ASTVผู้จัดการรายวัน – พาต้า เผยรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยว ไตรมาสแรกปีนี้เอเชียและแปซิฟิค ยอดพุ่ง โต 5% ระบุ 3 ประเทศเศรษฐกิจหลัก ที่ช่วยดันยอด คือ จีน อินเดีย และ เกาหลี ระบุยังไม่หมดวิบากกรรม หลังหมดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยังมีปัจจัยลบรออยู่ข้างหน้า ทั้ง วิกฤตราคาน้ำมันแพง ภัยธรรมชาติ และ ภัยทางการเมือง
นายบิล แคลเดอวู้ด รักษาการหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ( พาต้า ) เปิดเผยผลการจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค สำหรับไตรมาสแรก ปี 2554 ว่า เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% แต่ทั้งนี้ผลของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ทำให้
การเดินทางออกต่างประเทศของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นลดลงมาก และยังมีการลดลงของนักเดินทางจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ส่งผลให้จำนวนผู้ที่เดินทางเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคเฉพาะเดือนมี.ค. 54 เติบโตเพียง 3%
ในรายงานยังระบุอีกว่า ภูมิภาคเอเชียใต้ มีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเดือน มี.ค.54 อยู่ที่ 10% ถ้าเป็นไตรมาสแรก เติบโต 13% โดยประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ได้แก่ อินเดีย มัลดีฟส์ เนปาล ศรีลังกา มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโต 10% เท่ากันทั้งช่วงไตรมาสแรกและเฉพาะเดือนมี.ค. 54 โดยพม่า เติบโต 30%, กัมพูชา 18% , ไทย 14% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง
ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ มีรายงานว่าพบการชะลอตัวเห็นได้ชัด โดยไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 3% และ ผลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ช่วงเดือน มี.ค.54 อัตราเติบโตเหลือเพียง 1% ทำให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ และ นักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น ชะลอการเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคนี้ โดย ประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
นายบิล กล่าวอีกว่า หลังการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงปี 2551- 2552 แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ยังคงมีปัจจัยลบที่จะกระทบต่ออุตสาหกรรมตามมาในรูปแบบอื่นๆ เช่น ภาวะราคาน้ำมันปรับตัววสูงขึ้น ความไม่สงบทางการเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ รวมทั้งผลจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นใน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“การที่จำนวนนักท่องเที่ยวของ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค เพิ่มขึ้น 5% ในช่วงไตรมาสแรก ถือเป็นตัวเลขที่ดี ซึ่งเป็นผลจาก การเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่เดินทางเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปโดยรวมเติบโตประมาณ 6%ในช่วงไตรมาสแรก “
ทั้งนี้การขยายตัวของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป แต่ละประเทศอยู่ในระดับแตกต่างกัน โดยนักท่องเที่ยวจากรัสเซียที่เข้าสู่เอเชียและแปซิฟิคเพิ่มขึ้น 25% และนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสเติบโต 9% แต่จากประเทศอังกฤษ และ เยอรมนีปรับลดลง 5% และ 1% ตามลำดับ ผู้ที่เดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกาขยายตัวประมาณ 5%
ขณะที่ผู้ที่เดินทางจากภูมิภาคอเมริกาทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 7%
นายบิล แคลเดอวู้ด รักษาการหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ( พาต้า ) เปิดเผยผลการจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค สำหรับไตรมาสแรก ปี 2554 ว่า เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% แต่ทั้งนี้ผลของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ทำให้
การเดินทางออกต่างประเทศของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นลดลงมาก และยังมีการลดลงของนักเดินทางจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ส่งผลให้จำนวนผู้ที่เดินทางเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคเฉพาะเดือนมี.ค. 54 เติบโตเพียง 3%
ในรายงานยังระบุอีกว่า ภูมิภาคเอเชียใต้ มีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเดือน มี.ค.54 อยู่ที่ 10% ถ้าเป็นไตรมาสแรก เติบโต 13% โดยประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ได้แก่ อินเดีย มัลดีฟส์ เนปาล ศรีลังกา มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโต 10% เท่ากันทั้งช่วงไตรมาสแรกและเฉพาะเดือนมี.ค. 54 โดยพม่า เติบโต 30%, กัมพูชา 18% , ไทย 14% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง
ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ มีรายงานว่าพบการชะลอตัวเห็นได้ชัด โดยไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 3% และ ผลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ช่วงเดือน มี.ค.54 อัตราเติบโตเหลือเพียง 1% ทำให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ และ นักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น ชะลอการเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคนี้ โดย ประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
นายบิล กล่าวอีกว่า หลังการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงปี 2551- 2552 แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ยังคงมีปัจจัยลบที่จะกระทบต่ออุตสาหกรรมตามมาในรูปแบบอื่นๆ เช่น ภาวะราคาน้ำมันปรับตัววสูงขึ้น ความไม่สงบทางการเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ รวมทั้งผลจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นใน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“การที่จำนวนนักท่องเที่ยวของ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค เพิ่มขึ้น 5% ในช่วงไตรมาสแรก ถือเป็นตัวเลขที่ดี ซึ่งเป็นผลจาก การเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่เดินทางเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปโดยรวมเติบโตประมาณ 6%ในช่วงไตรมาสแรก “
ทั้งนี้การขยายตัวของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป แต่ละประเทศอยู่ในระดับแตกต่างกัน โดยนักท่องเที่ยวจากรัสเซียที่เข้าสู่เอเชียและแปซิฟิคเพิ่มขึ้น 25% และนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสเติบโต 9% แต่จากประเทศอังกฤษ และ เยอรมนีปรับลดลง 5% และ 1% ตามลำดับ ผู้ที่เดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกาขยายตัวประมาณ 5%
ขณะที่ผู้ที่เดินทางจากภูมิภาคอเมริกาทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 7%