ASTVผู้จัดการรายวัน - นายกฯยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว! พร้อมแถลงชัดเจนอีก9พ.ค. ย้ำก่อนบิน “เรียบร้อยตามที่พูด” จุดยืนกองทัพ ไม่ยุ่งเกี่ยวเลือกตั้ง กกต. ยัน พร้อมจัดการเลือกตั้งทันทีที่มีพ.ร.ฎ.ยุบสภา โปรดเกล้าฯลงมา ชี้ หากศาลรธน.พิจารณากฎหมายลูก ไม่ทัน สามารถออกระเบียบแทนได้
วานนี้(6พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมาเฝ้ารอทำข่าวความชัดเจนในเรื่องของการยุบสภา เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์สุดท้ายของสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. จึงคาดกันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแถลงความชัดเจนดังกล่าวก่อนเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการประชุมระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้
จนถึงเวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์ เปิดแถลงข่าวที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์เดินเข้ามายืนที่โพเดียมแถลงก่อนยิ้มและถามสื่อมวลชนว่า “พร้อมไหมครับ บ่ายนี้ผมจะเดินทางไปอินโดนีเซีย ดังนั้นวันนี้จะมีการสัมภาษณ์ครั้งเดียว มีอะไรที่จะถามไม่เกี่ยวกับยุบสภาเชิญเลย” ซึ่งผู้สื่อข่าวพากันหัวเราะและงุนงงและพยายามที่จะถามถึงความชัดเจนเรื่องยุบสภา แต่นายอภิสิทธิ์ยืนยันคำเดิมว่าให้ถามเรื่องอื่นก่อน จากนั้นนายกฯได้แถลงมติครม.ชุดเล็กในเรื่องปุ๋ย ผลการประชุมกพต.และชี้แจงถึงมติครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการอนุมัติงบประมาณแสนล้านบาท
โดยในตอนท้ายก่อนจบการแถลง 1 นาที นายอภิสิทธิ์ กล่าวขึ้นมาเองว่า เรื่องของการยุบสภา บ่ายวันนี้( 6 พ.ค.) ก่อนที่ตนจะเดินทางไปประชุมอาเซียน ประเทศอินโดนีเซีย จะดำเนินการในเรื่องของการในเรื่องของการนำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งเป็นไปตามที่ตนได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้แล้ว และได้แจ้งต่อสาธารณะ เมื่อนำเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว จะมีขั้นตอนการดำเนินการภายใน และตนจะได้แถลงให้ทราบอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม หลังจากที่ตนได้เดินทางกลับมาแล้ว
“ผมมั่นใจว่า ดำเนินการในแนวทางนี้ ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น และมั่นใจว่า จะเป็นแนวทางที่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไปได้ ในช่วงที่มีการดำเนินการตรงนี้ ขอความกรุณาว่า ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องเหล่านี้ ขอให้ตนได้มาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์นี้ ขอบคุณครับ” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกฯก็เดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่ให้สื่อมวลชนได้ถามอีก และในเวลา 11.15 น.นายกฯเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลโดยทันที
มาร์คย้ำก่อนบิน “เรียบร้อยตามที่พูด”
เวลา 15.55 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางถึงห้องรับรองพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี409 ในเวลา16.25 น. โดยมีเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยมาให้การต้อนรับ
โดยก่อนขึ้นลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องรับรอง ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกายุบสภาเรียบร้อยหรือยัง ซึ่งนายกฯตอบสั้นๆว่า "เรียบร้อยตามที่พูด" แล้วจากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ไปทันที
“เทือก” ให้ฟังนายกฯคนเดียว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หารือเรื่องรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งในช่วงนี้อาจจะมีเรื่องสำคัญที่จะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา และ จะต้องดำเนินการอะไรต่อ ว่า ไม่มี ไม่ได้มอบอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น
เมื่อถามว่า คนที่จะประกาศยุบสภาได้คือนายกรัฐมนตรีคนเดียว จะไม่มีการประกาศยุบสภาบนเครื่องบินใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ใช่ ส่วนเรื่องการยุบสภาคิดว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีคงได้ชี้แจงเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ตนไม่ต้องพูดซ้ำ ทุกอย่างให้ฟังนายกรัฐมนตรี
กกต.รอกม.ลูกแค่ 2 วันก่อนสมัคร
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายพ.ร.ฎ.ยุบสภาในช่วงบ่ายวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า กกต.ต้องรอให้มีพ.ร.ฎ.ยุบสภา โปรดเกล้าฯ มาก่อนจึงจะมีความชัดเจนในเรื่องของวันเลือกตั้ง และวันประกาศรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน โดยกกต. ได้คาดการณ์วันเลือกตั้งในช่วงวันที่ 26 มิ.ย. หรือ 3 ก.ค. อย่างไรก็ตามในส่วนของการเตรียมการเลือกตั้งได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการแต่งตั้ง กกต.ประจำเขตเลือกตั้ง และผอ.ประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อทำหน้าที่รับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ส่วนกระแสข่าวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายอำเภอที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการแต่งตั้งนายอำเภอที่เป็น ผอ.เขตเลือกตั้งแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหากศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ ไม่ทันจะกระทบต่อแผนการดำเนินการเลือกตั้งของกกต. นายประพันธ์ กล่าวว่า คงไม่กระทบ เพราะกกต.สามารถรอการพิจารณาของศาลได้ไม่เกิน 2-3 วัน ก่อนที่กกต.จะเปิดรับสมัคร ส.ส. แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยได้ทันพร้อมกับช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง โปรดเกล้าฯ ลงมา แต่หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่ทัน กกต. ก็สามารถออกระเบียบประกาศกกต. ทั้งนี้ กกต.ได้ร่างระเบียบประกาศดังกล่าวไว้พร้อมแล้ว นอกจากนี้พรรคการเมืองต้องมีการเตรียมความพร้อมของผู้สมัคร ซึ่งจะต้องไม่มีชื่อซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น และจะต้องเป็นสังกัดเป็นสมาชิกพรรคก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 30 วันกรณีที่มีการยุบสภาฯ
จุดยืนกองทัพ ไม่ยุ่งเกี่ยวเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวภายหลังการประชุมระดับผู้บังคับกองพันว่า นโยบายของกองทัพบกมีอย่างเดียวคือ ให้การสนับสนุนการเลือกตั้งตามกฎหมายที่มีอยู่ โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือเรื่องการรักษาความปลอดภัย(รปภ.) ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอมาก็ต้องสนับสนุน ตนได้เน้นย้ำว่าให้ระมัดระวังการเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการนับคะแนน หากหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง
ทั้งนี้ เนื้อหาที่ไปพูดบนเวที ก็ให้ทหาร และ ครอบครัวตัดสินเองว่า ที่เสนอมาเป็นนโยบายที่มีความเป็นไปได้แค่ไหน อย่างไร และที่เคยพูดมาแล้วทำได้หรือยัง ผมว่านโยบายต่างๆ พูดมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นต้องดูว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนอย่างไร ทุกนโยบายมันต้องใช้เงิน ใช้ทองมหาศาล ได้มาจากที่ไหนผมก็ไม่รู้ขณะเดียวกัน ภาษีก็ไม่ควรจะเก็บจนประชาชนเดือดร้อน
เมื่อถามว่า รับได้หรือไม่หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเพราะยังมีการพาดพิงสถาบันอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องถามประชาชนส่วนใหญ่รับได้หรือไม่ ถ้าเขารับได้ก็รับได้ เพราะเป็นกลไกของประชาธิปไตย ตนจะบอกว่ารับไม่ได้ ได้อย่างไร อย่าไปดูถูกคนไทย ให้โอกาสเขาคิด ได้เลือก และ ตัดสินใจ อย่าไปชี้นำเขามากนัก เมื่อถามว่า อยากได้รัฐบาลและนักการเมืองแบบไหน “ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”
ที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ว่า กองทัพอากาศก็ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองที่จะเข้ามาหาเสียงภายในกองทัพ ยืนยันจะให้ความเป็นกลางและปฏิบัติกับพรรคการเมืองอย่างเท่าเทียม
ส่วนเรื่องสถาบันเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยให้ความเคารพ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าทุกครั้งที่ไปกล่าวถึงสถาบันทั้งคนไทย โดยเฉพาะย่างยิ่งทหารเราไม่สบายใจ ดังนั้นการที่ กกต.กำหนดขอบเขตและเงื่อนไขเป็นสิ่งที่ดี คิดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคคงต้องพยายามหลีกเลี่ยง และหาเสียงในจุดที่ประชาชนนิยมชมชอบมากกว่า อย่าดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนใครที่นำสถาบันมาหาเสียงตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ
เรายืนยันว่ากองทัพจะเป็นกลาง ทั้งนี้หากมีการยุบสภาแล้วคงจะมีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน หรือในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งทุกฝ่ายก็อยากให้เกิดความเรียบร้อย ถ้าเหตุการณ์มีความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งคงไม่มีปัญหา
วานนี้(6พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมาเฝ้ารอทำข่าวความชัดเจนในเรื่องของการยุบสภา เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์สุดท้ายของสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. จึงคาดกันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแถลงความชัดเจนดังกล่าวก่อนเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการประชุมระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้
จนถึงเวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์ เปิดแถลงข่าวที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์เดินเข้ามายืนที่โพเดียมแถลงก่อนยิ้มและถามสื่อมวลชนว่า “พร้อมไหมครับ บ่ายนี้ผมจะเดินทางไปอินโดนีเซีย ดังนั้นวันนี้จะมีการสัมภาษณ์ครั้งเดียว มีอะไรที่จะถามไม่เกี่ยวกับยุบสภาเชิญเลย” ซึ่งผู้สื่อข่าวพากันหัวเราะและงุนงงและพยายามที่จะถามถึงความชัดเจนเรื่องยุบสภา แต่นายอภิสิทธิ์ยืนยันคำเดิมว่าให้ถามเรื่องอื่นก่อน จากนั้นนายกฯได้แถลงมติครม.ชุดเล็กในเรื่องปุ๋ย ผลการประชุมกพต.และชี้แจงถึงมติครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการอนุมัติงบประมาณแสนล้านบาท
โดยในตอนท้ายก่อนจบการแถลง 1 นาที นายอภิสิทธิ์ กล่าวขึ้นมาเองว่า เรื่องของการยุบสภา บ่ายวันนี้( 6 พ.ค.) ก่อนที่ตนจะเดินทางไปประชุมอาเซียน ประเทศอินโดนีเซีย จะดำเนินการในเรื่องของการในเรื่องของการนำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งเป็นไปตามที่ตนได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้แล้ว และได้แจ้งต่อสาธารณะ เมื่อนำเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว จะมีขั้นตอนการดำเนินการภายใน และตนจะได้แถลงให้ทราบอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม หลังจากที่ตนได้เดินทางกลับมาแล้ว
“ผมมั่นใจว่า ดำเนินการในแนวทางนี้ ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น และมั่นใจว่า จะเป็นแนวทางที่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไปได้ ในช่วงที่มีการดำเนินการตรงนี้ ขอความกรุณาว่า ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องเหล่านี้ ขอให้ตนได้มาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์นี้ ขอบคุณครับ” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกฯก็เดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่ให้สื่อมวลชนได้ถามอีก และในเวลา 11.15 น.นายกฯเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลโดยทันที
มาร์คย้ำก่อนบิน “เรียบร้อยตามที่พูด”
เวลา 15.55 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางถึงห้องรับรองพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี409 ในเวลา16.25 น. โดยมีเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยมาให้การต้อนรับ
โดยก่อนขึ้นลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องรับรอง ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกายุบสภาเรียบร้อยหรือยัง ซึ่งนายกฯตอบสั้นๆว่า "เรียบร้อยตามที่พูด" แล้วจากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ไปทันที
“เทือก” ให้ฟังนายกฯคนเดียว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หารือเรื่องรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งในช่วงนี้อาจจะมีเรื่องสำคัญที่จะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา และ จะต้องดำเนินการอะไรต่อ ว่า ไม่มี ไม่ได้มอบอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น
เมื่อถามว่า คนที่จะประกาศยุบสภาได้คือนายกรัฐมนตรีคนเดียว จะไม่มีการประกาศยุบสภาบนเครื่องบินใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ใช่ ส่วนเรื่องการยุบสภาคิดว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีคงได้ชี้แจงเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ตนไม่ต้องพูดซ้ำ ทุกอย่างให้ฟังนายกรัฐมนตรี
กกต.รอกม.ลูกแค่ 2 วันก่อนสมัคร
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายพ.ร.ฎ.ยุบสภาในช่วงบ่ายวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า กกต.ต้องรอให้มีพ.ร.ฎ.ยุบสภา โปรดเกล้าฯ มาก่อนจึงจะมีความชัดเจนในเรื่องของวันเลือกตั้ง และวันประกาศรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน โดยกกต. ได้คาดการณ์วันเลือกตั้งในช่วงวันที่ 26 มิ.ย. หรือ 3 ก.ค. อย่างไรก็ตามในส่วนของการเตรียมการเลือกตั้งได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการแต่งตั้ง กกต.ประจำเขตเลือกตั้ง และผอ.ประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อทำหน้าที่รับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ส่วนกระแสข่าวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายอำเภอที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการแต่งตั้งนายอำเภอที่เป็น ผอ.เขตเลือกตั้งแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหากศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ ไม่ทันจะกระทบต่อแผนการดำเนินการเลือกตั้งของกกต. นายประพันธ์ กล่าวว่า คงไม่กระทบ เพราะกกต.สามารถรอการพิจารณาของศาลได้ไม่เกิน 2-3 วัน ก่อนที่กกต.จะเปิดรับสมัคร ส.ส. แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยได้ทันพร้อมกับช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง โปรดเกล้าฯ ลงมา แต่หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่ทัน กกต. ก็สามารถออกระเบียบประกาศกกต. ทั้งนี้ กกต.ได้ร่างระเบียบประกาศดังกล่าวไว้พร้อมแล้ว นอกจากนี้พรรคการเมืองต้องมีการเตรียมความพร้อมของผู้สมัคร ซึ่งจะต้องไม่มีชื่อซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น และจะต้องเป็นสังกัดเป็นสมาชิกพรรคก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 30 วันกรณีที่มีการยุบสภาฯ
จุดยืนกองทัพ ไม่ยุ่งเกี่ยวเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวภายหลังการประชุมระดับผู้บังคับกองพันว่า นโยบายของกองทัพบกมีอย่างเดียวคือ ให้การสนับสนุนการเลือกตั้งตามกฎหมายที่มีอยู่ โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือเรื่องการรักษาความปลอดภัย(รปภ.) ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอมาก็ต้องสนับสนุน ตนได้เน้นย้ำว่าให้ระมัดระวังการเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการนับคะแนน หากหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง
ทั้งนี้ เนื้อหาที่ไปพูดบนเวที ก็ให้ทหาร และ ครอบครัวตัดสินเองว่า ที่เสนอมาเป็นนโยบายที่มีความเป็นไปได้แค่ไหน อย่างไร และที่เคยพูดมาแล้วทำได้หรือยัง ผมว่านโยบายต่างๆ พูดมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นต้องดูว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนอย่างไร ทุกนโยบายมันต้องใช้เงิน ใช้ทองมหาศาล ได้มาจากที่ไหนผมก็ไม่รู้ขณะเดียวกัน ภาษีก็ไม่ควรจะเก็บจนประชาชนเดือดร้อน
เมื่อถามว่า รับได้หรือไม่หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเพราะยังมีการพาดพิงสถาบันอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องถามประชาชนส่วนใหญ่รับได้หรือไม่ ถ้าเขารับได้ก็รับได้ เพราะเป็นกลไกของประชาธิปไตย ตนจะบอกว่ารับไม่ได้ ได้อย่างไร อย่าไปดูถูกคนไทย ให้โอกาสเขาคิด ได้เลือก และ ตัดสินใจ อย่าไปชี้นำเขามากนัก เมื่อถามว่า อยากได้รัฐบาลและนักการเมืองแบบไหน “ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”
ที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ว่า กองทัพอากาศก็ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองที่จะเข้ามาหาเสียงภายในกองทัพ ยืนยันจะให้ความเป็นกลางและปฏิบัติกับพรรคการเมืองอย่างเท่าเทียม
ส่วนเรื่องสถาบันเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยให้ความเคารพ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าทุกครั้งที่ไปกล่าวถึงสถาบันทั้งคนไทย โดยเฉพาะย่างยิ่งทหารเราไม่สบายใจ ดังนั้นการที่ กกต.กำหนดขอบเขตและเงื่อนไขเป็นสิ่งที่ดี คิดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคคงต้องพยายามหลีกเลี่ยง และหาเสียงในจุดที่ประชาชนนิยมชมชอบมากกว่า อย่าดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนใครที่นำสถาบันมาหาเสียงตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ
เรายืนยันว่ากองทัพจะเป็นกลาง ทั้งนี้หากมีการยุบสภาแล้วคงจะมีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน หรือในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งทุกฝ่ายก็อยากให้เกิดความเรียบร้อย ถ้าเหตุการณ์มีความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งคงไม่มีปัญหา