เชียงราย - ยอดค้าชายแดนเชียงราย - ลาว พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวกว่า 162.32% หลังกลุ่ม “ดอกงิ้วคำ” ทุนยักษ์จีนสั่งปูนซีเมนต์เข้าก่อสร้างโครงการยักษ์บนสามเหลี่ยมทองคำฝั่งลาวมหาศาล ขณะที่การค้ากับพม่า-จีน ก็เติบโตต่อเนื่อง ทำยอดเพิ่มถึง 85.54%
สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย แจ้งว่า สถิติการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.2554 ถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการค้ากับจีนตอนใต้ พม่า และ สปป.ลาว มีมูลค่ารวมสูงถึง 7,101.86 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 85.54% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 6,422.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.99% และนำเข้ามูลค่า 679.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.41%
ภาคการส่งออกเป็นที่น่าสังเกตว่าในขณะที่การส่งออกไปยังประเทศจีนและพม่าเติบโตในอัตราปกติ แต่การส่งออกไปยัง สปป.ลาว กลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 162.32% เป็น 2,248.44 ล้านบาท ซึ่งถือว่ารองจากประเทศพม่าที่ไทยส่งออกไปมูลค่า 3,366.23 ล้านบาท และจีน 807.37 ล้านบาท
ส่วนการนำเข้าถือว่าอยู่ในอัตราเติบโตปกติคือมีการนำเข้าจากจีนเป็นอันดับ 1 เช่นเดิมโดยมีมูลค่า 464.13 ล้านบาท จาก สปป.ลาว มูลค่า 168.55 ล้านบาท และจากประเทศพม่ามูลค่า 47.14 ล้านบาท
นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์ จ.เชียงราย กล่าวว่า สปป.ลาว เคยมีการค้าชายแดนที่ไม่มากนักกับประเทศไทยด้าน จ.เชียงราย เพราะ สปป.ลาว มีประชากรทั้งประเทศเพียงประมาณ 6 ล้านคน ดังนั้น ที่ผ่านมาการค้าชายแดนของเชียงราย จึงเป็นการค้ากับพม่าและขยายตัวอย่างรวดเร็วกับประเทศจีน
นายเฉลิมพล กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในไตรมาสแรกของปีนี้ กลับพบการส่งออกไป สปป.ลาว เพิ่มมากขึ้นถึง 162.32% โดยสาเหตุมาจากการมีโครงการขนาดใหญ่ใน สปป.ลาว โดยเฉพาะการลงทุนของกลุ่มทุนจีน "ดอกงิ้วคำ" ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ซึ่งมีการก่อสร้างขนานใหญ่จึงจำเป็นต้องนำเข้าวัสดุก่อสร้างจากประเทศไทยไปดำเนินการโดยเฉพาะประเภทปูซีเมนต์
"ปัจจุบันด้านลาวฝั่งนี้มีการนำเข้าปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น เพราะปูนใน สปป.ลาว เองสามารถป้อนความต้องการทั้งประเทศได้เพียง 80% ของความต้องการทั้งหมด เนื่องจากมีโรงงานผลิตอยู่เพียง 7 ราย และมีกำลังผลิตได้เพียงปีละประมาณ 1.55 ล้านตัน นอกจากนี้ สปป.ลาว ยังต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกมาก เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนเพราะในลาวต้องสร้างถนนยางมะตอยหลายแห่ง" นายเฉลิมพล กล่าวในที่สุด
สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย แจ้งว่า สถิติการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.2554 ถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการค้ากับจีนตอนใต้ พม่า และ สปป.ลาว มีมูลค่ารวมสูงถึง 7,101.86 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 85.54% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 6,422.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.99% และนำเข้ามูลค่า 679.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.41%
ภาคการส่งออกเป็นที่น่าสังเกตว่าในขณะที่การส่งออกไปยังประเทศจีนและพม่าเติบโตในอัตราปกติ แต่การส่งออกไปยัง สปป.ลาว กลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 162.32% เป็น 2,248.44 ล้านบาท ซึ่งถือว่ารองจากประเทศพม่าที่ไทยส่งออกไปมูลค่า 3,366.23 ล้านบาท และจีน 807.37 ล้านบาท
ส่วนการนำเข้าถือว่าอยู่ในอัตราเติบโตปกติคือมีการนำเข้าจากจีนเป็นอันดับ 1 เช่นเดิมโดยมีมูลค่า 464.13 ล้านบาท จาก สปป.ลาว มูลค่า 168.55 ล้านบาท และจากประเทศพม่ามูลค่า 47.14 ล้านบาท
นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์ จ.เชียงราย กล่าวว่า สปป.ลาว เคยมีการค้าชายแดนที่ไม่มากนักกับประเทศไทยด้าน จ.เชียงราย เพราะ สปป.ลาว มีประชากรทั้งประเทศเพียงประมาณ 6 ล้านคน ดังนั้น ที่ผ่านมาการค้าชายแดนของเชียงราย จึงเป็นการค้ากับพม่าและขยายตัวอย่างรวดเร็วกับประเทศจีน
นายเฉลิมพล กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในไตรมาสแรกของปีนี้ กลับพบการส่งออกไป สปป.ลาว เพิ่มมากขึ้นถึง 162.32% โดยสาเหตุมาจากการมีโครงการขนาดใหญ่ใน สปป.ลาว โดยเฉพาะการลงทุนของกลุ่มทุนจีน "ดอกงิ้วคำ" ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ซึ่งมีการก่อสร้างขนานใหญ่จึงจำเป็นต้องนำเข้าวัสดุก่อสร้างจากประเทศไทยไปดำเนินการโดยเฉพาะประเภทปูซีเมนต์
"ปัจจุบันด้านลาวฝั่งนี้มีการนำเข้าปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น เพราะปูนใน สปป.ลาว เองสามารถป้อนความต้องการทั้งประเทศได้เพียง 80% ของความต้องการทั้งหมด เนื่องจากมีโรงงานผลิตอยู่เพียง 7 ราย และมีกำลังผลิตได้เพียงปีละประมาณ 1.55 ล้านตัน นอกจากนี้ สปป.ลาว ยังต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกมาก เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนเพราะในลาวต้องสร้างถนนยางมะตอยหลายแห่ง" นายเฉลิมพล กล่าวในที่สุด