ASTVผู้จัดการรายวัน - คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ชูกลยุทธ์ “มืออาชีพ” เจาะลูกค้าสถาบัน
แตกไลน์ อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน JACKSON SAFETY* ตั้งเป้าโต 15%
นางจิราภรณ์ ชัยสมบัติ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป แผนกสินค้าเพื่อธุรกิจสถาบัน บริษัท
คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชันแนล แผนกธุรกิจสถาบันของคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ยังรั้งผู้นำเบอร์ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษอนามัยและผลิตภัณฑ์ล้างมือด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์กระดาษอนามัยและผลิตภัณฑ์ล้างมือมีการเติบโต 15% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสถานประกอบการ ทั้งผลิตภัณฑ์เช็ดในงานอุตสาหกรรมและอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลเติบโตสูงถึง 40%
สาเหตุมาจากเทรนด์ตลาดโปรเฟสชันแนลที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการหันมาตื่นตัวในเรื่องของ 1) สุขอนามัย 2) คำนึงถึงความปลอดภัยในสถานประกอบการ และการเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน และ3) ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้บริษัทฯจะชูกลยุทธ์ “มืออาชีพ” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสถาบันให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเน้น 1) รักษาฐานลูกค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษอนามัยและผลิตภัณฑ์ล้างมือ ด้วยการส่งนวัตกรรมล่าสุดกระดาษเช็ดมือสก๊อตต์? สลิมโรล 2) รุกตลาดกลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยการแตกไลน์แบรนด์ใหม่ JACKSON SAFETY* เปิดตัวอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน พร้อมถุงมือ KLEENGUARD* 3) นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เช่น สินค้าฉลากเขียว
“เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าสถาบัน เราเน้นเข้าหาลูกค้าตรงกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ดี เพิ่มประสิทธิภาพของงาน โดยเตรียมโปรโมตสินค้าใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศผ่านผู้แทนจำหน่ายกว่า 50 รายด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ได้แก่ สื่อโฆษณาทางนิตยสารในกลุ่มอุตสาหกรรม การจัดโรดโชว์นิทรรศการเจาะกลุ่มเป้าหมาย อาทิ National Safety Week และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยมือเป็นปีที่ 4 ให้กับกลุ่มโรงพยาบาล โรงเรียนและโรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล”
แตกไลน์ อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน JACKSON SAFETY* ตั้งเป้าโต 15%
นางจิราภรณ์ ชัยสมบัติ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป แผนกสินค้าเพื่อธุรกิจสถาบัน บริษัท
คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชันแนล แผนกธุรกิจสถาบันของคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ยังรั้งผู้นำเบอร์ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษอนามัยและผลิตภัณฑ์ล้างมือด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์กระดาษอนามัยและผลิตภัณฑ์ล้างมือมีการเติบโต 15% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสถานประกอบการ ทั้งผลิตภัณฑ์เช็ดในงานอุตสาหกรรมและอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลเติบโตสูงถึง 40%
สาเหตุมาจากเทรนด์ตลาดโปรเฟสชันแนลที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการหันมาตื่นตัวในเรื่องของ 1) สุขอนามัย 2) คำนึงถึงความปลอดภัยในสถานประกอบการ และการเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน และ3) ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้บริษัทฯจะชูกลยุทธ์ “มืออาชีพ” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสถาบันให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเน้น 1) รักษาฐานลูกค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษอนามัยและผลิตภัณฑ์ล้างมือ ด้วยการส่งนวัตกรรมล่าสุดกระดาษเช็ดมือสก๊อตต์? สลิมโรล 2) รุกตลาดกลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยการแตกไลน์แบรนด์ใหม่ JACKSON SAFETY* เปิดตัวอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน พร้อมถุงมือ KLEENGUARD* 3) นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เช่น สินค้าฉลากเขียว
“เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าสถาบัน เราเน้นเข้าหาลูกค้าตรงกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ดี เพิ่มประสิทธิภาพของงาน โดยเตรียมโปรโมตสินค้าใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศผ่านผู้แทนจำหน่ายกว่า 50 รายด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ได้แก่ สื่อโฆษณาทางนิตยสารในกลุ่มอุตสาหกรรม การจัดโรดโชว์นิทรรศการเจาะกลุ่มเป้าหมาย อาทิ National Safety Week และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยมือเป็นปีที่ 4 ให้กับกลุ่มโรงพยาบาล โรงเรียนและโรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล”
