วานนี้(1 มิ.ย.)นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า จุดยืนของนปช.ต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ คัดค้าการทุจริตทุกรูปแบบ ซึ่งในวันที่2มิ.ย. เวลา 10.00 น.แกนนำนปช.จะเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอหารือว่า นปช.จะขอเข้าไปมีส่วนร่วมในการดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้หรือไม่ เช่นการเข้าไปสังเกตการณ์เลือกตั้งตามหน่วยเลือกตั้งทั้ง90,000 หน่วย เป็นต้น
ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า นปช.จะมีการตั้งโรงเรียนทางไกลเพื่อสอนวิธีการโกงเลือกตั้ง และวิธีการป้องกันผ่านทางช่องเอเซียอัพเดท หากกกต.อนุมัติให้นปช.เข้าไปสังเกตการณ์ ก็จะดำเนินการได้ทันที ดังนั้นขอให้ นปช. ทุกคนเตรียมตัว เตรียมกล้อง เทปอัด เตรียมอ่านกฎหมายเลือกตั้งเพื่อเตรียมการหาข่าว และนปช. ก็จะตั้งศูนย์ข่าวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เปิดศูนย์สายด่วนเลือกตั้ง 1171 เพื่อบริการให้กับประชาชนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติในการเลือกตั้ง รวมทั้งแจ้งการทุจริตการเลือกตั้ง การซื้อสิทธิขายเสียง โดยเพิ่มคู่สายจาก 5 สายเป็น 30 คู่สาย สามารถโทรมาได้ตั้งแต่เวลา 08.30 - 20.30 น.
นายอภิชาต กล่าวว่า ทจะโอนสายไปยังศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวน(ศอส.) และหน่วยปฏิบัติการข่าว เพื่อรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตและการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแสทุจริตซื้อสิทธิขายเสียง ก็ยังสามารถโทรไปยังสายตรงที่หมายเลข 021419470-76 และหน่วยปฏิบัติการข่าวที่หมายเลข 021418045-51 นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งมาได้ทาง เฟซบุ๊ค (Facebook:detective.ect@hotmail.com) และ ทวิตเตอร์ (twitter:detective_ect )
นายอภิชาต ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เท่าที่รับฟังปัญหาจากประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาในสายด่วน 1171 ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเรื่องการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ แตกต่างกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 โดยประชาชนยังมีความสับสนในขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งอาจส่งผลให้เสียสิทธิ์ได้หากผู้ใช้สิทธิ์ไม่เข้าใจในขั้นตอน อย่างไรก็ตามกกต.จะพยายามให้ความยุ่งยากน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ ในอนาคต ก็อยากให้มีเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ก็ต้องมีการแก้ไขกฎหมายก่อน ทั้งนี้ จะทำให้กกต.ไม่ต้องเสียงบประมาณในการพิมพ์บัตรเลือกตั้งอีกด้วย
“กกต. พยายามปรับปรุงขั้นตอนให้ง่ายที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ เพราะการเลือกตั้งมีความจำเป็น ซึ่งหลายประเทศก็จัดให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเช่นกัน ฉะนั้นจึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ อย่าเบื่อหน่ายการเลือกตั้ง” นายอภิชาต กล่าว
อีกด้านจากเวปไซค์ www.khontai.com ของกระทรวงมหาดไทย แจ้งจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดในวันที่ 26 มิถุนายนทั่วประเทศใน 77 จังหวัด พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 2,161,548 คน เทียบกับยอดผู้มาลงทะเบียนเมื่อปี 2550 ที่มีผู้ลงทะเบียน 2,095,410 คน เพิ้มขึ้นกว่า 66,138 คนแล้ว โดยจะปิดการลงทะเบียนในวันที่ 2 มิถุนายนนี้.
ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า นปช.จะมีการตั้งโรงเรียนทางไกลเพื่อสอนวิธีการโกงเลือกตั้ง และวิธีการป้องกันผ่านทางช่องเอเซียอัพเดท หากกกต.อนุมัติให้นปช.เข้าไปสังเกตการณ์ ก็จะดำเนินการได้ทันที ดังนั้นขอให้ นปช. ทุกคนเตรียมตัว เตรียมกล้อง เทปอัด เตรียมอ่านกฎหมายเลือกตั้งเพื่อเตรียมการหาข่าว และนปช. ก็จะตั้งศูนย์ข่าวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เปิดศูนย์สายด่วนเลือกตั้ง 1171 เพื่อบริการให้กับประชาชนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติในการเลือกตั้ง รวมทั้งแจ้งการทุจริตการเลือกตั้ง การซื้อสิทธิขายเสียง โดยเพิ่มคู่สายจาก 5 สายเป็น 30 คู่สาย สามารถโทรมาได้ตั้งแต่เวลา 08.30 - 20.30 น.
นายอภิชาต กล่าวว่า ทจะโอนสายไปยังศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวน(ศอส.) และหน่วยปฏิบัติการข่าว เพื่อรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตและการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแสทุจริตซื้อสิทธิขายเสียง ก็ยังสามารถโทรไปยังสายตรงที่หมายเลข 021419470-76 และหน่วยปฏิบัติการข่าวที่หมายเลข 021418045-51 นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งมาได้ทาง เฟซบุ๊ค (Facebook:detective.ect@hotmail.com) และ ทวิตเตอร์ (twitter:detective_ect )
นายอภิชาต ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เท่าที่รับฟังปัญหาจากประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาในสายด่วน 1171 ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเรื่องการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ แตกต่างกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 โดยประชาชนยังมีความสับสนในขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งอาจส่งผลให้เสียสิทธิ์ได้หากผู้ใช้สิทธิ์ไม่เข้าใจในขั้นตอน อย่างไรก็ตามกกต.จะพยายามให้ความยุ่งยากน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ ในอนาคต ก็อยากให้มีเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ก็ต้องมีการแก้ไขกฎหมายก่อน ทั้งนี้ จะทำให้กกต.ไม่ต้องเสียงบประมาณในการพิมพ์บัตรเลือกตั้งอีกด้วย
“กกต. พยายามปรับปรุงขั้นตอนให้ง่ายที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ เพราะการเลือกตั้งมีความจำเป็น ซึ่งหลายประเทศก็จัดให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเช่นกัน ฉะนั้นจึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ อย่าเบื่อหน่ายการเลือกตั้ง” นายอภิชาต กล่าว
อีกด้านจากเวปไซค์ www.khontai.com ของกระทรวงมหาดไทย แจ้งจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดในวันที่ 26 มิถุนายนทั่วประเทศใน 77 จังหวัด พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 2,161,548 คน เทียบกับยอดผู้มาลงทะเบียนเมื่อปี 2550 ที่มีผู้ลงทะเบียน 2,095,410 คน เพิ้มขึ้นกว่า 66,138 คนแล้ว โดยจะปิดการลงทะเบียนในวันที่ 2 มิถุนายนนี้.