“โรสมีเดีย” เล็งลงทุนเพิ่มอีก 2 ช่องทีวีดาวเทียม ปรับกลยุทธ์ 2 ช่องเดิม ลั่นแก๊งการ์ตูนยังเป็นช่องผู้นำ เพิ่มงบซื้อลิขสิทธ์อีก 50% พร้อมปรับผังรายการ ขยายช่วงเวลาไพร์มไทม์รับโฆษณาทะลัก
นางอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ รองประธานสายงานลิขสิทธิ์และกลุ่มทีวี บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมลงทุนเปิดช่องทีวีดาวเทียมใหม่เพิ่มอีก 2 ช่องในช่วงสิ้นปีนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจซึ่งยังคงโฟกัสในกลุ่มที่มีความถนัดคือเด็กและการ์ตูน แต่จะมีความกว้างมากขึ้น จากปัจจุบันที่เปิดแล้ว 2ช่องคือ ช่องแก๊งการ์ตูนและช่องโฟร์ตี้ฟิฟท์ตี้ ออกอาศผ่านทาง ซีแบนด์ เคยูแบนด์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น รวมฐานผู้ชมมากกว่า 10 ล้านคน
อย่างไรก็ตามรายได้หลักของบริษัทฯยังคงมาจากกลุ่ม 1.โฮมวิดีโฮ สัดส่วน 50-60% ลดลงจากเดิม 70-80% 2.กลุ่มทีวี (ฟรีทีวี เคเบิ้ล ดาวเทียม) สัดส่วน 30% ซึ่งมีการเติบโตที่ดีและจะเพิ่มขึ้นในอนาคต 3.กลุ่มโมบายบิสซิเนส 10% ที่เหลือเป็นกลุ่ม 4. อื่นๆ จากรายได้รวมปีนี้ คาดว่าทำได้ 600 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มี 700 กว่าล้านบาท เนื่องจากลดจำนวนหนังโรงลง แต่มีกำไรเพิ่มขึ้น 20% ต่อเนื่องทุกปี
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ช่องแก๊งการ์ตูนได้รับความนิยมมีเรตติ้งเป็นอันดับหนึ่ง 3ปีติดต่อกันในกลุ่มนี้นับตั้งแต่มีการวัดเรตติ้งกัน แต่บริษัทฯยังมีแผนที่จะปรับเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการแข่งขันที่เกิดขึ้น ซึ่งมีช่องการ์ตูนใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีก โดยได้ทำการปรับผังรายการและเพิ่มรายการใหม่ สัดส่วนเป็นลิขสิทธิ์การ์ตูนต่างประเทศ 80% และที่ผลิตเองกับร่วมผลิต 20% รายการใหม่เช่น แบไต๋ไฮเทค เป็นรายการสด รายการเดอะเทรนเนอร์ ทุกวัน เป็นต้น
โดยผังรายการจะเป็นรายการการ์ตูนใหม่ๆสดๆประมาณ 90% แต่มีรีรันบ้าง 10% ประมาณ 3 รอบต่อวันซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบช่องอื่นที่มี 10 รอบต่อวัน เนื่องจากว่าเราถือลิขสิทธ์การ์ตูนดังๆจำนวนมากโดยเฉพาะของค่ายญี่ปุ่นจึงทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องคอนเท้นต์ มีการ์ตูนใหม่ๆมากกว่า 25 เรื่องตอปี ขณะที่คู่แข่งมีไม่เกิน 5 เรื่องต่อปี
ซึ่งบริษัทฯยังคงเพิ่มงบประมาณการซื้อลิขสิทธิ์อีก 50 ล้านบาทต่อปีจากเดิม 100 ล้านบาทต่อปี
รวมทั้งการขยายช่วงเวลาไพร์มไทม์จากเดิม 17.00 น. - 21.00 น. เป็นเวลา 17.00 น. - 24.00 น. เพื่อขยายฐานเวลาในการรับโฆษณาด้วย และจากความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีสินค้าซื้อเวลาสปอตโฆษณาเต็มหมด และยังมีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาซื้อเพิ่มขึ้นเช่น บิ๊กโคล่า เนสท์เล่ในกลุ่มซีเรียล จากเดิมเป็นไอศกรีม เท่านั้น เป็นต้น โดยบริษัทฯปรัยราคาค่าโฆษณาขึ้นเฉลี่ย 1,000-2,000 บาทต่อสปอต ส่วนช่องโฟร์ตี้ฟิฟตี้ เพิ่งเริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว ถือว่าไปได้ดีแต่ต้องปรับอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องคอนเท้นต์ โดยคิดค่าโฆษณา 3,000 บาทต่อสปอต คาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากช่องนี้ 60 ล้านบาท
นางอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ รองประธานสายงานลิขสิทธิ์และกลุ่มทีวี บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมลงทุนเปิดช่องทีวีดาวเทียมใหม่เพิ่มอีก 2 ช่องในช่วงสิ้นปีนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจซึ่งยังคงโฟกัสในกลุ่มที่มีความถนัดคือเด็กและการ์ตูน แต่จะมีความกว้างมากขึ้น จากปัจจุบันที่เปิดแล้ว 2ช่องคือ ช่องแก๊งการ์ตูนและช่องโฟร์ตี้ฟิฟท์ตี้ ออกอาศผ่านทาง ซีแบนด์ เคยูแบนด์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น รวมฐานผู้ชมมากกว่า 10 ล้านคน
อย่างไรก็ตามรายได้หลักของบริษัทฯยังคงมาจากกลุ่ม 1.โฮมวิดีโฮ สัดส่วน 50-60% ลดลงจากเดิม 70-80% 2.กลุ่มทีวี (ฟรีทีวี เคเบิ้ล ดาวเทียม) สัดส่วน 30% ซึ่งมีการเติบโตที่ดีและจะเพิ่มขึ้นในอนาคต 3.กลุ่มโมบายบิสซิเนส 10% ที่เหลือเป็นกลุ่ม 4. อื่นๆ จากรายได้รวมปีนี้ คาดว่าทำได้ 600 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มี 700 กว่าล้านบาท เนื่องจากลดจำนวนหนังโรงลง แต่มีกำไรเพิ่มขึ้น 20% ต่อเนื่องทุกปี
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ช่องแก๊งการ์ตูนได้รับความนิยมมีเรตติ้งเป็นอันดับหนึ่ง 3ปีติดต่อกันในกลุ่มนี้นับตั้งแต่มีการวัดเรตติ้งกัน แต่บริษัทฯยังมีแผนที่จะปรับเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการแข่งขันที่เกิดขึ้น ซึ่งมีช่องการ์ตูนใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีก โดยได้ทำการปรับผังรายการและเพิ่มรายการใหม่ สัดส่วนเป็นลิขสิทธิ์การ์ตูนต่างประเทศ 80% และที่ผลิตเองกับร่วมผลิต 20% รายการใหม่เช่น แบไต๋ไฮเทค เป็นรายการสด รายการเดอะเทรนเนอร์ ทุกวัน เป็นต้น
โดยผังรายการจะเป็นรายการการ์ตูนใหม่ๆสดๆประมาณ 90% แต่มีรีรันบ้าง 10% ประมาณ 3 รอบต่อวันซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบช่องอื่นที่มี 10 รอบต่อวัน เนื่องจากว่าเราถือลิขสิทธ์การ์ตูนดังๆจำนวนมากโดยเฉพาะของค่ายญี่ปุ่นจึงทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องคอนเท้นต์ มีการ์ตูนใหม่ๆมากกว่า 25 เรื่องตอปี ขณะที่คู่แข่งมีไม่เกิน 5 เรื่องต่อปี
ซึ่งบริษัทฯยังคงเพิ่มงบประมาณการซื้อลิขสิทธิ์อีก 50 ล้านบาทต่อปีจากเดิม 100 ล้านบาทต่อปี
รวมทั้งการขยายช่วงเวลาไพร์มไทม์จากเดิม 17.00 น. - 21.00 น. เป็นเวลา 17.00 น. - 24.00 น. เพื่อขยายฐานเวลาในการรับโฆษณาด้วย และจากความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีสินค้าซื้อเวลาสปอตโฆษณาเต็มหมด และยังมีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาซื้อเพิ่มขึ้นเช่น บิ๊กโคล่า เนสท์เล่ในกลุ่มซีเรียล จากเดิมเป็นไอศกรีม เท่านั้น เป็นต้น โดยบริษัทฯปรัยราคาค่าโฆษณาขึ้นเฉลี่ย 1,000-2,000 บาทต่อสปอต ส่วนช่องโฟร์ตี้ฟิฟตี้ เพิ่งเริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว ถือว่าไปได้ดีแต่ต้องปรับอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องคอนเท้นต์ โดยคิดค่าโฆษณา 3,000 บาทต่อสปอต คาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากช่องนี้ 60 ล้านบาท