xs
xsm
sm
md
lg

“คน 2 ชื่อ”ควงสองเมีย โกงกินทุจริตทุกรูปแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อีกไม่กี่วันคณะรัฐมนตรีชุดนี้ก็จะมีสถานะเป็นเพียงแค่ ครม.รักษาการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ. ตลอดกว่าสองปีที่ผ่านมารัฐมนตรีแต่ละคนปฏิบัติหน้าที่กันเพื่อชาติ หรือเพิ่มเงินในกระเป๋าตัวเอง
ผลจากการทำงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ และประชาชนจะเป็นคนตัดสินจากภาพรวมการทำงานของรัฐบาลว่า ยังสมควรที่จะให้ความไว้วางใจกลับมาบริหารประเทศอีกครั้งหรือไม่ ผ่านการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคมนี้
นักการเมืองหลายคนในรัฐบาลถูกเรียกว่าเป็นเหมือนแมวเก้าชีวิต ด้วยความเก๋าเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองสูง ก็สามารถนำพาตัวเองข้าสู่ขุมข่ายทางอำนาจได้อย่างน่าอัศจรรย์ เช่น คุณสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ได้เป็นแม้กระทั่ง ส.ส.เพราะสอบตกในจังหวัดขอนแก่น พ่ายแพ้อย่างยับเยินในสนามเลือกตั้งคราวที่ผ่านมา
ที่ว่ามายังไม่พอ คุณสุวิทย์ คุณกิตติยังอยู่ในวิบากกรรมมีคดีที่อยู่ในระหว่างการไต่สวนของ ปปช.จากกรรมเก่าที่เข้าไปแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการระดับ 7 ระดับ 8 โดยมีการออกคำสั่งในที่ประชุมให้ย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะรัฐมนตรีมีอำนาจย้ายข้าราชการระดับปลัดกระทรวงเท่านั้น เรื่องนี้มีบันทึกรายงานการประชุมเป็นหลักฐานและ ปปช.ก็เรียก “สุวิทย์” ไปรับทราบข้อกล่าวหาหลายครั้ง แต่มีการบ่ายเบียงอ้างว่าเดินทางไปเมืองนอกตลอดเวลา
แต่ด้วยความจัดเจนทางการเมืองเขาก็สามารถรั้งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯได้ ตั้งแต่ยุค สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อมีการเปลี่ยนขั้วย้ายข้าง “คุณสุวิทย์ คุณกิตติ” ก็ยังกระเตงลูกพรรคกิจสังคม 5 ส.ส.มาคว้าโควต้ารัฐมนตรีกระทรวงเดิมได้อีกรอบ
ทำได้ขนาดนี้ต้องเรียกว่าไม่ธรรมดา ส่วนอะไรทำให้ ส.ส. 5 คนยอมเป็นฐานการเมืองเพื่อให้เก้าอี้รัฐมนตรีของ คุณสุวิทย์ คุณกิตติ มั่นคงนั้น คนในแวดวงการเมืองเขารู้ดี.....
ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้กำลังใกล้ปิดฉากตนเอง ก็ขอสะท้อนความทุกข์ของข้าราชการที่โดนนักการเมืองในครม.ชุดนี้ข่มเหงรีดไถอย่างมูมมามไร้ยางอาย มีเสียงลือกันให้แซ่ดว่า ทุกงานในกระทรวงแห่งหนึ่งที่มีคนมีอำนาจเป็น “คนสองชื่อ”จ่ายกันขนหัวลุก รวมทั้งมีการซื้อขายเก้าอี้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ข้าราชการในกระทรวงนี้เล่าให้ฟังอย่างเจ็บช้ำน้ำใจว่า วันนี้ถ้าจะได้ตำแหน่งต้องเข้า “หลังบ้าน” จ่ายกันแต่ละทีตัวเลขไม่ใช่น้อย เพราะเก็บดะไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการระดับกลาง ไล่ตั้งแต่ซี 7 เป็นต้นไป หากอยากได้ใคร่ดีต้องการเลื่อนขันเลื่อนตำแหน่งก็ต้องจ่ายแล้วเบาะ ๆ ซีละ 1 แสนบาท
เช่น ถ้าต้องการไต่ระดับไปอยู่ซี 8 ก็ต้องจ่ายค่าซีตั้งแต่นับหนึ่ง รวมแล้วก็ต้องจ่ายขั้นต่ำที่ 8 แสนบาท แล้วลองคิดดูว่ามีข้าราชการในระดับนี้จำนวนเท่าไหร่ หากทุกคนต้องจ่ายเงินตามตัวเลขดังกล่าวบวกรวมกันแล้วจะเป็นยอดเท่าใด คนเก่งคำนวณอย่าง “คนสองชื่อ” น่าจะพอคิดออก
ที่กล่าวข้างต้นเป็นกระบวนการเลื่อนขั้นเพิ่มซีโดยไม่เกี่ยวกับตำแหน่งและสถานที่ แต่ถ้าปัจจัยมากความต้องการสูงมีการระบุตำแหน่งและสถานที่ เช่น ตำแหน่ง ผอ.สำนักในพื้นที่จังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือ ต้องเสียค่าที่นั่ง 7 ล้านบาท เพราะถือว่าเป็นพื้นที่เกรดเอ ส่วนตำแหน่งเดียวกันในพื้นที่อื่นสนนราคาจะอยู่ที่ 5 ล้านบาท
ไม่เพียงเท่านั้นในกระทรวงที่สิ่งแวดล้อมคนในระดับสูงไม่ดี เขารู้กันดีว่า มีคำสั่งลับจากผู้ใหญ่ในกระทรวงให้สามกรมหลัก หาเงินให้ได้เดือนละ 2 ล้านบาทต่อกรม ส่งให้ผู้ใหญ่มากในกระทรวง
มี “หลังบ้าน”คอยเก็บเงินเข้ากระเป๋า
หาเงินผ่านเมียเบอร์ 1 ยังไม่พอ ยังมีการถ่ายโอนงบประมาณจัดงานอีเวนท์ต่าง ๆ ของกระทรวงปีละเกือบ 100 ล้านบาทให้กับ “เมียน้อย”ที่เป็นอดีตผู้สื่อข่าวสังกัดช่องหลายสีอีกด้วย ส่วนจะชื่อ “เรยา”หรือเปล่าไม่แน่ใจ
รู้แต่ว่า มีคนชอบกิน “มะปราง”
ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่เจ้ากระทรวงร่วมรู้เห็นเป็นใจ ให้ “สองเมีย”ช่วยกันเก็บเข้ากระเป๋าไปสร้างฐานะ และเพื่อทำมาเป็นทุนซื้อเสียงเข้ามาโกงกินบ้านเมืองต่อไป
ขอบอกไปถึง “คนสองชื่อ”ว่าอย่าคิดว่ากินในทีลับแล้ววจะไม่ถูกไขในที่แจ้ง เพราะเวรกรรมมีจริงระบบตรวจสอบของบ้านเรา แม้จะยังทำงานได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นแต่ทุกองค์กรก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่
จุดจบของคนทุจริตโกงกินบ้านเมืองเป็นอย่างไร น่าจะรู้ซึ้งอยู่แก่ใจ เพราะมีตัวอย่างจากนักการเมืองชื่อดังอย่างน้อยสองคน คืออดีตหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ทิ้งอนุสรณ์การโกงผ่านตอหม้อโครงการยักษ์ แม้โทษทัณฑ์ทางกฎหมายจะเอาผิดไม่ได้ แต่ก็ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานจากโรคร้าย
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ รักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข ติดคุกจากการทุจริตยาตามคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 6 ปี ก่อนจะได้รับอิสรภาพและไปสำนึกบาปใต้ร่มกาวสาวพัตร

แต่เชื่อเถอะว่า เวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรไว้ วันหนึ่งก็ต้องชดใช้ผลจากการกระทำของตัวเองไม่ช้าก็เร็ว กรรมเก่ายังไม่ได้ชำระแต่ก็สร้างกรรมชั่วทับถมขึ้นอีกมาก ชั่วจริงๆ “คนสองชื่อ”
กำลังโหลดความคิดเห็น