท่าเทียมกัน ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นด้านของพี่ชายของตนที่จะได้รับก็ต้องได้รับเหมือนทุกคนเท่าเทียมกัน เมื่อถามว่า การนิรโทษกรรมต้องทำหลังแก้ไขปัญหาให้ประชาชนใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช่ ตรงนี้ยังไม่อยากให้พูดถึงเรื่องนิรโทษกรรมในวันนี้ อยากให้มองว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองเข้าสู่ความสามัคคี
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลักการที่ต้องหารือกันในส่วนของประชาชนก่อนว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ต่อรัฐธรรมนูญ ปี 50 และปี 40 ทั้งนี้ย้ำว่าไม่ต้องห่วงเพราะพรรคเพื่อไทยจะฟังเสียงของพี่น้องประชาชนทุกคน หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้

**ไม่หวั่นหมอตุลย์ขุดคดีความมาแฉ

เมื่อถามว่า นพ.ตุลย์ เตรียมยื่นหลักฐานกรณีเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่ห่วง และเชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมที่จะชี้แจงต่อประชาชน ส่วนจะมีกระบวนการตรวจสอบอีกหรือไม่นั้น ตนได้ประกาศชัดเจนว่าจะยอมรับในการพิสูจน์ต่อสาธารณะชน แต่ขอให้เป็นตามกฎกติกามารยาท เมื่อถามว่า มีผลการวิจัยเรื่องคอรัปชั่นออกมาระบุว่าประเทศไทยคอรัปชั่นสูงสุด หากพรรคได้เป็นรัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องมีกลไกในการตรวจสอบ และดูขั้นตอนกระบวนการต่างให้โปร่งใสมากที่สุด ส่วนไหนที่พบต้องดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากังวลหรือไม่เพราะในอดีตนพ.ตุลย์ก็เคยขุดคุ้ยเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้ว และครั้งนี้ก็อาจจะมีลักษณะเดียวกันอีกครั้ง "ดิฉันได้มีการประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน จะยอมรับในเรื่องของความรู้สึก ของสาธารณะชน แต่ขอให้เป็นไปตามกติกา ส่วนที่ว่าถือเป็นการรังแกผู้หญิงหรือไม่ ดิฉันไม่ขอคอมเม้นต์ เพราะอยากเห็นการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ คิดว่าประชาชนเบื่อแล้ว ที่จะฟังการโต้ตอบไปมา ดิฉันจะอดทนในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แม้ว่ายิ่งใกล้วันเลือกตั้งอาจจะมีการขุดคุ้ยหรือโจมตีอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ท้อ เพราะมีความจริงใจเต็มใจและมุ่งมั่น ที่จะเข้ามาอาสาทำงาน"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

**ปชป.อ้างพท. เดินแผนปั่นโพลก่อนป่วน

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และประธาน ส.ส.ภาคกทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวแสดงความเป็นห่วงถึงท่าทีการใช้ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความกังวลเป็นอย่างมาก ถึงยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ที่อาจจะนำไปสู่ความวุ่นวายภายหลังการเลือกตั้ง ในวันที่ 3 ก.ค.นี้

เนื่องจาก พรรคเพื่อไทยได้พยายามพูดมาตลอดว่าพรรคจะได้ ส.ส.เกินครึ่งหรือ 270 เสียง และจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยเสียงข้างมาก สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นอกจากนี้ยังให้สมาชิกพรรคพยายามพูดถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ในการกล่าวหาต่างๆ อาทิ การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินเพื่อนำไปใช้ในการทุจริตเลือกตั้ง การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเคลือบมัน ทำให้กาเบอร์ 1 ไม่ได้ หรือแม้กระทั่งการปล่อยข่าวบิดเบือนเชื่อมโยงว่า ประธาน กกต.นัดพบกับประธานองคมนตรีด้วยสาเหตุต่างๆ

ล่าสุดที่กดดันกกต.ว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง และกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้อำนาจรัฐสั่งการให้ทหารลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์หรือการปล่อยข่าวว่า กอ.รมน. ให้สั่งการให้หน่วยทหาร ช่วยงานพรรคประชาธิปัตย์ในการหาเสียง

ทั้งหมดเป็นการเปิดเกม เพื่อให้สอดรับกับการปั้นตัวเลข 270 เสียง โดยยัดเยียดข้อกล่าวหาบิดเบือน และชี้นำสังคมเพื่อนำไปสู่ข้ออ้างหลังการเลือกตั้งหากได้เสียง ส.ส.ไม่ถึง 270 เสียง ก็จะโวยวายว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตนขอถามพรรคเพื่อไทยว่า ดำเนินยุทธศาสตร์ดังกล่าวไปเพื่ออะไร ทั้งที่เรื่องต่างๆ ที่ยกมาไม่เป็นความจริง ซึ่งทาง กกต.ตลอดจนหน่วยงานที่ถูกพาดพิง ต่างก็มายืนยันแล้วชี้แจงแล้วว่า ทั้งหมดไม่เป็นความจริง แต่ก็ยังมีการปล่อยข่าวต่อสังคมเพิ่มอีกว่า ทหารช่วยพรรคประชาธิปัตย์ มีการพิมพ์บัตรเกินเพื่อโกงการเลือกตั้ง ซึ่งสอดรับกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาขู่ว่า ถ้าพรรคพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และจะเกิดความวุ่นวายขึ้น ดังนั้นจึงขอให้พรรคเพื่อไทย ยุติการกล่าวอ้างที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงว่า จะมีการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อหวังผลให้เกิดความวุ่นวาย เพราะสิ่งเหล่านี้ก่อเข้าใจผิดและอาจเกิดความวุ่นวายตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้

นอกจากนี้ ยังห่วงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อต่างประเทศว่า แป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาของตัวเอง ต้องแก้ไขด้วยกระบวนการทางการเมือง ไม่ใช่ระบบยุติธรรม ทั้งที่ข้อเท็จจริงความผิดได้เกิดจากการกระทำ โดยต้องแยกแยะ อย่าเอาเรื่องการกระทำความผิดกฏหมายต่างๆในกระบวนการยุติธรรมมาโยงกับงานการเมือง แต่พ.ต.ท.ทักษิณกลับทำทุกอย่างผ่านเครือข่ายกลไกที่มี ทั้งในสภาและนอกสภา กดดัน ทั้งที่เรื่องของคดีความต้องผ่านการพิจารณาตามกระบวนการตามกฏหมายและระบบยุติธรรม แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะอ้างความปรององเพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะถือเป็นการใช้การเมืองมาลบล้างความผิดทางอาญาของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ชอบธรรม

**ซัดเสื้อแดง -ทักษิณ ตัวขวางปรองดอง

ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการติดตามดูการหาเสียงตั้ง ตั้งแต่เริ่มยุบสภามาถึงปัจจุบัน สิ่งที่ปรากฏชัดเจนคือ ทางเลือกของพรรคเพื่อไทยที่เกี่ยวพันกับกลุ่มเสื้อแดง โดยแกนนำกลุ่มได้ลงเลือกตั้งในบัญชีระดับต้นๆ รวมถึงการเคลื่อนไหวนอกสภาลักษณะขัดขวางการเลือกตั้ง และข่มขู่ ทำให้เห็นได้ชัดว่าทางเลือกของพรรคเพื่อไทยในการที่จะให้ประชาชนได้รัฐบาลที่มาจาการจัดตั้งที่จะมีกลุ่มเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรีด้วย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่อาจจะปฏิเสธบทบาทของกลุ่มเสื้อแดงได้ด้วยเช่นกัน จึงถือเป็นแนวทางที่ต้องเลือก ระหว่างเบอร์ 1 กับ เบอร์ 10 และการขับเคลื่อนกระบวนการปรองดอง ต้องหมายถึงบ้านเมืองสงบสุขด้วย แต่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพูดโยงความผิดของตัวเองจากคดีอาญา ให้เข้าสู่แผนการปรองดองทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ถือเป็นการช่วงชิงความหวังของคนที่ต้องการความสงบสุข

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่าต้องการกลับเมืองไทยในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน และกล่าวพาดพิงและทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการไทย ซึ่งพรรควิตกว่ากลุ่มเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเดินหน้าของประเทศและการปรองดองจะไม่สำเร็จ

นอกจากนี้การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าไม่รู้กับกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งขัดกับวีดีโอลิงค์ ที่พูดคุบกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง แสดงให้เห็นชัดว่ามีความพยายามเคลื่อนไหวทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้กลับมา ดังนั้นคนไทยต้องช่วยกันปฏิเสธแนวทางที่จะสร้างความขัดแย้งวุ่ยวายจากการสร้างความผิดของคนๆ เดียว

ส่วนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการเพิ่มนโยบายเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้มากกว่ารัฐบาลปัจจุบันนั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่าไม่เคยปรากฏในนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาก่อน แต่พอประชาชนเริ่มให้ความสนใจต่อนโยบายของรัฐบาล และมีการยกเลิกนโยบายของพรรคเพื่อไทย จึงขอถามกลับไปว่า ถ้าให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุจริง ทำไมช่วง 2 รัฐบาล ยุคพรรคเพื่อไทย ทั้งนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถึงไม่เคยขึ้นเบี้ยยังชีพ ที่ริเริ่มในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย เลยแม้แต่บาทเดียว มีเพียงสมัยของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เท่านั้น

**เสธ.หนั่น ปัดเป็นนายกฯขั้วที่ 3

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ ระบุว่าถ้าจะให้ปรองดอง ผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลไม่ควรมาจาก 2 พรรคใหญ่ และผู้ที่เป็นนายกฯ ควรมาจากพรรคที่ 3 ว่า เป็นเรื่องปกติ เป็นมุมมองของท่าน ถ้าสองพรรคจัดไม่ได้ พรรคที่ 3 ก็ต้องจัด และการที่ร.ต.อ.ปุระชัย พูดคงหมายถึงพรรคที่มีคะแนนอันดับ 1 และอันดับ 2 ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เมื่อถามว่าปรองดองจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายอภิสิทธิ์ คนใดคนหนึ่งจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล พล.ต.สนั่นตอบว่า เป็นมุมมองของท่าน เพราะสองคนนี้พูดจาไม่เข้าใจกันอยู่แล้ว ก็ควรจะมาช่วยกัน ตนจึงพยายามเดินแนวทางปรองดอง เช่นเดียวกับกรณีที่นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไปดีเบตร่วมกัน ก็ยังหาจุดพอดีไม่ได้ เราต้องพยายามทำให้สองคนพยายามเข้าใจกันให้ได้ หรือถ้านายอภิสิทธิ์ กับน.ส.ยิ่งลักษณ์เจอกัน ก็ต้องพูดคุยกันแบบหวานๆ กันหน่อย คงไปกันได้ “ถ้าทั้งสองฝ่ายพยายาม ก็เป็นไปได้ที่จะปรองดองกัน ทั้งสองคนจะจับมือกันได้หรือไม่ แล้วตั้งรัฐบาลร่วมกันเลย อันนี้ปรองดองแน่ หรือถ้าพระจันทร์เต็มดวงน่าจะทำได้”

** "ปู"ยันพรรคชนะที่ 1 ต้องจัดตั้ง รบ.

ส่วนการหาเสียงโดยเหลืออีก 28วันที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งนั้ เมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปที่ร.ร.เอสซีปาร์ค เพื่อบันทึกเทปโฆษณาหาเสียงของพรรคเพื่อไทยส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อใช้ในการเผยแพร่ พร้อมทั้งรับประทานกลางวันกับบุตรชาย ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย ซึ่ง ด.ช.ศุภเสกข์ยอมรับว่ามารดา มีเวลาให้น้อยลงแต่ก็เข้าใจและไม่คิดว่าเป็นปัญหา

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกรณีผลโพลที่ระบุว่า ประชาชนมีความกังวลเรื่องการซื้อเสียง ว่า พรรคเพื่อไทยเน้นการนำเสนอนโยบาย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและตื่นตัวเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและไม่เชื่อว่าการซื้อเสียง จะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน

"พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายซื้อเสียงเน้นการปราศรัย เสนอนโยบายให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ซึ่งน่าจะทำให้ประชาชนยอมรับมากกว่าการซื้อเสียง"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

เมื่อถามถึงผลโพลที่ระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความอดทนสูงในขณะที่นายอภิสิทธิ์มีเสน่ห์และมีภาวะผู้นำมากกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โพลไม่ได้ตัดสินใจคนไทยทั้งหมด โพลเป็นส่วนประกอบที่จะต้องนำไปปรับปรุง เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งแต่การตัดสินใจของประชาชนเชื่อว่าจะดูพรรคการเมืองที่ปฎิบัติได้จริง ตนมีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน อยากขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ส่วน กรณีร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ผู้สมัครส.ส.พรรครักษ์สันติ ระบุว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯควรมาจากพรรคการเมืองขั้วที่3 เพื่อแก้ไขปัญหาความแตกแยก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตามระบอบประชาธิปไตยพรรคการเมืองใดได้คะแนนสูงสุด พรรคนั้นควรจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายกฯซึ่งเท่ากับเป็นการเคารพเสียงประชาชนเมื่อพรรคเสนอชื่อนายกไปแล้วก็เป็นหน้าที่สภาผู้แทนราษฏรทุกอย่างต้องว่าไปตามกติกา

ส่วนตัวมั่นใจว่า ไม่ว่าใครเป็นนายกฯก็จะต้องเข้ามาแก้ไขความแตกแยก ถ้าตั้งใจก็ทำได้ทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นขั้วที่3

เมื่อถามว่านายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เสนอให้พรรคการเมืองที่ได้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับหนึ่งเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย พรรคการเมืองที่ได้จัดตั้งรัฐบาลควรได้ฉันทานุมัติจากเสียงส่วนใหญ่ของประชชนทั้งประเทศต้องดูทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์

**มาร์คบินสุโขทัยช่วยผู้สมัครหาเสียง

ส่วนอีกด้าน เมื่อเวลา 7.00น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางโดยเครื่องบินสายการบินนกแอร์มาาช่วยผู้สมัครของพรรคที่จังหวัดสุโขทัยหาเสียง ท่มกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

** ชาวบ้านมอบแหวน 5 วง-พระพุทธรูป

เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปยังวัดกงไกรลาศ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เพื่อช่วย ผู้สมัครส.ส. เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้สมัครส.ส.เขต 1 ของพรรคหาเสียง โดยนายอภิสิทธิ์ได้เข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อโตวิหารลอย พระพุทธรูปศักดิ์ประจำวัด และเคาะระฆังและตีฆ้องลั่นชัยภายในโบสถ์ ก่อนที่จะเดินทางไปแนะนำตัวเองและส.ส.ที่ลงสมัครบนรถอีแต๋นของชาวบ้านที่ได้ มาจากการได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้ร่วมวงเสวนารับฟังปัญหาจากเกษตรกรนานประมาณ 1 ชั่วโมง โดยก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะตอบข้อซักถามได้มีชาวบ้าน อ.กงไกรลาศ รายหนึ่งได้กล่าวว่า ตนขอยอมรับว่า เมื่อก่อนนั้น ตนชื่นชอบพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่งหรือกลุ่มคนเสื้อแดง และมีปัญหากับพ่อตามาตลอด เพราะพ่อตาเป็นคนที่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อตนได้ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น มีการซื้อเสียง และเงินที่ซื้อเสียงก็มาจากเงินของประชาชน ซึ่งทำให้ได้ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนซื่อสัตย์ เป็นพรรคที่น่าศรัทธา จึงขอฝากความหวังไว้ที่นายอภิสิทธิ์ และขอให้เป็นคนที่ซื่อสัตย์แบบนี้ตลอดไป พร้อมกับได้กล่าวฝากปัญหาว่า จ.สุโขทัยควรที่จะมีมหาวิทยาลัยเป็นสมบัติของจังหวัด

ต่อมาในเวลา 11.00 น.นายอภิสิทธิ์และทีมผู้สมัครของพรรคได้เดินทางต่อไปยังตลาดบ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย ที่วัดคุ้งยางใหญ่ อ.เมือง จ.สุโขทัย นายอภิสิทธิ์ เข้ากราบนมัสการพระครูอดุลย์ วราภรณ์ เจ้าอาวาส เพื่อเป็นสิริมงคลและเดินพบปะประชาชนบริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านสวน ก่อนจะไปช่วยผู้สมัครหาเสียงที่บริเวณตลาดสด เทศบาลเมือง จ.สุโขทัย จากนั้นได้หยุดพักรับประทานอาหารที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 4 ดี โภชนา โดยนายอภิสิทธิได้โชว์การลวกก๋วยเตี๋ยว

ก่อนหน้าได้มีชาวบ้านชื่อนางเฉลาได้มอบแหวน ให้นายอภิสิทธิ์ 1 วง และก่อนจะปราศรัยก็มีชาวบ้านมอบแหวนให้อีก 1 วง ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้รับแหวนที่ระลึกรวมถึง 5 วง และพระพุทธรุปบูชา(หลวงพ่อเอม) พระดังประจำอำเภอ จากนางเนย ดีเรือนอายุ 74 ปี ชาวบ้านอ.ศรีสำโรงอีก 1 องค์ รวมไปรับแหวน 5 วง พระพุทธรูป 1 องค์

เวลา 14.30 น. นายอภิสิทธิ์ สวมเสื้อเชิ้ตติดหมายเลข 10 ลงดำนากลางแดดร้อนๆ ร่วมกับชาวบ้านศรีสำโรง จ.สุโขทัย ระหว่างช่วยลูกพรรคหาเสียง

**"สุรพงษ์" อ้างโพลลับ พท.ชนะขาดลอย

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับทราบผลสำรวจโพลล์ลับที่มีนักวิชาการจากหลายภาคส่วนเข้าไปดำเนินการพบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งถึง 270 ที่นั่ง แปลว่าชนะถล่มทลายแน่นอน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.ไม่ถึง 150 ที่นั่ง สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน และปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้

เรื่องนี้เป็นสาเหตุทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกอาการเป็นฟืนเป็นไฟดิสเครดิตโจมตีพรรคเพื่อไทย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1พรรคเพื่อไทย แทนที่จะแข่งขันกันเรื่องนโยบาย และผลโพล์ครั้งนี้เหมือนการเลือกตั้งสมัยปี 2548 ในการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว คือพรรคไทยรักไทยได้ชนะถล่มทลาย ประวัติศาสตร์จะย้อนรอย หากใครไม่เชื่อขอให้ตัดแปะข้างฝาบ้านไว้ได้เลยว่าผลการเลือกตั้งวันที่ 3 มิ.ย.เป็นอย่างนี้หรือไม่ ประชาชนจะลงโทษรัฐบาลที่บริหารประเทศล้มเหลว

**"ยิ่งลักษณ์" ขอบคุณทุกโพล

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์@Pouyingluckว่า"ดิฉันขอขอบคุณผลโพลที่ออกมา ทุกความคิดเห็นจะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ"

ก่อนหน้านี้ นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลการสำรวจความเป็นผู้นำครั้งที่3 พบว่า คะแนนของน.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ประชาชนยังเลื่อมใสศรัทธา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธปัตย์มากกว่า.
กำลังโหลดความคิดเห็น