xs
xsm
sm
md
lg

เตือน‘ราคาอาหาร’เพิ่มขี้นอีกเท่าตัวในเวลา20ปี แนะจำกัด‘เก็งกำไร’ในตลาดล่วงหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ – ราคาอาหารอาจจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกเท่าตัวในระยะเวลา 20 ปีจากนี้ไป โดยที่อุปสงค์ก็จะมากขึ้นด้วย ในขณะที่โลกประสบความลำบากในการเพิ่มผลผลิต จากการที่ระบบในปัจจุบันเต็มไปด้วยจุดอ่อนข้อบกพร่อง ทั้งนี้ตามรายงานที่นำออกมาเผยแพร่เมื่อวันอังคาร(31พ.ค.) ขององค์การการกุศลระหว่างประเทศ “ออกซ์แฟม”

บาร์บารา สต็อกกิง ซีอีโอของออกซ์แฟม กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวรายงานฉบับนี้ว่า ระบบอาหารของโลกกำลังอยู่ในสภาพบกพร่องล้มเหลว โดยที่ในแต่ละวันมีประชากรโลกที่ต้องประสบความอดอยากถึง 925 ล้านคน และจำนวนก็มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

รายงานของออกซ์แฟมระบุว่า การที่ผู้คนที่หิวโหยกำลังมีจำนวนมากขึ้นนั้น มีสาเหตุจากการที่ภาวะเฟ้อของราคาอาหาร ตลอดจนการที่ราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูง โดยที่ส่วนหนึ่งเนื่องจากฝีมือของพวกนักเก็งกำไร, การแย่งชิงที่ดินและน้ำ, และภูมิอากาศของโลกที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ

ออกซ์แฟมพยากรณ์ว่า ราคาอาหารที่แท้จริง ซึ่งก็คือมีการปรับตัวแปรด้านเงินเฟ้อแล้ว จะขยับสูงขึ้นในระดับ 70 ถึง 90% ภายในปี 2030 ทั้งนี้โดยยังไม่นำเอาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมาคำนวณ ซึ่งปัจจัยหลังนี้ก็น่าจะทำให้ราคาอาหารทะยานขึ้นไปราว 1 เท่าตัวเช่นเดียวกัน

รายงานของออกซ์แฟมเตือนด้วยว่า ภายในปี 2050 อุปสงค์ในอาหารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70% แต่ศักยภาพที่จะเพิ่มการผลิตของโลกกลับกำลังอยู่ในแนวโน้มลดต่ำลง

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา อัตราการเติบโตเฉลี่ยของผลผลิตทางการเกษตรของโลก ได้ลดต่ำลงมาถึงเกือบครึ่งหนึ่ง และยังคงมีแนวโน้มที่จะย่ำแย่ลงอีกจนกระทั่งน่าจะมีอัตราเติบโตในระดับไม่ถึง 1% ในช่วงสิบปีข้างหน้านี้

ในรายงานฉบับนี้ ออกซ์แฟมเชื่อว่าหนทางบางประการที่จะช่วยลดภาวะเฟ้อของราคาอาหารได้ ก็คือ การจำกัดการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้าสินค้าการเกษตร ตลอดจนเลิกส่งเสริมการนำเอาอาหารที่ใช้เป็นอาหารสัตว์มาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ

“ควรต้องมีการออกกฎหมายมาควบคุมจัดระเบียบการเก็งกำไรทางการเงิน และควรต้องสนับสนุนการยุติการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่เป็นตัวการทำให้เกิดการนำเอาอาหารไปใช้อย่างผิดที่ผิดทาง” รายงานฉบับนี้ระบุ

การรณรงค์คัดค้านการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้าเช่นนี้ ดูจะสอดคล้องกับความพยายามของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ผู้กำลังหวังจะอาศัยฐานะของตนเองที่เป็นประธานวาระปัจจุบันของกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี-20) มาผลักดันให้มีการออกกฎเกณฑ์ควบคุมเรื่องนี้ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ณ การประชุมของกลุ่มที่กำหนดจัดขึ้นในเดือนนี้

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ เพราะเสียงคัดค้านจากผู้ที่ยึดมั่นแนวความคิดเรื่องตลาดเสรี ตลอดจนมีผลประโยชน์จากแนวคิดนี้ ยังคงแรงกล้ามาก
กำลังโหลดความคิดเห็น