ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - พระองค์โสมฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยที่ลำปาง แม่น้ำยมทะทักเข้าท่วมเมืองสุโขทัยกลางดึกชาวบ้านราว 30 ครัวเรือนอพยพขึ้นอยู่ริมถนนกันวุ่น พื้นที่การเกษตรเสียห่นยับ ผู้ว่าฯสั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือชาวบ้าน "ดอกคำใต้" เริ่มคลี่คลาย แต่ “ภูกามยาว-จุน”เจอน้ำจากกว๊านฯ-อ่างเก็บน้ำห้วยใหม่-อ่างฯร่องสักทะลักท่วมที่ลุ่มทำไร่นาเสียหายจำนวนมาก
หลังจากเกิดอุทกภัยเกิดขึ้นใน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของ จ.ลำปาง ต่อมาเวลา 16.00 น.วานนี้(12พ.ค.)พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงห่วงใยราษฎที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์ กิตติคุณนายแพทย์ดำรง เหรียญประยูร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานแพระภิกษุสงฆ์ และมอบถุงยังชีพแก่ราษฎรอีก 800 ถุง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนที่บ้านได้รับความเสียหายจากอุทกภัยทั้งหลัง 2 ราย ในพื้นที่ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ณ บริเวณที่ว่าการเทศบาลตำบลเสริมซ้าย อ.เสริมงาม โดยมีนายอธิคม สุพรรณพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้การ้อนรับและสรุปรายงานความเสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ นายอธิคม เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจังหวัดลำปางได้รับความเสียหายรวม 9 อำเภอ 31 ตำบล 163 หมู่บ้าน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเสริมงาม ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 19หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,400 คน พื้นที่ที่เสียหายมากที่สุดคือ บ้านนาเดา หมู่6 บ้านหลง หมู่7 บ้านสันติสุข หมู่8 และบ้านนา-งอย หมู่10
**น้ำยมทะลักท่วมสุโขทัยกลางดึก
ที่ จ.สุโขไทน เมื่อเช้าวานนี้(12 พ.ค.)นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายชาติชาย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมืองสุโขทัย ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 บ้านลัดทรายมูล ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 30 หลังคาเรือน หลังจากเวลาประมาณ 23.00 น.คืนวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ จ.สุโขทัยได้สูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเหตุที่ฝนตกลงมาอย่างหนักทางภาคเหนือตอนบน จนเป็นเหตุให้คันตลิ่งกั้นแม่น้ำยมพังทลายลงมาเป็นแนวยาวกว่า 15 เมตร ทำให้น้ำในแม่น้ำยมทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนชาวบ้านต้องอพยพข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวมาอาศัยนอนริมถนน รวมทั้งรีบเร่งขนกระสอบทรายลุยน้ำเข้าพื้นที่น้ำท่วมเพื่อนำกระสอบทรายไปถมบริเวณโดยรอบเสาบ้านเพื่อป้องกันการพังทลายของตัวบ้าน
นางอัมพร กุลวรรณ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 2 บ้านลัดทรายมูล เล่าว่า ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย เผยว่า ภายหลังตลิ่งแม่น้ำยมพังทลายเป็นแนวยาว 15 เมตร ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านรวมทั้งตนขนของหนีน้ำไม่ทัน ทั้งใบยาสูบ อุปกรณ์ทำยา ปั้มน้ำ เครื่องมือการเกษตร และข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน รวมทั้งไม้กระดานพื้นบ้าน บานหน้าต่างและบันได ถูกกระแสน้ำซัดพังหลุดหาย โดยเฉพาะที่บ้านของตนเสียหายแล้วกว่า 2 แสนบาทและยังมีบ้านอีก 3 หลัง ที่อยู่ติดแม่น้ำยม ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และคาดจะมีน้ำเหนือหนุนเข้ามาอีก ทำให้ชาวบ้านบางส่วน ต้องย้ายครัวและมากางเต็นท์นอน อยู่ข้างถนนเป็นการชั่วคราว
ด้านนายจักริณ เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวระหว่างเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหมู่ที่ 2 บ้านลัดทรายมูลในครั้งนี้ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบสำรวจพื้นที่เสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือราษฏรที่ประสบภัย ขณะที่ระดับน้ำที่ท่วมพื้นที่ยังคงทรงตัวในระดับกว่า 1.50 เมตร ไม่มีทีท่าจะลดลง
"คันตลิ่งริมแม่น้ำยมที่พังทลายเป็นทางยาวกว่า 15 เมตรนั้นขณะนี้เรายังไม่สามารถที่จะเข้าทำการอุดปิดกั้นได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงเชี่ยวกรากและปริมาณน้ำในแม่น้ำยมยังคงสะสมในปริมาณมาก โดยเบื้องต้นได้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ส่งเข้าช่วยเหลือในพื้นที่ทั้งกำลังจากเจ้าน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ สภ.เมืองสุโขทัย อส.และ ตชด.ได้ผลัดเปลี่ยนกำลังเข้าช่วยชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง"
**“ภูกามยาว-จุน”เมืองพะเยาโดนแล้ว
วันเดียวกัน มีรายงานข่าวจาก จ.พะเยา แจ้งถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยาว่า เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้วโดยชาวบ้านต่างออกมาทำความสะอาด ล้างโคลนที่อยู่ภายในบ้าน ขณะที่สถานที่ราชการหลายแห่งรวมถึงบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในที่ลุ่ม ยังคงมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย
แต่บริเวณบ้านหนองลาว ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว น้ำจากกว๊านพะเยา-อ่างเก็บน้ำห้วยใหม่ และอ่างเก็บน้ำร่องสัก ใน อ.ดอกคำใต้ ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มนาปรัง รวมถึงสวนแก้วมังกร และบ่อเลี้ยงปลาของประชาชน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เช่นเดียวกับพื้นที่ อ.จุน น้ำกำลังไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้เตรียมพร้อมรับมือ ไปพร้อม ๆ กับสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว
ด้านสภากาชาดไทย โดยเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา ซึ่งนำโดยนางวิชดา วังเสมอ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด สมาชิกเหล่ากาดจังหวัด และกิ่งกาชาด อ.จุน ได้เข้ามอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค ซึ่งประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง และยารักษาโรคให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยพายุลูกเห็บใน ต.หงส์หิน อ.จุน 426 ราย ที่หอประชุมโรงเรียนพวงพะยอม เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุลูกเห็บถล่มเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือน 426 หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 5,000 ไร่ ได้รับความเสียหายหนัก
หลังจากก่อนหน้านี้ทางเทศบาลตำบลหงส์หิน ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการมอบกระเบื้องมุงหลังคาบ้านกว่า 6,000 แผ่น ส่วนพื้นที่ทางการเกษตร อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือจากทางจังหวัด
**พายุถล่มบ้านเรือนชาวลำพูนเสียหาย10หลัง
ขณะที่นายหงษ์ทอง ศีรษะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.15 บ้านใหม่ป่าฝาง ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวันที่ 11 พ.ค.ได้เกิดพายุหมุนพัดถล่มในพื้นที่ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้เสียหายอย่างหนักถึง 8 หลังคาเรือน เพราะพายุได้พัดเอากระเบื้องปลิวไป ขณะเดียวกันมีฝนตกลงมาอย่างหนักซ้ำอีกทำให้บ้านเรือนและอุปกรณ์ต่างๆของชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก
นอกจากนี้ พายุหมุนยังพัดเอากระเบื้องหลังคาของโกดังเก็บลำไย และโรงงานอบลำไยในพื้นที่หายไปด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนลำไยของชาวบ้านอีกกว่า 500 ต้นถูกพายุหมุนพัดจนหักโค่นเสียหาย ซึ่งลำไยกำลังอยู่ในช่วงแทงช่อออกดอก
นายหงษ์ทอง กล่าวว่า เมื่อเช้าวานนี้องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำดิบ ได้นำกระเบื้องมุงหลังคามาแจกจ่ายให้ชาวบ้านแล้วเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหมดคงต้องมุงหลังคาเพื่อให้อยู่อาศัยได้ชั่วคราวก่อนจนกว่าทางการจะเข้ามาช่วยเหลือ
หลังจากเกิดอุทกภัยเกิดขึ้นใน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของ จ.ลำปาง ต่อมาเวลา 16.00 น.วานนี้(12พ.ค.)พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงห่วงใยราษฎที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์ กิตติคุณนายแพทย์ดำรง เหรียญประยูร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานแพระภิกษุสงฆ์ และมอบถุงยังชีพแก่ราษฎรอีก 800 ถุง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนที่บ้านได้รับความเสียหายจากอุทกภัยทั้งหลัง 2 ราย ในพื้นที่ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ณ บริเวณที่ว่าการเทศบาลตำบลเสริมซ้าย อ.เสริมงาม โดยมีนายอธิคม สุพรรณพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้การ้อนรับและสรุปรายงานความเสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ นายอธิคม เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจังหวัดลำปางได้รับความเสียหายรวม 9 อำเภอ 31 ตำบล 163 หมู่บ้าน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเสริมงาม ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 19หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,400 คน พื้นที่ที่เสียหายมากที่สุดคือ บ้านนาเดา หมู่6 บ้านหลง หมู่7 บ้านสันติสุข หมู่8 และบ้านนา-งอย หมู่10
**น้ำยมทะลักท่วมสุโขทัยกลางดึก
ที่ จ.สุโขไทน เมื่อเช้าวานนี้(12 พ.ค.)นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายชาติชาย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมืองสุโขทัย ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 บ้านลัดทรายมูล ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 30 หลังคาเรือน หลังจากเวลาประมาณ 23.00 น.คืนวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ จ.สุโขทัยได้สูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเหตุที่ฝนตกลงมาอย่างหนักทางภาคเหนือตอนบน จนเป็นเหตุให้คันตลิ่งกั้นแม่น้ำยมพังทลายลงมาเป็นแนวยาวกว่า 15 เมตร ทำให้น้ำในแม่น้ำยมทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนชาวบ้านต้องอพยพข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวมาอาศัยนอนริมถนน รวมทั้งรีบเร่งขนกระสอบทรายลุยน้ำเข้าพื้นที่น้ำท่วมเพื่อนำกระสอบทรายไปถมบริเวณโดยรอบเสาบ้านเพื่อป้องกันการพังทลายของตัวบ้าน
นางอัมพร กุลวรรณ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 2 บ้านลัดทรายมูล เล่าว่า ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย เผยว่า ภายหลังตลิ่งแม่น้ำยมพังทลายเป็นแนวยาว 15 เมตร ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านรวมทั้งตนขนของหนีน้ำไม่ทัน ทั้งใบยาสูบ อุปกรณ์ทำยา ปั้มน้ำ เครื่องมือการเกษตร และข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน รวมทั้งไม้กระดานพื้นบ้าน บานหน้าต่างและบันได ถูกกระแสน้ำซัดพังหลุดหาย โดยเฉพาะที่บ้านของตนเสียหายแล้วกว่า 2 แสนบาทและยังมีบ้านอีก 3 หลัง ที่อยู่ติดแม่น้ำยม ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และคาดจะมีน้ำเหนือหนุนเข้ามาอีก ทำให้ชาวบ้านบางส่วน ต้องย้ายครัวและมากางเต็นท์นอน อยู่ข้างถนนเป็นการชั่วคราว
ด้านนายจักริณ เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวระหว่างเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหมู่ที่ 2 บ้านลัดทรายมูลในครั้งนี้ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบสำรวจพื้นที่เสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือราษฏรที่ประสบภัย ขณะที่ระดับน้ำที่ท่วมพื้นที่ยังคงทรงตัวในระดับกว่า 1.50 เมตร ไม่มีทีท่าจะลดลง
"คันตลิ่งริมแม่น้ำยมที่พังทลายเป็นทางยาวกว่า 15 เมตรนั้นขณะนี้เรายังไม่สามารถที่จะเข้าทำการอุดปิดกั้นได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงเชี่ยวกรากและปริมาณน้ำในแม่น้ำยมยังคงสะสมในปริมาณมาก โดยเบื้องต้นได้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ส่งเข้าช่วยเหลือในพื้นที่ทั้งกำลังจากเจ้าน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ สภ.เมืองสุโขทัย อส.และ ตชด.ได้ผลัดเปลี่ยนกำลังเข้าช่วยชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง"
**“ภูกามยาว-จุน”เมืองพะเยาโดนแล้ว
วันเดียวกัน มีรายงานข่าวจาก จ.พะเยา แจ้งถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยาว่า เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้วโดยชาวบ้านต่างออกมาทำความสะอาด ล้างโคลนที่อยู่ภายในบ้าน ขณะที่สถานที่ราชการหลายแห่งรวมถึงบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในที่ลุ่ม ยังคงมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย
แต่บริเวณบ้านหนองลาว ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว น้ำจากกว๊านพะเยา-อ่างเก็บน้ำห้วยใหม่ และอ่างเก็บน้ำร่องสัก ใน อ.ดอกคำใต้ ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มนาปรัง รวมถึงสวนแก้วมังกร และบ่อเลี้ยงปลาของประชาชน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เช่นเดียวกับพื้นที่ อ.จุน น้ำกำลังไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้เตรียมพร้อมรับมือ ไปพร้อม ๆ กับสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว
ด้านสภากาชาดไทย โดยเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา ซึ่งนำโดยนางวิชดา วังเสมอ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด สมาชิกเหล่ากาดจังหวัด และกิ่งกาชาด อ.จุน ได้เข้ามอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค ซึ่งประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง และยารักษาโรคให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยพายุลูกเห็บใน ต.หงส์หิน อ.จุน 426 ราย ที่หอประชุมโรงเรียนพวงพะยอม เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุลูกเห็บถล่มเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือน 426 หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 5,000 ไร่ ได้รับความเสียหายหนัก
หลังจากก่อนหน้านี้ทางเทศบาลตำบลหงส์หิน ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการมอบกระเบื้องมุงหลังคาบ้านกว่า 6,000 แผ่น ส่วนพื้นที่ทางการเกษตร อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือจากทางจังหวัด
**พายุถล่มบ้านเรือนชาวลำพูนเสียหาย10หลัง
ขณะที่นายหงษ์ทอง ศีรษะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.15 บ้านใหม่ป่าฝาง ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวันที่ 11 พ.ค.ได้เกิดพายุหมุนพัดถล่มในพื้นที่ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้เสียหายอย่างหนักถึง 8 หลังคาเรือน เพราะพายุได้พัดเอากระเบื้องปลิวไป ขณะเดียวกันมีฝนตกลงมาอย่างหนักซ้ำอีกทำให้บ้านเรือนและอุปกรณ์ต่างๆของชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก
นอกจากนี้ พายุหมุนยังพัดเอากระเบื้องหลังคาของโกดังเก็บลำไย และโรงงานอบลำไยในพื้นที่หายไปด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนลำไยของชาวบ้านอีกกว่า 500 ต้นถูกพายุหมุนพัดจนหักโค่นเสียหาย ซึ่งลำไยกำลังอยู่ในช่วงแทงช่อออกดอก
นายหงษ์ทอง กล่าวว่า เมื่อเช้าวานนี้องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำดิบ ได้นำกระเบื้องมุงหลังคามาแจกจ่ายให้ชาวบ้านแล้วเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหมดคงต้องมุงหลังคาเพื่อให้อยู่อาศัยได้ชั่วคราวก่อนจนกว่าทางการจะเข้ามาช่วยเหลือ
