xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์วอลล์สตรีทจอมฉาว เจอคุกอย่างน้อย 15 ปีคดีอินไซด์เดอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – “ราช ราชารัตนัม” ผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์แกลเลียน กรุ๊ป จอมอื้อฉาว ถูกคณะลูกขุนในศาลชั้นต้นสหรัฐฯ ตัดสินว่ามีความผิดในทุก 14 กระทงที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี อันเป็นคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและใช้ข้อมูลวงในเพื่อการเก็งกำไรหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะสำคัญของรัฐบาลอเมริกัน อีกทั้งเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของการใช้เครื่องมือการดักฟังโทรศัพท์ในการมาช่วยเอาผิดอาชญากรวอลล์สตรีทได้อย่างทรงประสิทธิภาพ
ราชารัตนัม นับเป็นบุคคลผู้อื้อฉาวที่สุดแล้วในบรรดาผู้ที่ถูกสอบสวนคดีซื้อขายหุ้นด้วยข้อมูลวงใน (อินไซด์เดอร์ เทรดดิ้ง) ภายในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ (11) คนดังระดับแถวหน้าของวอลล์สตรีทรายนี้ ก็ถูกกระบวนการยุติธรรมสอยลงมารับผิดต่อคดีอันว่าด้วยการใช้วิชามารชั้นสูง เอาเปรียบตลาดการเงินอย่างเลือดเย็น ในเวลาเดียวกัน ราชารัตนัมนั่งฟังผู้ช่วยผู้พิพากษาแห่งศาลชั้นต้นในนิวยอร์ก อ่านคำตัดสินของคณะลูกขุน ด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์สุดๆ
ทั้งนี้ ขนาดของความผิดระดับนี้คงหนีไม่พ้นโทษจำคุก 15 ปีเป็นอย่างน้อย และเรื่องนี้จะถูกเฉลยกันเมื่อถึงวันนัดหมายที่ศาลจะพิพากษาตัดสินระวางโทษ ซึ่งคือ ในวันที่ 29 กรกฎาคม
ฝ่ายอัยการนำเสนอคำฟ้องในคดีนี้โดยมุ่งแสดงหลักฐานให้เห็นว่า ราชารัตนัมได้สร้างเครือข่ายบุคคลวงในที่มีตำแหน่งสูงๆ ในกิจการบริษัทต่างๆ เพื่อให้คอยแอบแจ้งความลับทางธุรกิจอันทรงคุณค่าให้เขาทราบในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2003 จรดจนเดือนมีนาคม 2009 จนเขาสามารถทำรายได้ผิดกฎหมายจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนข้อมูลเหล่านี้ รวมเป็นมูลค่า 63.8 ล้านดอลลาร์
ในการนี้ ฝ่ายรัฐบาลได้มีการนำวิธีดักฟังโทรศัพท์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน มาใช้เป็นเครื่องมือในการรวบรวมหลักฐานเอาผิดคนขี้ฉ้อ จนประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ และเรื่องนี้ถูกมองว่าอาจเป็นปัจจัยหักเหครั้งสำคัญในการเพิ่มเขี้ยวเล็บให้ทางการเล่นงานอาชญากรในชุดสูทได้เฉกเช่นที่เคยสร้างผลงานมหาศาลในคดีแก๊งอาชญากรรมและคดีค้ายาเสพติดมาแล้ว
ข้อมูลที่ถูกนำมาเปิดเผยในระหว่างการไต่สวน พบว่าราชารัตนัมใช้โทรศัพท์มือถือนำเอาข้อมูลความลับทางธุรกิจที่ได้ทราบมา จัดแจงดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ให้ข่าว แม้แต่ช่วงที่ไปเที่ยวพักผ่อนชายหาดไมอามี่ หรือไปเดินเล่นในยุโรป ชายผู้นี้มีการสั่งให้โอนเงินเข้าบัญชีพรรคพวกที่นำข่าวมาขายโน่นนี่มิได้ขาด
บรรดาผู้ที่นำความลับทางธุรกิจมาบอกแก่ราชารัตนัม มีกระทั่งผู้บริหารชั้นสูงในบริษัทใหญ่ยักษ์ระดับบลูชิปอย่าง อินเทล, ราจัต คุปตะ ผู้เคยเป็นถึงประธานฝ่ายบริหารของบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำอย่างแมคคินซีย์ แอนด์ โก รวมทั้งเคยเป็นอดีตกรรมการบริหารคนหนึ่งในเครือโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ทีเดียว
เนื่องจากการเกี่ยวข้องของคุปตะ ทำให้ทางการถึงกับทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อันได้แก่การออกหมายเรียกให้ ลอยด์ แบลงเฟน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของโกลด์แมน แซคส์ มาขึ้นให้การ และในช่วงหนึ่งของการพักเบรก แบลงเฟนจับมือเช็คแฮนด์กับราชารัตนัมด้วย

** เจ้าตัวยัน-ซื้อขายข้อมูลจากการวิจัย **

ที่ผ่านมา คณะทนายของราชารัตนัมเดินแนวทางต่อสู้คดีว่า ข้อมูลที่เจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์ใช้ซื้อขายนั้น ได้รับแนวทางมาจากผลการวิจัยประกอบกับข้อมูลที่เผยแพร่กันอยู่แล้วในทางสาธารณะ
คดีของราชารัตนัมนับเป็นการดำเนินคดีว่าด้วยการซื้อขายข้อมูลวงในรายแรกของวอลล์สตรีท ซึ่งดึงดูความสนใจของมหาชนได้มหาศาลที่สุดนับจากคดีอื้อฉาวกลางทศวรรษ 1980 กรณีจอมเก็งกำไร อีวาน เบอสกี้ และพ่อมดจังก์บอนด์ ไมเคิล มิลเค่น
อัยการระบุว่าราชารัตนัมใช้ข้อมูลผิดกฎหมายเพื่อการซื้อขายหุ้นอย่างน้อย 15 ตัว โดยส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นของบริษัทด้านเทคโนโลย อาทิ แอดแวนซด์ ไมโคร ดีไวเซส อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ และเอทีไอ เทคโนโลยี อิงค์ กับจอมยักษ์กูเกิล เจ้าพ่อเสิร์จเอนจินชั้นนำของโลก

** เห็นเค้าลางว่ามีการอุทธรณ์แน่นอน **

คดีอันคึกโครมของราชารัตนัมเริ่มขึ้นเมื่อมีการจับกุมเขาในเดือนตุลาคม ปี 2009 ขณะฝ่ายอัยการสำทับเตือนว่า ยังจะมีพวกเทรดเดอร์ในแวดวงเฮดจ์ฟันด์ถูกจับกุมดำเนินคดีเพิ่มกันอีกหลายราย และแล้วละครชีวิตฉากใหญ่ก็ถึงตอนจบรอบแรกในเช้าวันพุธที่ 11 พฤษภาคม เมื่อคณะลูกขุนมีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ว่า ราชารัตนัมมีความผิดจริงใน 5 กระทงเกี่ยวกับการวางแผนฉ้อโกง และอีก 9 กระทงในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์
โทษที่ราชารัตนัมน่าจะได้รับจะเป็นโทษจำคุกระยะยาวประมาณ 15 ปีครึ่ง ถึง 19 ปีครึ่ง
“นี้ยังเป็นแค่รอบแรกครับ .. ไว้พบกันรอบสอง” ประธานคณะทนายจำเลย จอห์น ดาวด์ บอกอย่างนั้น โดยเผยว่าลูกความของตนจะยื่นอุทธรณ์คดี โดยจะชี้แย้งในประเด็นการใช้การบันทึกเสียงความลับ ซึ่งก็คือการดักฟังโทรศัพท์นั่นเอง
หลังจากเลิกศาลแล้ว ราชารัตนัมได้รับการประกันตัวและปล่อยตัวแบบมีเงื่อนไข ไปจนถึงวันพิพากษา โดยที่ใช้แพ็กเก็จการประกันตัวมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ กับมีเงื่อนไขว่าเขาต้องติดเครื่องมือติดตามตัวระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งจะถูกกักบริเวณให้อยู่ในอพาร์ทเมนต์สุดหรูที่แมนแฮตตัน
ราชารัตนัม ปัจจุบันมีอายุ 53 ปี ถือเป็นอภิมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดสำหรับผู้ที่ถือกำเนิดในประเทศศรีลังกา ถึงแม้ตัวเขาเองได้ถือครองสัญชาติอเมริกันมาเนิ่นนานแล้ว
เฮดจ์ฟันด์นามแกลเลียน มีสินทรัพย์ในการบริหารจัดการสูงสุดเมื่อต้นปี 2008 มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ แล้วก็มีการยุบเลิกและแบ่งสรรคืนเงินให้แก่นักลงทุนโดยที่ไม่มีใครขาดทุน หลังจากที่ราชารัตนัมถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2009
กำลังโหลดความคิดเห็น