xs
xsm
sm
md
lg

พีดีเฮ้าส์รุกแฟรนไชส์ไม่เลิก เล็งขยายสาขาบุกตลาดตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “พีดีเฮ้าส์” รุกตลาดรับสร้างบ้านต่อเนื่องหลังสร้างกระแสแฟรนไชส์รับสร้างบ้านแห่งแรกในเมืองไทยประสบความเสร็จ เดินหน้าต่อจับมือกรมพัฒนาธุรกิจฯ+กรมส่งเสริมการส่งออก ขนแฟรนไชส์คนไทยไปขายกลุ่มประเทศอาเซียน ประเดิมโรดโชว์ พม่า ตามด้วยอินโดนีเซีย มั่นใจศักยภาพแบรนด์ไทยขายได้

นายสิทธิ สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัทพีดีเฮ้าส์ ดีเวลลอป จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ “ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จในธุรกิจแฟรนไซส์รับสร้างบ้านซึ่งนับว่าเป็นแฟรนไชส์รับสร้างบ้านแห่งแรกของประเทศไทย เพียงระยะเวลาเกือบ 2 ปีมีสาขาแฟรนไชส์แล้ว 20 สาขาและคาดว่าจะเพิ่มเป็น 28 สาขาภายในปีนี้

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดแบรนด์ใหม่โดยรับสร้างบ้านในระดับราคา 8 แสนบาท – 2 ล้านบาท เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากแสดงความจำนงค์ที่จะสร้างบ้านในระดับราคาดังกล่าว โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ดังนั้นบริษัทจึงตัดสินใจยื่นขอจดทะเบียนแบรนด์ใหม่ดังกล่าวโดยแฟรนไชส์เดิมสามารถซื้อแบรนด์รับสร้างใหม่เพิ่มโดยไม่ต้องเปิดสาขาแฟรนไชส์ไหม่

จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้กรมธุรกิจการค้าต่างประเทศและกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีนโยบายที่จะนำแฟรนไชส์ของคนไทยไปขายยังต่างประเทศโดยเริ่มจากกลุ่มประเทศในแถบอาเซี่ยน เช่น ลาว พม่า เวียดนาม และอินโดนีเซีย ได้เล็งเห็นแฟรน์ไชส์ศูนย์รับสร้างพีดีเฮ้าส์ จึงได้ชักชวนให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

สำหรับการไปโรดโชว์ยังกลุ่มประเทศดังกล่าวจะมี 2 วิธี คือ การจัดงานสัมมาแฟรนไชส์ และการพาธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยไปพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการในประเทศเป้าหมาย โดยจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 1-3 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่ประเทศพม่า โดยกรมส่งเสริมการส่งออกซึ่งมีวิทยากรชาวไทยไปร่วมบรรยายและแฟรนไชส์จากไทยอีกกว่า 10 ราย และอีกครั้งจะจัดในเดือนกรกฎาคม 54 ที่ประเทศพม่าและอินโดนีเซีย หลังจากนั้นจะจัดในเดือนตุลาคม 54

“ที่ผ่านมามีแฟรนไชน์ของคนไทยที่ไปประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ทั้งการขายแบรนด์มาสเตอร์ โดยที่แฟรนไชส์ในต่างประเทศสามารถขยายสาขาได้เอง รวมถึงการขายสาขาแฟรนไชส์ เช่น แบล็คแคนยอน, อินเด็กซ์ลิฟวิงมอลล์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยัมีมีแฟรนไชส์ล้างรถโมลิแคร์ บายคาร์แลค 68, โชคดี ติ๋มซำ และอีกหลายธุรกิจที่ต้องการที่จะขายแฟรนไชส์ในต่างประเทศ”

สำหรับการไปเสนอขายแฟรนไชส์ในต่างประเทศครั้งนี้บริษัทจะยึดหลักของ รศ.มานพ พงศทัต อาจารย์พิเศษภาควิชาเคหะการ คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์วิทยาลัย ซึ่งถือเป็นกูรูของวงการอสังหาริมทรัพย์โดยแนะนำว่า กากรไปต่างประเทศของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะต้องเริ่มตั้งแต่ 1.การไปเที่ยวเพื่อให้รู้ถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ของประเทศนั้นๆ 2.ไปหาประสบการณ์ 3.ไปซื้อของเค้า และขั้นตอนสุดท้ายไปหาผู้ร่วมธุรกิจ

"โดยการขยายแฟรนไชส์ไปต่างประเทศครั้งนี้ บริษัทจะขายในรูปแบบแฟรนไชส์มาสเตอร์ ซึ่งแฟรนไชส์มาสเตอร์ในแต่ละประเทศสามารถขยายแฟรนไชส์สาขาได้เอง แต่จะต้องซื้อแฟรนไชส์ในครั้งแรกในราคาสูงกว่าแฟรนไชส์ซีค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทจะจัดเก็บส่วนแบ่งจากรายได้อีกที"

นายสิทธิพร กล่าวต่อว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านถือว่าเป็นเรื่องใหม่ไม่เฉพาะในเมืองไทย แต่เชื่อว่าไทยมีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพและแบรนด์ของสินค้าในกลุ่มประเทศ เวียดนาม,พม่า, ลาวและอินโดนีเซีย โดยศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์จะนำความสำเร็จในไทย นอกจากคุณภาพและแบรนด์สินค้าไปนำเสนอยังผู้ประกอบการในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามหากเข้าไปในประเทศเหล่านี้จะต้องเจอกับคู่แข่งจากประเทศในแถบยุโรป ที่ทำตลาดอยู่ก่อนหน้านี้ แต่เชื่อว่าจะสามารถแข่งขันได้ไม่ยากเพราะไทยมีต้นทุนที่ถูกกว่ามาก
กำลังโหลดความคิดเห็น