xs
xsm
sm
md
lg

ป้ายสัตว์"โหวตโน"แทงใจ "เด็จพี่"ร้องกกต.ปลด-อ้างชาวโลกดูถูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 5 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า ได้มีประชาชนเรียกร้องมาที่พรรคเพื่อไทย ว่า ในขณะนี้ได้มีการติดป้ายภาพสัตว์ต่างๆ รณรงค์ให้ "โหวตโน" คู่กับผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นๆ ทั่วไปหมด ประชาชนจึงเกิดความไม่สบายใจว่าแผ่นป้ายลักษณะนี้ จะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และยังเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ อาจจะทำให้กลุ่มผู้ที่ไม่ประสงค์ดี อาจจะเอามาแอบอ้างล้มล้างการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย เห็นว่าการรณรงค์เช่นนี้ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นั้นสามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นการรณรงค์ตามระบอบประชาธิปไตย แต่การที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำป้ายไปติดเป็นจำนวนมาก เคียงข้างกับผู้สมัครนั้น ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม ทางพรรคเพื่อไทย จึงได้ยื่นเรื่องนี้ต่อทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ดำเนินการปลดป้ายดังกล่าวออก เนื่องจากภาพดังกล่าวนั้น เปรียบเทียบนักการเมืองเป็นสัตว์ ซึ่งจะทำให้ภาพเหล่านี้จะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่าภาพของกลุ่มพันธมิตรฯที่นำมาใช้ ควรจะปรับเปลี่ยนให้เกิดความเหมาะสมมากกว่านี้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ป้ายหาเสียงที่ติดภาพผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย กำลังถูกทำลาย และขโมยป้ายหาเสียงเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ ทางพรรคเพื่อไทยจึงอยากจะให้ผู้สมัครหลายๆ พรรคการเมืองที่โดนกระทำกับป้ายหาเสียงเช่นนี้ เข้าแจ้งความ และอยากจะเรียกร้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันไม่ให้มีกลุ่มบบุคคลที่ 3 เข้ามาทำลายการเลือกตั้งให้นักการเมืองมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งการดเนินการเช่นนี้ จะทำให้ทั่วโลกเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการเลือกตั้งในประเทศไทย

** พันธมิตรฯเสวนา"โหวตโน"ที่กระบี่
ที่โรงแรมเวียง จ.กระบี่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดเสวนาให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโหวตโน ถือเป็นการจัดเสวนาสัญจรครั้งแรกในภาคใต้ นำโดย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงชัย แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมด้วยทีมวิทยากร และนายประพันธ์ คูณมี โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการเสวนาประมาณ 500 คน
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ที่ต้องรณรงค์ให้มีการโหวตโน ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ เพราะต้องการแสดงออกถึงจุดยืนของประชาชน คือ ต้องการสั่งสอนบรรดานักการเมืองทุกพรรคทุกกลุ่ม ซึ่งล้วนเป็นปัญหาของชาติ เลือกตั้งจะกี่ครั้งก็นักการเมืองกลุ่มเก่าพวกนี้ก็กลับเข้ามาเหมือนเดิม การโหวตโนเป็นการสั่งสอนพวกนักการเมืองให้รู้ว่ารูปแบบการเลือกตั้งแบบเดิมๆ ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งหมด
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนรู้ว่าพี่น้องชาวใต้มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะล้มเหลวอย่างไร แต่ ณ วันนี้การเมืองไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ของบุคคล หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เชื่อว่าการโหวตโน เป็นหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศให้สามารถเดินต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ มีนักการเมืองเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง พวกเราต้องช่วยกันรณรงค์ให้โหวตโน มากๆ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย ไม่เช่นนั้นแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอันตรายเป็นหายนะของประเทศชาติครั้งใหญ่
ขณะที่นายประพันธ์ คูณมี กล่าวว่า การโหวตโน ถือเป็นการต่อสู้ของประชาชนที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการเมืองสะอาด การโหวตโนไม่ผิดกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายการเลือกตั้งที่ประชาชนมีสิทธิที่จะเลือกหรือไม่เลือกใครก็ได้ ในบัตรเลือกตั้งมีช่องด้านล่างขวามือ เป็นช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนชัดเจน ดังนั้น เป็นสิทธิของประชาชนที่ไปใช้สิทธิแต่ใช้สิทธิไม่ลงคะแนน รัฐธรรมนูญให้การรับรองตามระบอบประชาธิปไตย ใครที่บอกว่าโหวตโนไม่เป็นประชาธิปไตยนั้นถือว่าไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตย
สำหรับประเทศไทยการรณรงค์โหวตโน เคยใช้เป็นยุทธวิธีทางการเมืองมาแล้วเมื่อปี 2549 หากจำกันได้ครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย และเป็นนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา เพราะหนีปัญหาการเมืองเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ท้ายสุดผลการเลือกตั้งครั้งนั้นมีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนโหวตโน เกือบ 30 % หรือกว่า 9 ล้านคน เมื่อบวกกับบัตรเสียรวมได้กว่า 10 ล้านคน สรุปแล้วการโหวตโน นอกจากจะสั่งสอนพวกนักการเมืองแล้ว ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชน ไม่ยอมรับการเมืองที่ทุจริต ฉ้อโกง ไม่ยอมรับระบบการเมืองที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน
ทั้งนี้นายประพันธ์ ยังเชื่อว่าจะไม่มีการเลือกตั้งในครั้งนี้ เนื่องจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ 1.ปัญหาชายแดน การสู้รบระหว่างไทย-เขมร และ 2. ปัญหาไข้โป้งระบาด จึงต้องจับตาในโค้งสุดท้าย ของการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด สำหรับการใช้สิทธิโนโหวตของจังหวัดกระบี่ ขอแค่ 10-15 % หรือประมาณ 30,000 เสียง
** ตจว.รณรงค์"โหวตโน"คึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการรณรงค์โหวตโน ในพื้นที่ต่างจังหวัด เป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เพื่อเป็นการสั่งสอนนักการเมืองชั่ว
ที่จ.ภูเก็ต กลุ่มโหวตโนภูเก็ต ได้รวมตัวกันและเริ่มเดินสายรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยมีการจัดขบวนรถติดแผ่นป้ายรณรงค์โหวตโนพร้อมเครื่องกระจายเสียง และเดินเท้าแจกเอกสารเชิญชวนประชาชนในจังหวัดภูเก็ตออกไปใช้ในสิทธิ์ในวันที่ 3 ก.ค.54 และให้กาช่องไม่ลงคะแนนเสียง หรือโหวตโน หากไม่ต้องการเลือกหมายเลขใดเข้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจากการลงพื้นที่ครั้งแรกพบว่าได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่เป็นอย่างดี
นายดอน ลิ้มนันทพิสิฐ เลขาธิการกลุ่มโหวตโนภูเก็ต กล่าวว่าการรณรงค์โหวตโนในพื้นที่จ.ภูเก็ตนั้น เราจะเดินสายรณรงค์ให้ทั่วทั้งเกาะภูเก็ต เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง แต่ให้กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเสียง หรือการโหวตโน โดยที่การเดินสายออกรณรงค์ทุกครั้ง ทางกลุ่มก็จะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุผลในการโหวตโนด้วย
ส่วนการขึ้นป้ายโหวตโน และป้าย อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ในพื้นที่จ.ภูเก็ตขณะนี้ได้มีการขึ้นป้ายตามจุดสำคัญต่างๆในชุมชน ไฟแดง และทางแยกที่มีป้ายหาเสียงของพรรคต่างๆไปแล้วเกือบทั่วทั้งจ. ภูเก็ต

ส่วนที่ จ.สระบุรี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี หลายร้อยคน ได้นัดรวมตัวกันบริเวณโรงเรียนอนุบาลวัดพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จากนั้นได้เดินรณรงค์โหวตโน ไปตามเส้นทางในตัวเมือง อ.พระพุทธบาท ซึ่งเมื่อวานนี้ ( 5 มิ.ย.) เป็นวันที่มีการจัดตลาดนัดสินค้าทั่วไป บริเวณหอนาฬิกาประจำ อ.พระพุธบาท ซึ่งมีประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่สนใจจากพ่อค้าแม่ค้า และผู้มาจับจ่ายตลาดอย่างคาดไม่ถึง ได้เข้าสอบถามและขอเอกสารการโหวตโนกันคึกคัก
ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้ กระจายกันออกเดินเดินในตลาด ชี้แจงถึงเหตุผลของการรณรงค์ในครั้งนี้ว่า ขอให้ทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิตามหน้าที่พลเมืองที่ดี แต่ต้องโหวตโน หรือกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเพื่อสกัดนักการเมืองเลวเข้าสู่สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะกลุ่มผู้ร่วมการรณณรงค์ ได้เข้าแจกเอกสารแผ่นพับบริเวณตลาดขายสินค้าประเภทไม้ดอกไม้ประดับ ได้มีชายไม่ทราบชื่อ เป็นพ่อค้าขายกรงนก และสัตว์ป่าในตลาดบริเวณข้าง สภ.พระพุทธบาท สวมเสื้อยืดสีแดงหนวดเครารุงรัง อายุประมาณ 40 ปี ได้หยิบเอกสารแผ่นผับจากสมาชิกพันธมิตรฯ ที่ร่วมรณรงค์ แล้วนำไปจุดไฟเผาด้วยไฟเเช็ค ต่อหน้าผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งได้กล่าวด้วยวาจาหยาบคาย โดยได้มาต่อว่ากลุ่มรณรงค์ และผู้สื่อข่าวว่า มาทำข่าวไม่สร้างสรรค์ ขวางโลก และท้าทายว่า เขาเป็นคนเสื้อแดงต้องการให้ผู้สื่อข่าวนำไปออกข่าว
แม้ผู้สื่อข่าวจะชี้แจงว่า มาทำตามหน้าที่เสนอข่าว ไม่ว่าเป็นใคร แต่ชายดังกล่าวยังแสดงท่าทีก้าวร้าว จนเกือบมีการวางมวยกัน จนสุดท้ายภรรยาของชายดังกล่าวต้องขอโทษผู้สื่อข่าว จึงไม่มีเหตุรุนแรง ซึ่งคาดว่าจากการกระทำครั้งนี้ เพื่อต้องการให้เป็นข่าวตามกระแสข่าวที่ออกบ่อย ๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น