ASTVผู้จัดการรายวัน - บริษัทจดทะเบียน mai ประกาศกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีนี้รวม 1,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.28% จากปีก่อน มียอดขายรวม 15,910 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.99 % จากงวดไตรมาส 1 ปี 53 โดยมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 54 บริษัท คิดเป็น 82% ของบริษัทจดทะเบียนใน mai
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน mai ว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai ซึ่งเป็นบริษัทขนาดกลางและเล็กมีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยส่วนใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและปิโตรเคมี ทั้งจากปริมาณและราคาขายที่เพิ่มขึ้นและมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 22.11% เป็น 23.28% ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนใน mai ไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 89.28%
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 7 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นโดยสามารถทำกำไรเติบโตได้เกิน 100% ได้แก่ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. ไพลอน (PYLON) บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) บมจ. ทรีซิกตี้ไฟว์ (TSF) บมจ. ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง (UEC) และบมจ. ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA)
สำหรับบริษัทที่พลิกจากขาดทุนเป็นกำไรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมี 8 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากธุรกิจให้บริการด้านการเงิน และธุรกิจด้านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ได้แก่ บมจ. เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ (ACAP) บมจ. อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) บมจ. ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) บมจ. เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล (E) บมจ. โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น (FOCUS) บมจ. มัลติแบกซ์ (MBAX) บมจ. ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) และ บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC)
ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบผลประกอบการรายไตรมาส พบว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai ที่สามารถทำกำไรได้ 5 ปีต่อเนื่องทุกไตรมาสมี 7 บริษัท ได้แก่ บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์(STAR) บมจ.โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH) บมจ.พลาสติค และหีบห่อไทย (TPAC) และ บมจ. ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง (UEC)
ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 67 บริษัท ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2554 ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 288.53 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมอยู่ที่ 74,200.72 ล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน mai ว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai ซึ่งเป็นบริษัทขนาดกลางและเล็กมีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยส่วนใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและปิโตรเคมี ทั้งจากปริมาณและราคาขายที่เพิ่มขึ้นและมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 22.11% เป็น 23.28% ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนใน mai ไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 89.28%
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 7 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นโดยสามารถทำกำไรเติบโตได้เกิน 100% ได้แก่ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. ไพลอน (PYLON) บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) บมจ. ทรีซิกตี้ไฟว์ (TSF) บมจ. ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง (UEC) และบมจ. ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA)
สำหรับบริษัทที่พลิกจากขาดทุนเป็นกำไรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมี 8 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากธุรกิจให้บริการด้านการเงิน และธุรกิจด้านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ได้แก่ บมจ. เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ (ACAP) บมจ. อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) บมจ. ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) บมจ. เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล (E) บมจ. โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น (FOCUS) บมจ. มัลติแบกซ์ (MBAX) บมจ. ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) และ บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC)
ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบผลประกอบการรายไตรมาส พบว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai ที่สามารถทำกำไรได้ 5 ปีต่อเนื่องทุกไตรมาสมี 7 บริษัท ได้แก่ บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์(STAR) บมจ.โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH) บมจ.พลาสติค และหีบห่อไทย (TPAC) และ บมจ. ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง (UEC)
ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 67 บริษัท ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2554 ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 288.53 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมอยู่ที่ 74,200.72 ล้านบาท