ASTVผู้จัดการรายวัน - ซินเน็ค (ประเทศไทย) กำไรงวดนี้ทะลุ 108.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.86% เมื่อเทียบกับงวดนี้ปี 53 "สุพันธุ์ " เผยเป็นผลจากการเติบโตของตลาดไอทีทำให้ยอดขายขยายตัวสูง ขณะที่คุมต้นทุนเยี่ยม เชื่อปีนี้ทั้งปีแนวโน้มการเติบโตดี ทั้งจากตลาดไอทีรุ่ง และการขยายสมาร์ทโฟนสดใส ปีนี้ขอโตไม่ต่ำกว่า 30%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 254 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 54 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 108.50 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.16 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 53 ที่มี 71.92 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.11 บาท ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 36.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.86 %
สำหรับผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการรวมของบริษัทมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปีเดียวกันของปี 53 หรือ 21.48 % หรือเพิ่มขึ้นเป็นเงิน 805.13 ล้านบาท ทำให้มีรายได้รวมทั้งสิ้นเป็น 4,553.67 ล้านบาทโดยมาจากการขยายตัวของตลาดไอที ส่งผลให้ยอดขายสินค้าทุกประเภทของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ค นอกจากนั้น เป็นผลจากที่บริษัทฯ เริ่มได้รับรู้รายได้จากการจัดจำหน่ายสินค้าประเภทสมารท์โฟนอย่างเต็มตัวด้วย ในขณะที่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่ให้เพิ่มขึ้นไปตามสัดส่วนของยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ โดยค่าใช้จ่ายในงวดนี้เพิ่มขึ้นจากในช่วงปีเดียวกันของปี 53 อยู่เพียง 8.26 % เท่านั้น ขณะที่ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 21.48 %
" จะเห็นได้ว่ากำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนดังกล่าว มาจากรายได้จากการขายและบริการรวม ที่ทำได้ 4,553.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 805.13 ล้านบาท หรือเติบโต 21.48% จากปีก่อน ขณะที่กำไรขั้นต้นในงวด 3 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 287.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.13 ล้านบาทหรือ 33.49 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 215.37 เพราะการเติบโตของตลาดไอที ทำให้สินค้าในเกือบทุกกลุ่มขายดีขึ้นอย่างชัดเจน ประการสำคัญกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน ที่ซินเน็คฯ หันมาขยายตลาดอย่างจริงจังได้สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการเน้นคุมต้นทุนได้ดังที่ตั้งใจ "
นายสุพันธุ์กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจปี 54 ว่ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่องได้ตามทิศทางเดียวกับการเติบโตของตลาดไอที โดย SYNEX ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปี 53 หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสินค้าให้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเพิ่มขึ้น และปีนี้บริษัทฯ มีกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 9 กลุ่ม จากเดิม 8 กลุ่มสินค้า โดยกลุ่มสินค้าที่เพิ่มขึ้น คือสมาร์ทโฟน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าสินค้าไอทีทั่วไป ขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยบวกจากสินค้าไอที่มีราคาถูกลง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าดังกล่าวได้มากขึ้นอีกด้วย จึงสะท้อนให้บริษัทฯ เติบโตไปในทิศทางเดียวกันได้ดังกล่าว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 254 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 54 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 108.50 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.16 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 53 ที่มี 71.92 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.11 บาท ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 36.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.86 %
สำหรับผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการรวมของบริษัทมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปีเดียวกันของปี 53 หรือ 21.48 % หรือเพิ่มขึ้นเป็นเงิน 805.13 ล้านบาท ทำให้มีรายได้รวมทั้งสิ้นเป็น 4,553.67 ล้านบาทโดยมาจากการขยายตัวของตลาดไอที ส่งผลให้ยอดขายสินค้าทุกประเภทของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ค นอกจากนั้น เป็นผลจากที่บริษัทฯ เริ่มได้รับรู้รายได้จากการจัดจำหน่ายสินค้าประเภทสมารท์โฟนอย่างเต็มตัวด้วย ในขณะที่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่ให้เพิ่มขึ้นไปตามสัดส่วนของยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ โดยค่าใช้จ่ายในงวดนี้เพิ่มขึ้นจากในช่วงปีเดียวกันของปี 53 อยู่เพียง 8.26 % เท่านั้น ขณะที่ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 21.48 %
" จะเห็นได้ว่ากำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนดังกล่าว มาจากรายได้จากการขายและบริการรวม ที่ทำได้ 4,553.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 805.13 ล้านบาท หรือเติบโต 21.48% จากปีก่อน ขณะที่กำไรขั้นต้นในงวด 3 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 287.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.13 ล้านบาทหรือ 33.49 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 215.37 เพราะการเติบโตของตลาดไอที ทำให้สินค้าในเกือบทุกกลุ่มขายดีขึ้นอย่างชัดเจน ประการสำคัญกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน ที่ซินเน็คฯ หันมาขยายตลาดอย่างจริงจังได้สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการเน้นคุมต้นทุนได้ดังที่ตั้งใจ "
นายสุพันธุ์กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจปี 54 ว่ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่องได้ตามทิศทางเดียวกับการเติบโตของตลาดไอที โดย SYNEX ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปี 53 หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสินค้าให้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเพิ่มขึ้น และปีนี้บริษัทฯ มีกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 9 กลุ่ม จากเดิม 8 กลุ่มสินค้า โดยกลุ่มสินค้าที่เพิ่มขึ้น คือสมาร์ทโฟน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าสินค้าไอทีทั่วไป ขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยบวกจากสินค้าไอที่มีราคาถูกลง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าดังกล่าวได้มากขึ้นอีกด้วย จึงสะท้อนให้บริษัทฯ เติบโตไปในทิศทางเดียวกันได้ดังกล่าว
