ASTVผู้จัดการรายวัน - กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง แย้มผลงานไตรมาสแรกปีนี้สดใส เหตุรับรู้รายได้จากงานเก่า-รับงานใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดัน Backlog ในมือแตะ 1,600 ล้านบาท "โศภชา " เผยเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง เผยขณะนี้มี Backlog ในมือเพิ่มเป็น 1,600 ล้านบาทแล้ว ระบุช่วงที่เหลือของปี 54 ความต้องการใช้ไฟฟ้าในและต่างประเทศยังขยายตัว พร้อมยิ้มรับเลือกตั้งดันเศรษฐกิจบูมส่งผลบวกต่อบริษัท
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 54 คาดว่าน่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน โดยประเมินจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ทั้งรายได้จากธุรกิจเดิมคือ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าทั้งจำหน่ายภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศพม่ายังคงมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการส่งออกประเทศอื่นๆ เช่น ลาว เวียดนาม มาเลเซีย ยังขยายตัวได้ดี ขณะเดียวกันปีนี้ยังมีรายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นด้วย นั่นคือรายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรก เฟสที่ 1 ขนาด 3 เมกกะวัตต์ ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
" ปีนี้จะเป็นปีที่ดีมากอีกปีหนึ่งของ GUNKUL ที่จะเติบโตอย่างมากทั้งรายได้จากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศพม่าที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของบริษัทโดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตแตะระดับ 100% ทีเดียว ทางด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันรายได้และผลกำไรของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น และหากนับรวมงานที่ได้รับจากบริษัทโซลาร์ต้าและงานอื่นๆ ที่ได้รับมาเพิ่มเติม ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้จะสร้างรายได้ที่ไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 100 % จากปี 53 ได้อย่างแน่นอน "
สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ GUNKUL มั่นใจว่าความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับผลบวกตามไปด้วย ซึ่งจากการที่มูลค่างานต่างๆ ทยอยเข้ามาในบริษัทอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรับงานของ บริษัทโซลาร์ต้า จำกัด ซึ่งเป็นงานรับเหมาก่อสร้างผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 8 เมกกะวัตต์ ด้านฐานราก การจัดหาแผงโซลาร์เซลล์ การคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม และการติดตั้งระบบทั้งหมดจนสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ จากบริษัทโซลาร์ต้า จำกัด มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 54 โดยจะรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนั้น GUNKUL ยังมีรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังคงมียอดสั่งซื้อเข้ามาสม่ำเสมอ ทั้งนี้ GUNKUL ได้ยื่นประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ไปแล้วจำนวน 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท
โดย ปัจจุบันบริษัทมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) แล้วจำนวนกว่า 1,600 ล้านบาท จากไตรมาสแรกที่มี Backlog จำนวน 800 ล้านบาท และบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่องโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือให้มากขึ้น พร้อมกันนี้ กรรมการผู้จัดการ GUNKUL ได้กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ และจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 54 ว่าน่าจะส่งผลไปในทิศทางที่เป็นบวกมากกว่า เพราะปัญหาการเมืองน่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งบริษัทไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากงานต่างๆ ที่ได้ประมูลมาก่อนหน้านี้ได้เซ็นสัญญาไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันหาก ได้รัฐบาลชุดใหม่ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นล้วนเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต ซึ่งหมายความว่าจะส่งผลดีต่องานที่บริษัทดำเนินการอยู่เช่นกัน
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 54 คาดว่าน่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน โดยประเมินจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ทั้งรายได้จากธุรกิจเดิมคือ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าทั้งจำหน่ายภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศพม่ายังคงมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการส่งออกประเทศอื่นๆ เช่น ลาว เวียดนาม มาเลเซีย ยังขยายตัวได้ดี ขณะเดียวกันปีนี้ยังมีรายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นด้วย นั่นคือรายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรก เฟสที่ 1 ขนาด 3 เมกกะวัตต์ ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
" ปีนี้จะเป็นปีที่ดีมากอีกปีหนึ่งของ GUNKUL ที่จะเติบโตอย่างมากทั้งรายได้จากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศพม่าที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของบริษัทโดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตแตะระดับ 100% ทีเดียว ทางด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันรายได้และผลกำไรของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น และหากนับรวมงานที่ได้รับจากบริษัทโซลาร์ต้าและงานอื่นๆ ที่ได้รับมาเพิ่มเติม ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้จะสร้างรายได้ที่ไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 100 % จากปี 53 ได้อย่างแน่นอน "
สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ GUNKUL มั่นใจว่าความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับผลบวกตามไปด้วย ซึ่งจากการที่มูลค่างานต่างๆ ทยอยเข้ามาในบริษัทอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรับงานของ บริษัทโซลาร์ต้า จำกัด ซึ่งเป็นงานรับเหมาก่อสร้างผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 8 เมกกะวัตต์ ด้านฐานราก การจัดหาแผงโซลาร์เซลล์ การคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม และการติดตั้งระบบทั้งหมดจนสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ จากบริษัทโซลาร์ต้า จำกัด มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 54 โดยจะรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนั้น GUNKUL ยังมีรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังคงมียอดสั่งซื้อเข้ามาสม่ำเสมอ ทั้งนี้ GUNKUL ได้ยื่นประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ไปแล้วจำนวน 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท
โดย ปัจจุบันบริษัทมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) แล้วจำนวนกว่า 1,600 ล้านบาท จากไตรมาสแรกที่มี Backlog จำนวน 800 ล้านบาท และบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่องโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือให้มากขึ้น พร้อมกันนี้ กรรมการผู้จัดการ GUNKUL ได้กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ และจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 54 ว่าน่าจะส่งผลไปในทิศทางที่เป็นบวกมากกว่า เพราะปัญหาการเมืองน่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งบริษัทไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากงานต่างๆ ที่ได้ประมูลมาก่อนหน้านี้ได้เซ็นสัญญาไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันหาก ได้รัฐบาลชุดใหม่ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นล้วนเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต ซึ่งหมายความว่าจะส่งผลดีต่องานที่บริษัทดำเนินการอยู่เช่นกัน